ศึกชิงโชห่วยเดือดข้ามปี จับตาสมรภูมิ “อีสาน” ร้อนฉ่า

ถูกและดี

จะเรียกว่า “ร้อนระอุข้ามปี” เลยก็ไม่ผิดนัก สำหรับการเปิดศึกเพื่อแย่งชิงร้านค้าโชห่วยมาเป็นเครือข่ายของบรรดาซัพพลายเออร์-ค้าปลีกรายใหญ่ที่ลั่นกลองรบกันมาเกือบ 1 ปีเต็ม ๆ

หากย้อนกลับไปจะพบว่า ทั้ง “บัดดี้มาร์ท” (สยามแม็คโคร)-“โดนใจ” (เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) ที่พร้อมใจก้าวเข้ามาท้ารบกับ “ถูกดี มีมาตรฐาน” (ทีดี ตะวันแดง) เจ้าแรกที่ประกาศตัวช่วยชุบชีวิตบรรดาโชห่วยที่ว่ากันว่ามีอยู่ไม่ต่ำกว่า 4 แสนร้านค้าทั่วประเทศ ให้กลับมาเติบโตได้อย่างมืออาชีพ

“บีเจซี” ประกาศพร้อมรบ

ล่าสุด กลางเดือน ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา บีเจซี ได้ประกาศเปิดตัว “โดนใจ” บุกตลาดอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้เริ่มมีการทำโครงการแบบซอฟต์ลอนช์ ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา เบื้องต้นตั้งเป้าดึงร้านโชห่วยเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายร้านโดนใจ ประมาณ 4,000 ร้านค้า จากขณะนี้ที่ร้านค้าโชห่วยที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายแล้วประมาณ 1,000 ราย และในระยะยาวคาดว่าจะมี 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570 ด้วยการใช้เครือข่ายสาขาของบิ๊กซีที่มีสาขาขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 200 สาขา ในการป้อนสินค้าเข้าสู่ร้าน

โดนใจ

นอกจากนี้ยังมีแผนว่าในต้นปี 2566 จะมีการเปิดตัวพันธมิตรทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์และบริษัทเจ้าของสินค้าที่จะมีการเปิดตัวพันธมิตรอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ โดนใจ โฟกัสไปที่ร้านค้าปลีกในชุมชนขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านั้นมีจุดอ่อนในเรื่องของการบริหารจัดการ

“ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล” กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี ย้ำว่า บีเจซี จึงทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อการช่วยพัฒนาร้านค้าเหล่านั้นให้มีระบบการบริหารจัดการที่ดี ตลอดจนองค์ความรู้ในการบริหารร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โดยมีการพัฒนาระบบ POS ขึ้นมาเพื่อเข้าไปช่วยร้านค้าเหล่านั้น พร้อมกับการมีทีมงาน
เข้าไปช่วยพัฒนาและเพิ่มทักษะในการทำธุรกิจค้าปลีกให้กับผู้ประกอบการเหล่านั้นเพื่อให้สามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้

พร้อมกับชูจุดเด่นที่ผู้ประกอบการโชห่วยสามารถเลือกการลงทุน และเลือกสินค้าที่จำหน่ายได้เอง โดยไม่ต้องแบ่งผลกำไรกับใคร ด้วยงบฯลงทุนไม่สูงนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ที่ผ่านมา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีความเคลื่อนไหวที่จะรุกคืบเข้ามาในสมรภูมินี้ ในชื่อของ “ร้านโชคชัย” ที่เริ่มเปิดรับร้านโชห่วยเข้าเป็นเครือข่ายด้วยเช่นกัน

“บัดดี้มาร์ท” บุกอีสาน

จากก่อนหน้านี้ (31 ต.ค. 65) ที่ยักษ์ธุรกิจค้าส่ง “สยามแม็คโคร” ได้ฤกษ์เปิดตัว ร้านบัดดี้มาร์ท โมเดลธุรกิจที่มุ่งปรับปรุงร้านโชห่วยให้เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ หลังจากที่เริ่มนำร่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยโฟกัสฐานลูกค้าสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการร้านโชห่วยในพื้นที่ภาคกลางและอีสาน ซึ่งมีร้านโชห่วยหนาแน่น

บัดดี้มาร์ท

นอกจากนี้บริษัทยังมีการผนึกพันธมิตรที่เป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ อาทิ ยูนิลีเวอร์ โอสถสภา เนสท์เล่ ไทยน้ำทิพย์ พีแอนด์จี มาจัดโปรโมชั่น แชร์ข้อมูลอินไซต์ลูกค้า จัดคอร์สอบรมด้านการบริการ-บริหารสต๊อกสินค้า รวมไปถึงดึงสถาบันการเงินอย่างธนาคารกรุงเทพ มาปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโมเดลบัดดี้มาร์ทในเงื่อนไขพิเศษ เช่น สามารถกู้เต็มวงเงินลงทุน ผ่อนนาน 5 ปี ดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องและขาดความสามารถในการขอกู้เงินเพื่อปรับปรุงร้าน

ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการโชห่วยและผู้ที่สนใจลงทุนร้านบัดดี้มาร์ท สยามแม็คโคร ยังลดค่าลงทุนเริ่มต้นร้านบัดดี้มาร์ท 50% ฟรีค่าปรับปรุงร้าน 2 แสนบาท จากปกติที่ต้องใช้งบฯลงทุนเริ่มต้น 400,000 บาท (เงินค่าค้ำประกัน 200,000 บาท และค่าปรับปรุงร้าน 200,000 บาท) ถึง 31 ธ.ค. 2565 (จำกัดสิทธิ 300 ร้านค้าแรก)

“เอกพล คูสุวรรณ” ผู้จัดการโครงการบัดดี้มาร์ท บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หลังจากเปิดโครงการไปมีร้านโชห่วยที่ยื่นใบสมัครเข้ามามากกว่า 1,000 ร้าน และเซ็นสัญญาไปแล้วมากกว่า 100 ร้าน และอยู่ระหว่างการทยอยเซ็นสัญญาเพิ่มเป็นระยะ ๆ จากนี้ไปจะเน้นการขยายโครงการ บัดดี้มาร์ท ไปในภาคอีสาน โดยโฟกัสร้านโชห่วยที่เป็นสมาชิกแม็คโครที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็จะใช้สาขาและศูนย์กระจายสินค้าที่มีอยู่มาช่วยในเรื่องการขนส่งและกระจายสินค้าเข้าสู่ร้านและมั่นใจว่าปี 2566 จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ฟื้นตัว จะทำให้ potential growth มีมากขึ้นในระดับหนึ่ง

“ยอมรับว่า ในภาคอีสานจะเป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันสูง แต่ก็มั่นใจว่า ด้วยความที่แม็คโครนั้นอยู่คู่กับร้านโชห่วย บวกกับจุดแข็ง เช่น เรื่องของอาหารสด ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากรายอื่น ๆ จะทำให้มีความได้เปรียบและเป็นที่ต้องการของร้านค้าในชุมชน” ผู้จัดการโครงการบัดดี้มาร์ท สยามแม็คโครกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา สยามแม็คโคร ตั้งเป้าการขยายเครือข่ายร้านบัดดี้มาร์ทสำหรับปี 2566 ไว้ที่ 2,000 ร้าน

“ถูกดี” ออนทัวร์ดึงลูกค้าข้ามปี

ด้านต้นตำรับ “ถูกดี มีมาตรฐาน” ภายใต้การบัญชาการรบของ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด วันนี้มีร้านในเครือค่ายครอบคลุมอยู่กว่า 62 จังหวัดทั่วประเทศ ด้วยจำนวนร้านค้าที่มากกว่า 5,600 แห่ง ก็มีความเคลื่อนไหวในการรุกเพื่อขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง

โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ “เสถียร เสถียรธรรมะ” ได้เดินสายจัดงาน “ออนทัวร์” เพื่อโปรโมตร้านถูกดีฯด้วยตัวเองแทบทุกสัปดาห์ ไล่เรียงมาตั้งแต่ เชียงใหม่ ขอนแก่น กาญจนบุรี พิษณุโลก อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ชลบุรี อุบลราชธานี

นี่เป็นยุทธศาสตร์เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2566 ที่ “เสถียร” คีย์แมนคนสำคัญของโครงการถูกดีฯ วางไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้วยจำนวนร้านเครือข่ายที่ทิ้งห่างและยากที่คู่แข่งจะตามทัน หากสแกนลงไปในรายละเอียดจะพบว่า “ถูกดีฯ” นั้นมีฐานที่มั่นใหญ่ในภาคอีสาน สะท้อนจากจำนวนร้านค้าที่เป็นเครือข่ายถูกดีฯ ในอีสานมีเป็นจำนวนมาก ข้อมูลล่าสุด (23 ธ.ค.) พบว่า จังหวัดที่มีร้านถูกดีฯ เปิดให้บริการอยู่มากกว่า 200 ร้านค้า มีถึง 8 จังหวัด หรือรวมประมาณ 2,022 ร้าน ประกอบด้วย นครราชสีมา 340 ร้าน อุบลราชธานี 301 ร้าน ศรีสะเกษ 251 ร้าน อุดรธานี 244 ร้าน สุรินทร์ 237 ร้าน บุรีรัมย์ 225 ร้าน ร้อยเอ็ด 221 ร้าน และสกลนคร 203 ร้าน

นอกจากนี้ยังมีจังหวัดที่มีร้านในเครือมากกว่า 100 ร้าน อีก 8 จังหวัด รวมประมาณ 1,017 ร้าน ประกอบด้วย เพชรบูรณ์ 157 ร้าน ชัยภูมิ 150 ร้าน กาฬสินธุ์ 138 ร้าน กาญจนบุรี 123 ร้าน นครพนม 121 ร้าน มหาสารคาม 112 ร้าน พิษณุโลก 110 ร้าน และเลย 106 ร้าน

จากความเคลื่อนไหวของ 3 ค่ายใหญ่ ที่ประกาศนโยบายการรุกตลาดและมีเป้าหมายอย่างชัดเจน พร้อมกับทุ่มสรรพกำลังเต็มอัตราศึกดังกล่าว เชื่อได้เลยว่า ปี 2566 ที่กำลังจะย่างเข้ามา ศึกการแข่งดึงโชห่วยเป็นพวกจะทวีความดุเดือดมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว