เนรมิต “ซีรีส์” 24 ชม.ด้วย ChatGPT

Nothing, Forever
คอลัมน์ : Tech Times
ผู้เขียน : มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

จะเป็นอย่างไรนะ ถ้าซีรีส์เรื่องโปรดของเราจะฉายต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบทที่สดใหม่เสมอ ไม่มีวันซ้ำและไม่มีวันจบ

หากใครเคยติดซีรีส์มาก ๆ คงเข้าใจความรู้สึกที่ไม่อยากให้ถึงตอนจบ แต่เมื่องานเลี้ยงยังมีเลิกรา ซีรีส์ก็ย่อมมีวันลาจอ เพราะคงไม่มีคนเขียนบทที่ไหนจะสามารถเขียนเรื่องเดิมไปตราบชั่วฟ้าดินสลายแบบไม่มีวันหมดมุข

แต่เพราะเทคโนโลยีมักทำให้สิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้เสมอ จึงมีสตาร์ตอัพแห่งหนึ่งที่ทดลองนำ AI มาสร้าง ซีรีส์ออนไลน์แบบที่ไม่ต้องง้อนักแสดง คนเขียนบท หรือฝ่ายโปรดักชั่นใด ๆ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยีล้วน ๆ

Mismatch Media สร้างความฮือฮาบนโลกออนไลน์ด้วยการเปิดตัว “Nothing, Forever” ซีรีส์ที่กำกับและเขียนบทโดย ChatGPT เป็นเรื่องแรกผ่านแพลตฟอร์ม Twitch เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

“Nothing, Forever” เป็นซีรีส์ที่สร้างล้อเลียน “Seinfeld” ซิตคอมเรื่องดังแห่งยุค 90s ซึ่งมีตัวละครหลัก 4 คน เป็นเพื่อนสนิทที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน โดย Mismatch Media ใช้ ChatGPT สร้างบทขึ้นใหม่โดยอิงเค้าโครงเรื่องเดิมของ “Seinfeld” ที่ฉายต่อเนื่องระหว่างปี 1989 ถึง 1998 เป็นจำนวน 180 ตอน

แต่แฟน ๆ ของ “Seinfeld” คงไม่ค่อยชอบ “Nothing, Forever” เท่าไหร่ เพราะตัวเอกของเรื่องกลายเป็นการ์ตูนที่วาดแบบหยาบ ๆ เหมือนเด็ก 3 ขวบวาด เสียงพูดก็ไร้อารมณ์ เหมือนตัดเอาคำมาเรียงกันเฉย ๆ แถมมุขตลกก็แป้กแล้วแป้กอีก แม้จะพยายามบิลด์ด้วยการปล่อยเสียงคนหัวเราะออกมาเป็นระยะ ก็ไม่ช่วยอะไร เพราะบางทีตัวละครยังไม่ทันปล่อยมุขก็มีเสียงหัวเราะออกมาเสียแล้ว

แต่จุดเด่นของ “Nothing, Forever” ไม่ได้อยู่ที่บทบาทการแสดงหรือมุขตลกที่ทำให้ “Seinfeld” ประสบความสำเร็จเมื่อ 30 ปีก่อน หากอยู่ที่การฉายภาพอนาคตที่วันหนึ่งวงการบันเทิงอาจโดน disrupt อย่างหนักด้วยเทคโนโลยี AI และ generative media อย่าง ChatGPT ที่สามารถเนรมิตซีรีส์ได้ 24 ชั่วโมงแบบ nonstop

สกายเลอร์ ฮาร์ตเทิล ผู้ร่วมก่อตั้ง Mismatch Media บอกว่า โจทย์หลักของทีมงาน คือ จะนำเอาเทคโนโลยีมาสร้างคอนเทนต์ใหม่ตลอดเวลาได้อย่างไร ซึ่งทีมตั้งเป้าไว้ว่าจะพัฒนาระบบให้สามารถผลิตซีรีส์คุณภาพระดับ Netflix ให้ได้ โดยที่คนดูสามารถดูได้ตลอดเวลาและมีตอนใหม่ ๆ มาให้ดูไม่จบสิ้น

และในอนาคต ทีมงานยังมีแผนที่จะพัฒนาระบบให้คนดูมีส่วนในการสร้างบทหรือกำหนดโครงเรื่องร่วมกัน พร้อมกับสร้างแพลตฟอร์มเพื่อให้บรรดาคอนเทนต์ ครีเอเตอร์ สามารถใช้เป็นฐานในการผลิตรายการหรือซีรีส์ของตัวเองด้วย

แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ก็ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยี ChatGPT ยังไม่เสถียร แม้กระทั่ง OpenAI ผู้พัฒนาระบบยังยอมรับว่า ต้องมีการพัฒนาปรับแก้มากกว่านี้ จึงไม่แปลกใจที่วันดีคืนดี “Nothing, Forever” ก็ถูก Twitch แบบเป็นเวลา 2 อาทิตย์ หลังจากที่ตัวละครในเรื่องปล่อยมุขแสดงความเกลียดกลัวเกย์และคนข้ามเพศออกมา

ทางทีมงานแถลงว่า สาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนไปใช้ ChatGPT-3 โมเดลเก่า (“Curie”) ชั่วคราว แทนที่โมเดลปัจจุบัน (“Davinci”) ที่เกิดเหตุขัดข้อง และทีมงานได้ทำการแก้ไขข้อผิดพลาดแล้วและพัฒนาระบบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต

เอาเป็นว่าวันนี้ผู้กำกับ นักแสดง ไปจนถึงผู้เขียนบท ยังไม่ต้องกังวลว่า AI จะมาแย่งงานในเร็ววัน แต่ก็อย่าประมาท เพราะเทคโนโลยีมันพัฒนาเร็วขึ้นทุกวัน เผลอไม่ทันไร อาจโดน disrupt ไม่รู้ตัวก็เป็นได้