ลีสซิ่งกสิกรไทย ส่ง “สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ”

ลีสซิ่งกสิกรไทย ส่งสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า

ลีสซิ่งกสิกรไทย จับมือ แกร็บ ประเทศไทย และ เอ็มจี ประเทศไทย จัดโปรแกรม “สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อพาร์ทเนอร์คนขับ” ผ่อนเริ่มต้นเพียงวันละ 227 บาทต่อวัน ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน หวังกระตุ้นพาร์ตเนอร์ใช้รถยนต์ไฟฟ้าหารายได้ สนองนโยบายรัฐ

วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เผยว่า เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มกลายมาเป็นที่สนใจของสังคมและผู้คนในวงกว้าง จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และมาตรการของทางภาครัฐที่ได้ออกมาสนับสนุนด้านราคา คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมียอดขายรถ EV อยู่ที่ประมาณ 10,000 คัน มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยการชะลอตัวของภาคการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

สำหรับธนาคารกสิกรไทย จากที่ได้เปิดตัวโครงการ GO GREEN Together โดยเป็นธนาคารแรกที่เชื่อมโยงและผลักดันให้เกิด Green Ecosystem อย่างครบวงจรและเกิด Green Lifestyle ขึ้นจริงในประเทศไทย ลีสซิ่งกสิกรไทยจึงสอดรับนโยบายด้วยแคมเปญสินเชื่อ Green Zero พร้อมขยายความร่วมมือกับแกร็บ และเอ็มจี ประเทศไทย ในการจัดทำโปรแกรม สินเชื่อรถ EV สำหรับพาร์ตเนอร์คนขับ สมัครสินเชื่อรถใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รับสิทธิขับฟรี 90 วันและไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้รถ EV อย่างแพร่หลาย ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ GO GREEN Together ของธนาคารกสิกรไทย

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย และ กรรมการผู้จัดการ แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในกลุ่มพาร์ตเนอร์คนขับถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่แกร็บมุ่งมั่นผลักดันเพื่อสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจ GrabForGood หรือแกร็บ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ เราได้ประกาศเป้าหมายระยะยาวในประเทศไทย โดยตั้งเป้าให้มีพาร์ตเนอร์คนขับที่ใช้รถ EV ให้ได้ 10% ภายในปี 2569 และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ล่าสุด แกร็บ ประเทศไทย จึงได้ผนึกความร่วมมือกับ ลีสซิ่งกสิกรไทย และ เอ็มจี ประเทศไทย พัฒนาโปรแกรม ‘สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับพาร์ตเนอร์คนขับ’ ขึ้นเป็นครั้งแรก”

“จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันมีพาร์ตเนอร์คนขับแกร็บให้ความสนใจที่จะหันมาใช้รถ EV เป็นจำนวนมากถึง 73.5% ทั้งนี้ โปรแกรมสินเชื่อดังกล่าวถูกออกแบบมาสำหรับกลุ่มพาร์ตเนอร์คนขับที่ยังไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง เนื่องจากอาจไม่สามารถเข้าถึงบริการทางเงินในระบบ หรือมีข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น ขาดผู้ค้ำประกันหรือขาดเงินก้อนในการดาวน์ โดยเราได้ทลายข้อจำกัดเหล่านั้นด้วยรูปแบบการผ่อนจ่ายแบบรายวันเริ่มต้นเพียง 227 บาท และอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้สามารถเป็นเจ้าของรถ EV ได้ไม่ยากและนำมาใช้เป็นเครื่องมือทำกินหรือสร้างรายได้ผ่านบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่นของแกร็บ”

นายจาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การผนึกความร่วมมือกับแกร็บ ผู้นำบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่น และลีสซิ่งกสิกรไทยในการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ที่ผ่านมา เอ็มจี มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้เข้าถึงผู้คนในวงกว้าง โดยหลังจากที่ภาครัฐได้ประกาศนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน เอ็มจี มียอดจองรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ถึงกว่า 4,500 คัน

นอกจากบทบาทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เอ็มจี ยังเป็นผู้สร้าง ‘ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า’ หรือ EV Ecosystem ที่ครบวงจรและครอบคลุมในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยการลงทุนในด้านเครือข่ายสถานีชาร์จ MG Super Charge ที่ปัจจุบันมีมากถึง 120 แห่งทั่วประเทศ และมีเป้าหมายในการเพิ่มสถานี MG Super Charge อย่างน้อย 1 แห่ง ในทุกๆ 150 กิโลเมตร ทำให้คนไทยมีความมั่นใจ และพร้อมที่จะเข้าสู่สังคม EV อย่างเต็มรูปแบบ