ธ.ก.ส.ลุยปล่อยกู้ดิจิทัลผ่าน “แอป A mobile-ระบบออนไลน์” ตั้งเป้าปีบัญชี 2565 โกยสินเชื่อใหม่ 2 หมื่นล้านบาท จ่อเปิดตัวสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลเดือน เม.ย.นี้ ลูกค้า 3 กลุ่มกู้ได้ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท หวังช่วยแก้หนี้นอกระบบ
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในปีบัญชี 2565 นี้ (เม.ย. 2565-มี.ค. 2566) ธนาคารตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อดิจิทัล (digital lending) วงเงินทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารได้ออกสินเชื่อใหม่
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
โดยอนุญาตให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้เงินฝาก หรือ สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ทั้งของตนเองหรือบุคคลอื่นที่ยินยอมใช้เงินฝากของตนเองมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ โดยสามารถกู้ได้ถึง 90% ของยอดเงินฝาก ซึ่งเป็นการขอยื่นกู้ผ่านระบบดิจิทัล
ทั้งนี้ กรณีใช้บัญชีเงินฝาก ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ใช้เป็นประกันบวกด้วยอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม2% ต่อปี และกรณีใช้สลากออมทรัพย์เป็นประกัน ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ย MRR-2.75 ต่อปี (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50)
โดยผู้ยื่นกู้จะต้องมีมูลค่าสลากไม่น้อยกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งในปีนี้เราตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท
“สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล” ออกใหม่ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
นายธนารัตน์กล่าวว่า ภายในเดือน เม.ย.นี้ ธนาคารเตรียมจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกตัว เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล (digital personal loan) ซึ่งเป็นการให้กู้แบบไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อภายในปีนี้ 1 หมื่นล้านบาทเช่นกัน
โดยปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้า 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1.ลูกค้าเกษตรกร ที่มีศักยภาพที่จะใช้ดิจิทัล 2.กลุ่ม อสม. และ 3.พนักงานที่ทำงานในบริษัทพันธมิตร โดยได้ทำความร่วมมือกับพันธมิตรของธนาคาร เช่น พนักงานโลตัส เป็นต้น
ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อดังกล่าว จะให้อัตราต่ำกว่าดอกเบี้ยของสินเชื่อส่วนบุคคลในตลาด และทั้ง 3 กลุ่มเป้าหมาย อัตราดอกเบี้ยจะไม่เท่ากัน เช่น กรณีที่ให้กู้กับ อสม. รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท ผ่อนชำระไม่เกิน 36 เดือน อัตราดอกเบี้ย
ขึ้นอยู่กับอายุการทำงานในหน้าที่ อสม. เช่น หากมีอายุงานน้อยกว่า 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคิด 9% ต่อปี ถ้าอายุงานมากกว่า 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 8.25% เป็นต้น ทั้งนี้ ธนาคารตั้งวงเงินกู้แก่ อสม. ไว้ทั้งสิ้นรวม 4,000 ล้านบาท
ขณะที่กรณีเกษตรกรที่ขอสินเชื่อ จะให้กู้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 12% ต่อปี โดยมีวงเงินรวมที่ 5,000 ล้านบาท ส่วนสินเชื่อที่ให้กับพนักงานของบริษัทที่เป็นพันธมิตร จะให้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท ผ่อนชำระไม่เกิน 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 12% ต่อปี วงเงินรวม 1,000 ล้านบาท
“ในปีบัญชี 2565 นี้ ธ.ก.ส.ได้พัฒนาระบบ digital lending ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตั้งแต่การทำ e-KYC, การกู้ และการตรวจสอบสถานะของบัญชี และการชำระหนี้ ผ่านแอปพลิเคชั่น A mobile ของธนาคาร
เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยปัจจุบันแอป A mobile มีลูกค้าที่ลงทะเบียนใช้งานสะสมมากกว่า 3 ล้านราย และมีการเคลื่อนไหวในการทำธุรกรรม ประมาณ 2.3 ล้านราย ซึ่งปริมาณธุรกรรม A mobile ที่เพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นตัวที่ตอบโจทย์ให้ลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายด้วย” นายธนารัตน์กล่าว
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังได้มีการพัฒนาระบบ สำหรับลูกค้าอีกกลุ่มที่ต้องการทำธุรกรรมแบบเห็นหน้า ซึ่งธนาคารมีเครือข่ายตัวแทนของสถาบันการเงิน (banking agent) ทั้งบริษัทไปรษณีย์ไทย, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, เซเว่นอีเลฟเว่น, บิ๊กซี,ตู้บุญเติม และตู้เติมสบาย
โดยในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าการทำรายการเงินฝากมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท และมีจุดให้บริการรวมกว่า 1 แสนจุด
