เปิด “แอปเปิลสโตร์” 2 แห่งในไทย ไอคอนสยามนำร่องดีเดย์ 9 พ.ย.

แอปเปิลสโตร์/ไอคอนสยาม
แฟ้มภาพ
สิ้นสุดการรอคอย “แอปเปิลสโตร์” ในไทยเตรียมเผยโฉมรวดเดียว 2 แห่ง เตรียมเปิดตัวแห่งแรกสุดยิ่งใหญ่พร้อม “ไอคอนสยาม” วันที่ 9 พ.ย. ตามด้วยสาขา “เซ็นทรัลเวิลด์” ต้นปีหน้า คาดลงทุนแห่งละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ครองใจสาวกแอปเปิล ขณะที่ “ไอโฟน X” รุ่นใหม่ลงตลาดปลายเดือน ต.ค.นี้

 

ในที่สุดช็อปแสดงสินค้าและนวัตกรรมของยักษ์ “แอปเปิล” ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวในบ้านเราเสียที โดยปลายปีนี้ถึงไตรมาสแรกปีหน้า คนไทยจะได้ยลโฉม “แอปเปิลสโตร์” (Apple Store) ถึง 2 แห่งด้วยกัน หลังเปิด “แอปเปิลสโตร์” แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้ว บนย่านช็อปปิ้งสตรีต “ออร์ชาร์ด” ที่ประเทศสิงคโปร์ ในเดือน พ.ค.ปีที่ผ่านมา

แหล่งข่าวในธุรกิจโทรคมนาคมกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่สำหรับแอปเปิล มีผลิตภัณฑ์หลายตัวได้รับความนิยมทั้งคอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาร์ทโฟน “ไอโฟน” ที่มียอดขายเฉลี่ย 1.8-2 ล้านเครื่อง/ปี ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ค่อนข้างมากในกลุ่มสินค้าไฮเอนด์ ซึ่งผ่านมาแอปเปิลได้วางแผนที่จะเปิดแอปเปิลสโตร์ในประเทศไทยมานานกว่า 3 ปีแล้ว

ล่าสุดเลือกเปิดสาขาแรกในโครงการ “ไอคอนสยาม” (โซนระเบียงริมแม่น้ำเจ้าพระยา) โดยจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดตัวในวันเดียวกับที่ไอคอนสยามเปิดเป็นทางการคือ วันที่ 9 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ส่วนอีกสาขาจะอยู่ที่ “เซ็นทรัลเวิลด์” ซึ่งอยู่ระหว่างการรีโนเวตพื้นที่ภายในใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงต้นปีหน้า

สำหรับรูปแบบของ “แอปเปิลสโตร์” ที่กำลังจะเปิดในประเทศไทยคงไม่แตกต่างไปจากสาขาที่สิงคโปร์ ที่เปิดไปแล้วก่อนหน้านี้ คือ มีชั้นใต้ดินเป็นคลังสินค้า ส่วนชั้นที่ 1 จะเป็นที่วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของแอปเปิลทั้งหมด ทั้งแม็คบุ๊ก, แม็คแอร์, ไอแพด, ไอโฟน และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลำโพง, คีย์บอร์ด, หูฟัง เป็นต้น โดยแต่ละจุดจะมีพนักงานคอยอำนวยความสะดวกตั้งแต่การอธิบายคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการคิดเงิน หากลูกค้าต้องการซื้อผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่

ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรม และเวิร์กช็อปต่าง ๆ ซึ่งจะไม่ได้มีเฉพาะเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ เปรียบได้กับพื้นที่สำหรับการเรียนรู้แนวคิดของแอปเปิล และเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น เรื่องเทคโนโลยีเอไอ (ปัญญาประดิษฐ์) และไอโอที (อินเทอร์เน็ตออฟทิงส์) รวมถึงการให้คำปรึกษาและบริการหลังการขาย

“นอกจากพื้นที่จะมีขนาดใหญ่มากและออกแบบโปร่งใส ด้านหน้าเป็นกระจกแผ่นใหญ่แบบไร้รอยต่อ ทำให้หากมองจากด้านนอกเข้ามาจะเห็นความเคลื่อนไหวภายในแล้ว ส่วนที่เป็นบันไดเชื่อมระหว่างชั้นหนึ่งกับชั้นสองยังถือเป็นจุดเด่นใหม่ เพราะจะไม่ใช่กระจกใสแบบแอปเปิลสโตร์เดิม แต่บันไดจะเป็นหินอ่อนจากอิตาลีที่มีขนาดใหญ่ สะท้อนถึงความเรียบหรู และทันสมัยในเวลาเดียวกัน”

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า การลงทุนในแอปเปิลสโตร์ของแอปเปิลในแต่ละแห่ง น่าจะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากไม่ใช่เฉพาะแค่ใช้พื้นที่ขนาดใหญ่มีชั้นใต้ดิน ซึ่งก่อสร้างได้ค่อนข้างยากและอยู่ในทำเลที่ดีมากเท่านั้น แต่การออกแบบทั้งภายใน และภายนอกยังใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยมทั้งหมด

“ไอโฟนรุ่นใหม่ ได้แก่ iPhone XR, XS และ XS Max ที่จะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยปลายเดือน ต.ค.นี้ เริ่มจากรุ่น XS ก่อน คาดว่าค่ายมือถือต่าง ๆ จะเปิดรับจองและประกาศวางขายเร็วๆ นี้”

ด้านนายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอปเปิล กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การเข้ามาเปิดแอปเปิลสโตร์ทั้ง 2 แห่งในประเทศไทยน่าจะส่งผลดีกับการทำตลาดสินค้าภายใต้แบรนด์แอปเปิล ซึ่งบริษัทจำหน่ายอยู่ เพราะจะมีการโปรโมตและทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ที่จะช่วยสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกทั้งแต่ละสาขายังเปิดในตัวเมือง ขณะที่ร้านส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในแถบชานเมือง จึงเชื่อว่าจะไม่มีการแย่งตลาดกัน

ปัจจุบันบริษัทมีร้านสตูดิโอเซเว่น (Studio7) ที่จำหน่ายสินค้าแอปเปิล จำนวน 90 สาขาทั่วประเทศ

“ในส่วนของการจำหน่ายไอโฟนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเร็ว ๆ นี้ เชื่อว่าจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดี เพราะหลังเปิดตัวในต่างประเทศไปแล้ว มีฟีดแบ็กจากลูกค้าเข้ามาถามหาต่อเนื่อง”

ไอคอนสยาม” บิ๊กโปรเจ็กต์ทำเลทองบนพื้นที่ 55 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกและที่อยู่อาศัย ได้รับการจับตามองว่าจะสร้างความคึกคักให้กับแวดวงธุรกิจในช่วงปลายปีนี้ มีพื้นที่รวมถึง 750,000 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนถึง 54,000 ล้านบาท บวกกับการออกแบบอาคารที่ได้แรงบันดาลใจจากกระทง บายศรี และการห่มสไบ เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์และสื่อความเป็นไทย เพื่อปั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก