
AWS ประกาศตั้ง “AWS Region” โครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาคในไทย มูลค่าการลงทุนถึงปี 2580 มากกว่า 1.9 แสนล้านบาท พร้อมเปิดให้บริการช่วงต้นปี 2568 หนุนศักยภาพด้านดิจิทัลของไทย สอดรับวิสัยทัศน์ Ignite Thailand และ Cloud First Policy
วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services หรือ AWS) ประกาศลงทุนใน AWS Asia Pacific (Bangkok) Region ที่ตั้งในประเทศไทย ด้วยมูลค่ามากกว่า 1.9 แสนล้านบาท (หรือ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) จนถึงปี 2580 และจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนา สตาร์ตอัพ ผู้ประกอบการ และองค์กรต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรไม่แสวงผลกำไร สามารถเลือกใช้บริการคลาวด์สำหรับรันแอปพลิเคชั่นและให้บริการแก่ผู้ใช้ปลายทางจากศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
โดย AWS Region ใหม่ที่กำลังจะเปิดใช้งานเป็นโครงสร้างพื้นฐานของ AWS ในประเทศไทย เพิ่มเติมจาก Amazon CloudFront ทั้งหมด 10 แห่งรวมถึง AWS Outposts และ AWS Local Zone ที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย ทั้งนี้ AWS Region ใหม่ถือเป็น Region ที่ 4 ของ AWS ที่เปิดตัวในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งประกอบไปด้วย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเก็บข้อมูลไว้ในประเทศไทย ช่วยให้ลูกค้าสามารถลดความหน่วงของการรับส่งข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการในการใช้คลาวด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยินดีต้อนรับการลงทุนของ AWS กว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการสร้าง AWS Thailand Region แห่งใหม่ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของประเทศไทยก้าวไปอีกขั้น การลงทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพิ่มโอกาส และความสามารถในการแข่งขันของไทย และส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ ผู้ประกอบการ และสตาร์ตอัพไทยนับพันราย ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของนโยบาย Cloud First ที่สนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางเครษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใด้
“เชื่อว่า AWS Thailand Region จะสนับสนุนโอกาสทางเศรษฐกิจเสริมสร้างทักษะดิจิทัลให้แก่บุคลากรในประเทศ รวมถึงขับเคลื่อนนวัตกรรม รัฐบาลพร้อมที่จะร่วมมือกับ AWS ในการดึงศักยภาพและสร้างประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาครั้งนี้ไปสู่ประชาชนชาวไทยทุกคน ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ ผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก”
ด้านนายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ AWS กล่าวว่า AWS Region ในประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนศักยภาพด้านดิจิทัลของไทย และรองรับความต้องการของตลาดในด้านเทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมทั้งในประเทศไทยและทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ Ignite Thailand และนโยบาย Cloud First ของภาครัฐ ที่มุ่งพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลด้วยการขับเคลื่อนนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยี
“ความต้องการใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์และ AI มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานแห่งใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้าตั้งแต่สตาร์ตอัพ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และหน่วยงานภาครัฐ สามารถร่วมมือ ทดลอง พัฒนา และเติบโตไปด้วยกัน การเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด เช่น Generative AI, แมชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning หรือ ML) และ Internet of Things (lOT) เป็นต้น”
นอกจากนี้ AWS ยังมีแผนฝึกอบรมทักษะด้านคลาวด์ให้กับคนไทย โดยตั้งแต่ปี 2560 ได้ฝึกอบรมบุคลากรมาแล้วกว่า 50,000 คน และจะฝึกอบรมให้ถึง 100,000 คนภายในปี 2569 ซึ่ง AWS ได้ร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES), กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI) และองค์กรในภาคเอกชน เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
อีกทั้งในเดือน พ.ย. 2566 “แอมะซอน” (Amazon) ได้เปิดตัวโครงการ “AI Ready” ที่นำเสนอหลักสูตรฝึกอบรมด้าน AI และ Generative Al แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเสริมสร้างทักษะด้าน AI เหมาะกับผู้เรียนทั้งกลุ่มที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ และเน้นทักษะหรือเทคนิคเฉพาะทาง ถือเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกอบรมทักษะด้านคลาวด์ให้กับผู้คนกว่า 29 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2568
ทั้งนี้ AWS Academy ช่วยให้สถาบันอุดมศึกษาเข้าถึงหลักสูตรด้านคลาวด์ที่พร้อมสอนฟรี ซึ่งเตรียมความพร้อมให้นักเรียนสามารถสอบเพื่อรับใบรับรองที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมและสายงานคลาวด์ที่เป็นที่ต้องการ โดยปัจจุบันมีนักศึกษาจาก 26 สถาบันในประเทศไทยที่สามารถเข้าถึงหลักสูตรนี้ได้ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น
นอกจากนี้ AWS ยังได้เปิดตัวโปรแกรมฝึกอบรมมาตรฐานอื่น ๆ ในประเทศไทยอีกมากมาย เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็นและช่วยให้ประสบความสำเร็จในสายงานด้านดิจิทัลได้ เช่น AWS Skill Builder ซึ่งเป็นการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัลที่มีหลักสูตรออนไลน์ด้านทักษะคลาวด์ฟรีมากกว่า 600 หลักสูตร รวมถึง 62 หลักสูตรที่เป็นภาษาไทย รวมถึงมีศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ใหม่ที่ช่วยให้สร้างทักษะด้าน AWS Cloud ได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม AWS ได้ให้บริการลูกค้าในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2549 และต่อมาได้เปิดสำนักงานในกรุงเทพมหานครในปี 2558 เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของทุกอุตสาหกรรมในประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ขั้นสูง