Meta พัฒนา AI ความสามารถเทียบเท่า ChatGPT-4

META
Photo by Lionel BONAVENTURE / AFP

“Meta” เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งด้าน AI อย่างต่อเนื่อง วางแผนพัฒนาโมเดล AI ใหม่ที่มีแรงกว่า “Llama 2” หลายเท่า ตั้งเป้าความสามารถเทียบเท่า “ChatGPT-4”

วันที่ 11 กันยายน 2566 สำนักข่าวเดอะวอลล์สตรีตเจอร์นัล (The Wall Street Journal) รายงานว่า “เมตา” (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) กำลังพัฒนาโมเดล AI ใหม่ที่ตั้งเป้าให้มีประสิทธิภาพเท่ากับโมเดลที่ทันสมัยที่สุดของ OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT แชตบอตสุดโด่งดัง

ทั้งนี้ Meta ตั้งเป้าเริ่มฝึกโมเดล AI ใหม่ในปีหน้า และมีประสิทธิภาพมากกว่า “Llama 2” ที่เปิดตัวเมื่อ 2 เดือนที่แล้วหลายเท่า พร้อมทั้งช่วยให้บริษัทอื่น ๆ สามารถสร้างบริการและการวิเคราะห์ผลลัพธ์อื่น ๆ ที่ซับซ้อนได้มากขึ้น

แผนการพัฒนาโมเดล AI ใหม่ของ Meta สะท้อนถึงทิศทางการทำธุรกิจของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ที่มองว่า AI จะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนโลกเทคโนโลยี หลังจากการแข่งขันระหว่างบิ๊กเทคผู้พัฒนา AI ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปีนี้

รายงานข่าวระบุว่า Meta กำลังสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาโมเดล AI ใหม่ และเพิ่มคำสั่งซื้อชิปรุ่นที่ทันสมัยที่สุดที่ใช้สำหรับการเทรน AI อย่าง H100 ของ “เอ็นวิเดีย” (Nvidia) ยักษ์ผู้ผลิตการ์ดจอในสหรัฐอีกด้วย

นอกจากนี้ การที่ Meta คาดหวังให้โมเดล AI ใหม่มีความสามารถเทียบเท่า ChatGPT-4 ที่ OpenAI เปิดตัวในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ยังสะท้อนถึงการวางรากฐานในการสร้างรายได้ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่นเดียวกับที่ OpenAI เปิดตัว ChatGPT for Business ได้ไม่นาน และสร้างกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำได้แล้ว เช่น เอสเต ลอเดอร์ (Estee Lauder) และแคนว่า (Canva) เป็นต้น

แม้ว่า Meta จะมีแผนการพัฒนาโมเดล AI ใหม่ที่ประสิทธิภาพมากกว่า Llama 2 หลายเท่า แต่ปัจจุบันก็ยังคงร่วมมือกับ “ไมโครซอฟท์” (Microsoft) ในการเปิดให้ใช้ Llama 2 บนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์คลาวด์ของ Microsoft Azure ได้ด้วย