กทม.ติดโควิดเพิ่ม 16 ราย “ดีเจมะตูม” ยังไม่เป็น Super Spreader เตือนคนใส่ “เฟซชิลด์”

Photo by STEFANIE LOOS / AFP

กทม.ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 16 ราย ไม่รวม “ดีเจมะตูม” ติดจากพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยง ยอดรวมสะสม 635 ราย เดินหน้าตรวจเชื้อเชิงรุก ชี้ราย”ดีเจมะตูม” ยังไม่เป็น Super Spreader  ศบค.เตือนผู้จัดรายการใส่แค่ “เฟซชิลด์” อย่างเดียว ไม่พอ ต้องสวมแมสก์ เว้นระยะห่าง 2 เมตร

วันที่ 21 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบมีผู้ติดเชื้อใหม่ 16 ราย แบ่งได้ 2 กลุ่ม

ดีเจมะตูมยังไม่รวมวันนี้

กลุ่มแรก เป็นการติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ 14 ราย ซึ่งในจำนวนผู้ติดเชื้อนี้ ยังไม่รวมการติดเชื้อของ นายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม

สำหรับรายละเอียดผู้ติดเชื้อใหม่ประกอบด้วย เพศชาย 7 ราย อายุ 5 เดือน – 56 ปี เพศหญิง 7 ราย อายุ 24-62 ปี

สัญชาติไทย 13 ราย และแรงงานข้ามชาติ อีก 1 ราย ไม่มีอาการ 7 ราย และมีอาการไข้ 7 ราย

รักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนใน กทม. 8 ราย, โรงพยาบาลกลาง 1 ราย, โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ 1 ราย, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 1 ราย, โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน 1 ราย และรอสอบสวนโรค 2 ราย

และพบจากการคัดกรองเชิงรุกอีก 2 ราย เป็นเพศชายทั้งหมด อายุ 37 และ 39 ปี เป็นแรงงานข้ามชาติทั้งหมด พบไม่มีอาการป่วย สถานรักษาพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน 1 ราย และโรงพยาบาลเอกชนใน กทม. 1 ราย

ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม (18 ธ.ค. 2563 – 21 ม.ค. 2564) รวมแล้วอยู่ที่ 635 ราย อยู่อันดับ 3 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด รองจาก จ.สมุทรสาคร และชลบุรี

กทม.ยังเสี่ยงเป็นแหล่งกระจายโรค

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า จากที่ กทม.มีต้วเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในหลัก 10 คน ก็มีการหารือเหมือนกันว่า ถ้าเทียบกับประชากรทั้งจังหวัดถือว่าเยอะหรือไม่ ส่วนจะเป็นแหล่งกระจายเชื้อหรือไม่ ต้องยอมรับว่า กทม.เป็นศูนย์กลางของประเทศ มีผู้คนจำนวนมาก ไปได้ทุกที่ จึงไม่แปลกที่พบเคสติดเชื้อใหม่แล้วกระจายไปทั่ว

ส่วนการตรวจหาเชิงรุก กทม.แจ้งมาว่าได้ทำไปแล้ว 41,508 ราย เจอติดเชื้อ 60 ราย ถือว่ายังพบแบบประปราย แต่การติดเชื้อใน กทม.คละเคล้ากันมาก เพราะติดเชื้อในหลายรูปแบบ ทั้งจากขนส่งสาธารณะ บ่อน จ.สมุทรสาคร สถานบันเทิง เป็นต้น

“ดังนั้น สิ่งที่ต้องคุยกันมากคือการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล และต้องจัดมาตรการในการควบคุมโรคโดยเฉพาะการจัดรายการในสตูดิโอด้วย”

แนะคนหน้าจอ เฟซชิลด์ไม่พอ

ทั้งนี้ การที่รายการโทรทัศน์และวิทยุหลายรายการให้พิธีกรใช้เฟซชิลด์อย่างเดียว ถือว่ายังไม่พอในการป้องกันโรค เพราะยังมีละอองฝอยของน้ำลายที่อาจจะพ่นออกไปได้ ควรเพิ่มมาตรการ social distancing ระหว่างกัน 2 เมตรขึ้นไป แต่ถ้าเอาแบบชัวร์ที่สุด ควรใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเพิ่มจะดีกว่า

“การใช้เฟซชิลด์อย่างเดียวไม่ได้ช่วยอะไรเลย เป็นแค่ฉากกั้น เวลาพูดละอองฝอยสามารถหลุดรอดออกมาได้ มีโอกาสได้รับละอองฝอย เพราะฉนั้นไม่ช่วย ที่จะช่วยคือระยะห่างต้องเกิน 2 เมตร” นายแพทย์ทวีศิลป์กล่าวย้ำ

ไม่สรุปดีเจมะตูมเป็น Super Spreader

ส่วนการติดเชื้อของดีเจมะตูมจะเป็น Super Spreader หรือไม่ ยังเร็วไปที่จะสรุป แต่ขอขอบคุณดีเจมะตูมก่อนที่เปิดเผยและบอกรายละเอียดไทม์ไลน์ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอ แต่จะกลายเป็น Super Spreader หรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับดีเจท่านนี้ตื่นตัวและแยกกักตัวเองตามมาตรการหรือไม่