ธุรกิจท่องเที่ยวสงขลาพุ่ง 200% มาเลเซีย-สิงคโปร์-อินโดนีเซียแห่จับจ่าย

ด่านสะเดา

หอการค้าสงขลาชี้ ศก.จังหวัดฟื้นตัว หลังเปิดประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย แห่เที่ยว ยอดจองโรงแรมเต็ม 100% สินค้ายอดพุ่งเพิ่มขึ้น 200% มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ระบุ ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนพบว่าปัจจัยบวกที่สำคัญคือการท่องเที่ยว

นายธนวัฒน์ พูนศิลป์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และได้เปิดประเทศด้วยการยกเลิกไทยแลนด์พาสมาตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาค่อนข้างดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจะจองเข้าพักโรงแรมเต็ม 100%

นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่มาเป็นคณะ รวมถึงการมาประชุมสัมมนาของข้าราชการ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ทำให้ธุรกิจการค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงแรม กระเตื้องขึ้นตามลำดับ

ขณะที่แหล่งข่าวจากสมาชิกหอการค้าจังหวัดสงขลารายหนึ่ง เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวมากขึ้น ทำให้ยอดขายของห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ในย่านธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 200% เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาหาดใหญ่ จากยอดขายปกติประมาณ 200,000 บาท/วัน ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท/วัน

ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยว่า จากการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่าปัจจัยบวกที่สำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว คือ การท่องเที่ยว คาดว่าในปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทยราว 10.3 ล้านคน

โดยความต้องการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลกแล้ว และในไตรมาส 4 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่น คนไทยมีแนวโน้มท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ภาคบริการในภาพรวมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร การขนส่ง ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผศ.ดร.วิวัฒน์ขยายความว่า ทั้งนี้ เศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ในพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนนอกพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว การขยับตัวของเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงทำให้ผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่การลงทุนยังชะลอลงมาก เนื่องจากค่าครองชีพและต้นทุนของภาคธุรกิจที่ยังคงสูง

อีกทั้งรายได้ครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางไม่สมดุลกับรายจ่ายในปัจจุบัน ตลอดจนภาวะเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยเงินกู้สูง ส่งผลให้ภาระหนี้สูงขึ้น และความไม่แน่นอนทางการเมืองกระทบความเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว อย่างไรก็ตาม ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพกังวลกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มกลับมาระบาดอีกครั้งในพื้นที่ และมีแนวโน้มที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้าพบว่า ส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 35.40 และ 37.10 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยวในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 34.50 และ 36.20 ตามลำดับ และความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.50, ร้อยละ 38.60 และ 32.40 ตามลำดับ