ราคาน้ำมันดิบลด หลังนักลงทุนหวั่นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ

ราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังนักลงทุนหวั่นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฉุดอุปสงค์ชะลอตัว

วันที่ 23 มิถุนายน 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Fed) เพื่อมุ่งลดภาวะเงินเฟ้ออันเนื่องจากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย และกดดันความต้องการใช้น้ำมันในตลาดให้ชะลอตัวลง ขณะเดียวกัน การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนผู้ถือครองเงินสกุลอื่นสนใจในการลงทุนน้ำมันดิบลดลง

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 22 มิ.ย. อยู่ที่ 106.19 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -4.46 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 111.74 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -2.91 เหรียญสหรัฐ

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติการระงับการจัดเก็บภาษีน้ำมันเบนซิน 18.4 เซนต์ต่อแกลลอนชั่วคราว เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงหลังปัจจุบันราคาขายปลีกน้ำมันเฉลี่ยของสหรัฐปรับเพิ่มสูงขึ้นแตะ 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ซึ่งปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 50 นับตั้งแต่ต้นปี 2565

หลังตลาดปิดสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 17 มิ.ย. 65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5.6 ล้านบาร์เรล และสำหรับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของอินเดียในเดือน ก.ค. ที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดในจีน

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานปรับตัวเพิ่มขึ้นตามอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในภูมิภาค ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นภายหลังการเปิดประเทศในหลายประเทศ