สธ. เผยรายละเอียด 15 ราย ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย

กระทรวงสาธารณสุข แถลงรายละเอียด กรณีตรวจพบเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียในแคมป์คนงานเขตหลักสี่ 15 ราย เบื้องต้นทุกรายไม่แสดงอาการ ทั้งหมดถูกแยกตัวและส่งรักษาในโรงพยาบาลแล้ว พร้อมเผยข้อมูลจากอังกฤษสายพันธุ์นี้ไม่มีผลต่อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 กระทรวงสาธารณสุขแถลงกรณีพบเชื้อกลายพันธุ์คลัสเตอร์หลักสี่ โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า จากการแพร่ระบาดที่แคมป์คนงานเขตหลักสี่ได้มีการนำตัวอย่างทั้งหมด 61 ตัวอย่าง ไปตรวจหาสายพันธุ์ในห้องปฏิบัติการ พบว่าตรงกับสายพันธุ์อินเดีย 15 ตัวอย่าง หรือ 15 คน ในจำนวนนี้เป็นเพศชาย 7 คน เพศหญิง 8 คน อายุเฉลี่ย 46 ปี ส่วนใหญ่มีอาการน้อย และไม่แสดงอาการ ตอนนี้ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว

•ด่วน! ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิด “สายพันธุ์อินเดีย” ที่แคมป์คนงานหลักสี่ 15 คน

ซึ่งทั้ง 15 ราย พบว่าเป็นคนงานในแคมป์ก่อสร้าง 12 คน ส่วนอีก 3 คน เป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน ดังนั้น สธ.จะมีการตรวจสอบควบคุมโรค และจะติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับ 15 รายต่อไป

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า สำหรับสายพันธุ์อินเดียกำลังระบาดมากในอินเดียก็มีการค้นพบในหลายประเทศเช่นกัน โดยประเทศที่มีการถอดรหัสพันธุกรรมและพบมากคืออังกฤษ รวมทั้งรอบบ้านเราอย่างมาเลเซีย และล่าสุดพบที่สนามบินชางงี สิงคโปร์ และที่เมียนมาร์-กัมพูชา แม้จะยังมีข้อมูลในการถอดรหัสพันธุกรรมค่อนข้างจำกัด แต่ก็เชื่อได้ว่าอาจจะมีสายพันธุ์อินเดียซ่อนอยู่ ฉะนั้นไทยจึงมีโอกาสที่สายพันธุ์อินเดียจะหลุดลอดเข้ามาได้ ก็จะมีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และรายงานในรายละเอียดต่อไป

ทั้งนี้ จากข้อมูลจากประเทศอังกฤษของหน่วยงาน Plublic Health England ที่มีหน้าที่โดยตรงในการควบคุมโรคประเทศอังกฤษ ระบุเกี่ยวกับเชื้อไวัสโควิด-19 ในอังกฤษว่า

ประการที่หนึ่ง สายพันธุ์อินเดีย การแพร่กระจายของโรคไม่ได้แตกต่างจากสายพันธุ์อังกฤษ

ประการที่สอง ความรุนแรงของโรค ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าโควิดสายพันธุ์อินเดียจะรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อังกฤษ

ประการที่สาม เรื่องการตอบสนองต่อวัคซีน พบว่าสายพันธุ์อินเดียไม่ดื้อหรือมีปฏิกริยาต่อต้านกับวัคซีน แปลว่าวัคซีนหลักที่เรากำลังจะใช้ แอสตร้าเซนเนก้า ยังสามารถป้องกันได้ทั้งสองสายพันธุ์ เช่นที่ประเทศอังกฤษเองก็ใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนหลัก ในขณะที่ประเทศพบเชื้อทั้งสองสายพันธุ์ แต่เมื่อประชาชนได้รับวัคซีนแล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดลง

อย่างไรก็ตามเชื้อของโคโรน่าไวรัส หรือโควิด19 มีการกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา จากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่เราพบที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ขณะนี้มีการกลายพันธุ์ไปหลายสายพันธุ์ นำมาซึ่งความกังวลหลายประการ คือ 1.กลายพันธุ์แล้วมีการแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น 2.กลายพันธุ์แล้วทำให้ความรุนแรงของโรคมากขึ้น เสียชีวิตมากขึ้น 3.ทำให้วัคซีนไม่มีประสิทธิภาพหรือป้องกันโรคได้ไม่ดี ซึ่งสายพันธุ์ที่ทั่วโลกกำลังจับตาอยู่ขณะนี้ ได้แก่ สายพันธุ์อังกฤษ, สายพันธุ์อินเดีย, สายพันธุ์บราซิล และสายพันธุ์อัฟริกาใต้ ล่าสุดกำลังพูดถึงการระบาดของสายพันธุ์สิงคโปร์ที่แต่ทางฝั่งสิงคโปร์ได้ออกมาปฏิเสธแล้ว ฉะนั้นก็ต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และศึกษาถึงความเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ตลอด

ทั้งนี้ จากที่กล่าวมา 4 สายพันธุ์ ที่มีการระบาดในประเทศไทยขณะนี้ ส่วนใหญ่ยังเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ที่การแพร่กระจายเชื้อจะเป็นไปอย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ประเทศจีน ย้ำว่า สธ.กำลังติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด รวมถึงลงไปดำเนินการร่วมกับกรุงเทพมหานครในการควบคุมโรค ตรวจหาผู้ป่วยเชิงรุก