
สมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันฯ ชง”นายกฯเศรษฐา” เร่งผลักดันสร้างสนามบินพังงา-ผุดสะพานข้ามเกาะคอเขา-เดินรถโดยสาร EV -สร้างท่าเทียบเรือท่องเที่ยว
วันที่ 26 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวสวท.ตะกั่วป่า กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทำงานด้านนโยบาย คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการภาคเอกชนจังหวัดพังงา และติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยว ณ โรงแรม Moracea by Khao Lak Resort จังหวัดพังงา
โดยทางภาคเอกชนธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงาได้นำเสนอเรื่องหลัก ๆ 3 ด้าน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว คือ การสร้างสนามบินพังงาที่รองรับเครื่องบินแอร์บัส A 380 ได้ การขนส่งทางบก เช่น เพิ่มช่องทางเป็นถนน 4 ช่องจราจร เชื่อมโยงสุราษฎร์ธานี-พังงา และระนอง เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ลดระยะเวลาการเดินทางของนักท่องเที่ยว
รถโดยสาร EV ระหว่างสนามบินจังหวัดฝั่งอันดามัน และสร้างท่าเทียบเรือที่ได้มาตรฐานที่เชื่อมต่อการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน เพราะทั้ง 3 ด้าน คือ หัวใจของการท่องเที่ยวที่จะยกระดับให้กับการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันเป็นอย่างมาก
นอกจากจากนี้ ยังมีในส่วนของภาคเอกชนอื่น ๆ ที่เสนอโครงการ เช่น โครงการระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามัน หรือ Andaman Wellness Corridor (AWC) ส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วงไฮซีซั่นและโลซีซั่น เช่น การจัดอีเว้นท์ทางทะเล Sport Tourism การผลักดันให้พังงาเป็นเจ้าภาพจัดงาน Thailand Travel Mart 2024 การจัดการขยะที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การกู้เงินทุนของการท่องเที่ยวชุมชน การแก้ไขปัญหาสาธารณูปโภคพื้นฐาน ( น้ำ,ไฟฟ้า,สาธารณสุข) การกัดเซาะชายฝั่ง จึงอยากฝากทางรัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ และหวังว่าทางนายกรัฐมนตรี จะนำข้อเสนอต่าง ๆ ของจังหวัดพังงาไปพิจารณาต่อไป
ด้าน นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนแปลกใจที่ จ.พังงา ไม่ได้มีนายกรัฐมนตรี มาลงพื้นที่เป็นเวลาหลาย 10 ปี และแม้ จ.พังงา จะไม่มีสส.พรรคเพื่อไทย แต่ตนก็จะมาอีกครั้งสำหรับ จ.ภูเก็ต จ.พังงา เพราะการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งตนจะเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม จ.ภูเก็ต ขณะนี้จีดีพีตกต่ำ ดังนั้น ต้องพึ่งการลดหนี้ เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ตนไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุรริย์เดช เคยเป็นเลขาธิการนายกฯ และก็มีว่าที่รัฐมนตรีได้มารับฟังข้อเสนอจากที่นี่ด้วย
ถ้าดูการเติบโตเศรษฐกิจของจังหวัดและภูมิภาค ผลตอบแทนน่าจะคุ้ม รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยหลังถวายสัตย์ฯ เราจะดูองค์รวมทั้งหมด จะไม่ได้ทำเชิงรุกอย่างเดียว ต้องดูปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมาด้วย ต้องทำควบคู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
และการยกเว้นวีซ่าให้จีน อินเดีย ส่วนรัสเซียเป็นตลาดใหญ่ เราจะขยายให้ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ 90 วัน และคาซัคสถาน ก็จะเปิดตลาดด้วย ส่วนเรื่องท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนั้น ทำให้มีการพักผ่อนระยะยาว เชื่อว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาแน่นอน โดยรัฐบาลจะให้ความสำคัญพัฒนาส่วนนี้ด้วย ส่วนอีวีบัส (รถเมล์ไฟฟ้า) ก็สามารถทำได้เลย
“เรื่อง ครม.สัญจร ก็เป็นเรื่องสำคัญกับจังหวัดนั้น การมาคณะเล็กอาจคล่องตัวอาจแยก ครม.เศรษฐกิจ ครม.ความมั่นคง เพื่อความคล่องตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่า และจะกลับมาอีกครั้ง”