40 ค้าปลีกภูธรผนึกกำลัง ดิ้นอัดแคมเปญปลุกกำลังซื้อทั่วประเทศ

ค้าปลีกภูธร

ค้าส่ง-ค้าปลีกภูธร 40 รายทั่วประเทศผนึกกำลัง จัดมหกรรมลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ Local Low Cost ตั้งแต่ 1-10 กันยายน พร้อมกันทั่วประเทศ หวังกระตุ้นยอดขาย-ลดค่าครองชีพประชาชน เผยหลังเลือกตั้งเศรษฐกิจ-กำลังซื้อ ซึมหนัก “ตั้งงี่สุน อุดรธานี” ขนทัพสินค้าลดกระหน่ำ “ยงสงวน” จัดรายการลุ้นโชคเสริม ส่วน “ธนพิริยะ” เพิ่มโฟกัสขายส่งดึงร้านค้ารายย่อย มั่นใจยอดพุ่ง 20-30%

บรรยากาศการค้าของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่ค่อนข้างซบเซาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงครึ่งปีที่ผ่าน โดยเฉพาะตลาดในต่างจังหวัดที่ค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่หลาย ๆ รายมีตัวเลขยอดขายที่ลดลงกว่า 20-30% ซึ่งเป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจในภาพรวมที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก

ขณะที่กำลังซื้อผู้บริโภคยังมีปัญหา จากภาระค่าครองชีพต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งภาครัฐไม่มีมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายออกมาสนับสนุน และเป็นที่มาของการผนึกกำลังของผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ในต่างจังหวัด 40 ค่าย จัดแคมเปญส่งเสริมการขายครั้งใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายในช่วง 1-10 กันยายนที่จะถึงนี้

ค้าปลีกภูธรผนึกกำลังครั้งใหญ่

นายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ เคแอนด์เค จังหวัดสงขลา ผู้ประกอบการค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ในภาคใต้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 สมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้ทำหนังสือเชิญกลุ่มค้าปลีกภูธรจำนวน 40 ราย จากทั่วทุกภาคมาร่วมประชุมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยมีการเชิญตัวแทนจากบริษัทผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์รายใหญ่

อาทิ ยูนิลีเวอร์, คอลเกต, สหพัฒนพิบูล, เนสท์เล่ ฯลฯ มาเข้าร่วม เป็นการรวมตัวกันให้สามารถรวมอำนาจในการซื้อ เพื่อต่อรองซัพพลายเออร์ให้ลดราคาสินค้า เพื่อให้ประชาชนได้ซื้อของราคาถูก เป็นการช่วยค่าครองชีพและกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นที่มาของการรวมตัวจัดกิจกรรมโปรโมชั่นลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคครั้งใหญ่ของกลุ่มค้าปลีกภูธรทั้ง 40 แห่งพร้อมกันทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อโครงการ Local Low Cost บทที่ 1 กรุแตก ระหว่างวันที่ 1-10 กันยายน 2566

การจัดโปรโมชั่นลดราคาครั้งนี้จะมากหรือน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับซัพพลายเออร์ที่จะให้การสนับสนุน ซึ่งปกติที่ทุกห้างก็มีการจัดทำโปรโมชั่นกันอยู่แล้ว แต่กิจกรรมที่จัดกับห้างภูธรครั้งนี้ ซัพพลายเออร์จะส่งเสริมโปรโมชั่นราคาพิเศษ โดยสินค้าหลาย ๆ รายการจะมีราคาที่ถูกกว่าปกติ

ยกตัวอย่าง สินค้าอุปโภคบริโภค ซัพพลายเออร์ต้องลดราคาลงกว่าดีลปกติ อาจจะสัก 5% ก็ถือว่ามากแล้ว ส่วนผู้ประกอบการค้าปลีกแต่ละรายก็สามารถเลือกได้ว่าจะนำสินค้าตัวใดมาทำโปรโมชั่น เพราะว่าประเทศไทยทั้ง 4 ภาคลูกค้าไม่ได้บริโภคสินค้าแบบเดียวกันทั้งหมด

เช่น ร้านค้านี้คิดว่าสินค้าตัวใดเป็นหลักที่ขายดี ก็ชูสินค้าตัวนั้น ๆ ขึ้นมา นอกจากนี้ ซัพพลายเออร์ก็จะมีการจัดสินค้าบางขนาดบางไซซ์ เพื่อไม่ให้ตรงกับที่วางขายในโมเดิร์นเทรด เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกับโปรโมชั่นของห้างใหญ่ด้วย

แคมเปญ

“ตั้งงี่สุน” ลดราคากระหน่ำ

นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จ.อุดรธานี กล่าวในเรื่องนี้ว่า ผู้ประกอบการอาจจะมีเวลาพูดคุยกันในระยะสั้น ๆ โดยมีร้านที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 40 ร้านค้าทั่วประเทศ หลัก ๆ จะเป็นการนำสินค้าที่ได้รับความนิยมของผู้บริโภคมาร่วมลดราคา เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ครัวเรือน และสินค้าในโครงการนี้มีความหลากหลายมาก

สำหรับตั้งงี่สุนเองก็จะจัดโปรโมชั่นลดราคาลงอีก จากเดิมปกติที่จัดโปรโมชั่นจะลดราคาในระดับ 15-20% โดยจะมีสินค้าที่ร่วมโครงการนับพันชิ้นในแต่ละกลุ่มสินค้า โดยมีเงื่อนไขจำกัดสินค้าแต่ละประเภทหนึ่งชิ้นต่อหนึ่งครอบครัวหรือหนึ่งบิล

เช่น น้ำปลาคนแบกกุ้ง จาก 26 บาท เหลือ 15 บาท, ชิลทอล์ค 48 บาท ลดเหลือ 35 บาท, ดีนี่ นิวบอร์น น้ำยาซักผ้าจาก 44 บาท เหลือ 40 บาท, น้ำยาปรับผ้านุ่ม จาก 36 บาท เหลือ 30 บาท, รีจอยส์ 99 บาท เหลือ 79 บาท, แพนทีน 90 เหลือ 79 บาท, ดาวน์นี่ 49 บาท เหลือ 39 บาท นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างพูดคุยกันกับซับพลายเออร์อีกหลายชนิดสินค้า เช่น ผ้าอ้อม แป้งเด็ก นม น้ำ เป็นต้น

“เราทำโครงการนี้หลักใหญ่จะเน้นไปที่การช่วยลดค่าครองชีพของผู้บริโภคเป็นหลัก ทำเพื่อช่วยจริง ๆ ส่วนเรื่องกระตุ้นการขายก็จะเพิ่มขึ้นมาระดับหนึ่ง เพราะสถานการ์ณการค้าตอนนี้แย่มาก ในฐานะผู้ประกอบการเอกชนก็อยากแสดงพลัง และสะท้อนไปถึงรัฐบาลที่หยุดนิ่ง และไม่มีความช่วยเหลืออะไรเลย ไม่มีนโยบายที่มาถึงประประชาชน เราต้องเริ่มทำกันเอง เพื่อดูแลลูกค้าให้อยู่รอด หรือสามารถต่อชีวิตไปได้อีก 2-3 เดือน ซึ่งเรารอรัฐบาลไม่ไหว” นายมิลินทร์ย้ำ

“ยงสงวน” จัดลุ้นโชคเสริม

นายประกอบ ไชยสงคราม ผู้บริหาร บริษัท ยงสงวนกรุ๊ป จำกัด จ.อุบลราชธานี ระบุว่า ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลยังจัดตั้งไม่ได้ ธุรกิจการค้าเงียบมาก และผู้ประกอบการขายของไม่ดี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง โดยเฉพาะภาคอีสานที่ซบเซามาก ฉะนั้น จึงอยากกระตุ้นตลาด ด้วยการรวมตัวกันเพื่อจัดโครงการนี้ขึ้นมา ซึ่งจะเป็นการลดราคาสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ตอนนี้กำลังซื้อไม่ดีนัก

ขณะเดียวกัน ก็จะเห็นการดึงลูกค้าจากช่องทางออนไลน์ลงมาสู่ออฟไลน์หรือหน้าร้าน เพราะตลาดออนไลน์มีวันจัดโปรโมชั่นที่ลูกค้ารับรู้ชัดเจน เช่น วันที่ 7 เดือน 7 หรือทุกเดือนที่มีวัน ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกันกับเดือน ทำให้การค้าออฟไลน์หรือยอดขายจากหน้าร้านชะลอตัวหรือหยุดนิ่ง

“เรารวมตัวกันเพื่อทำมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ก่อน แล้วดึงคนจากออนไลน์ลงสู่ออฟไลน์ โดยเราจะต้องสื่อสารให้เห็นว่าร้านไหนทำอะไรผ่านคิวอาร์โค้ดของแต่ละร้านให้ลูกค้ากดลิงก์เข้าไปดู โครงการนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการทำครั้งแรก ในแง่ของสินค้าหรือราคาอาจจะยังไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างก็จะมีการดีลกับซัพพลายเออร์ ดังนั้น โครงการในรอบถัดไป ผู้ประกอบการก็จะมีการปรับตัวเรื่อย ๆ โดยโปรโมชั่นที่ห้างภูธรร่วมมือกันจัดครั้งนี้จะแตกต่างจากการทำโปรโมชั่นปกติที่แต่ละร้านค้าทำอยู่แล้ว”

สำหรับยงสงวนจะทำโปรโมชั่นกว่า 200 รายการ โดยเน้นไปที่การขายส่ง ที่จะลดราคามากกว่าโปรโมชั่นปกติที่เคยจัด ทั้งแบบยกลังและแบบขายแพ็กประมาณ 6% และออนท็อปอีก 3% นอกจากนี้ จะจัดกิจกรรมลุ้นโชคให้อีก ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ไม่จำกัดบิลหรือปริมาณ

“ธนพิริยะ” ดึงร้านค้ารายย่อย

นางอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง จ.เชียงราย กล่าวว่า ในภาพรวมผู้ประกอบการธุรกิจการค้าทราบกันดีว่าเศรษฐกิจซึมลงหลังจากเลือกตั้ง ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัวและรอรัฐไม่ได้แล้ว

โครงการ LOCAL LOW COST จึงเหมือนช่องทางกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภค ซึ่งจะแตกต่างกับการจัดโปรโมชั่นทั่วไป เพราะการรวมตัวของผู้ประกอบการระดับท้องถิ่นเกิดได้ยาก แม้สินค้าที่แต่ละรายนำมาจัดรายการจะเป็นตัวเดียวกัน แต่ราคาอาจจะไม่เท่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับว่าแต่ละรายจะเจรจากับซัพลายเออร์อย่างไร

ตอนนี้ธนพิริยะได้พูดคุยถึงแนวทางการลดราคาสินค้าในโครงการกับซับพลายเออร์ทุกราย ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ทั้งขายส่งและขายปลีก ลดราคาตั้งแต่ 10-50% รวมสินค้าหลักพันเอสเคยู เช่น ผงซักฟอก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำยาล้างจาก ผ้าอ้อม ผ้าอนามัย นม กาแฟ เป็นต้น

“ปกติธนพิริยะทำโปรโมชั่นอยู่แล้วหลายร้อยตัวต่อเดือน เป็นการขายปลีก แต่สำหรับโครงการนี้เราจะเพิ่มสัดส่วนการขายส่งเพิ่มขึ้น และจะมีการจัดแพ็กเกจชิงโชคให้ลูกค้าด้วย ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เรามีลูกค้าที่เป็นร้านค้าในพื้นที่ขยายตัวมากขึ้น และในภาพรวมคาดว่าในระยะเวลา 10 วันที่จัดโปรโมชั่นเราน่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 20-30% ที่สำคัญคือช่วยผู้บริโภคประหยัดได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย” นางอมรกล่าว