ช่อง 8-ไทยไฟท์ อัพเกรดคอนเทนต์ THAI FIGHT LEAGUE สู่ระดับโลก

ช่อง 8-ไทยไฟท์

ก้าวสู่ปีที่ 4 “ช่อง 8” จับมือแน่น “ไทยไฟท์” พันธมิตรยักษ์ใหญ่สุดแกร่ง เซอร์ไพรส์คอนเทนต์อัพเกรด “THAI FIGHT LEAGUE” สู่ระดับโลก

วันที่ 14 มิถุนายน 2566 นางนงลักษณ์ งามโรจน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กล่าวว่า สำหรับความสำเร็จที่ไม่หยุดนิ่งกับเวทีมวย “THAI FIGHT” ที่ยังคงครองแชมป์เรตติ้งรายการมวยอันดับ 1 หลังจากเปิดศึกถ่ายทอดสดแรกประจำปี 2566 ในเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเสียงตอบรับความนิยมจากฐานผู้ชมเป็นอันดับ 1 ของประเทศ

โดยมีผู้เข้าชมเฉลี่ย 1.5 ล้านคน และฐานผู้ชมเฉลี่ยกว่า 3.5 ล้านคน คิดเป็นเรตติ้ง 2.5% และสามารถครองใจกลุ่มผู้ชมหลักทุกเพศ อายุ 35 ปีขึ้นไป ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 5.0และเป็นรายการมวยที่ทำเรตติ้งดีที่สุด

จึงเป็นที่มาของการต่อยอด เดินหน้าร่วมมือกันอัพเกรดเพิ่มคอนเทนต์ความสนุกแบบโนลิมิตกับฐานแฟนคลับรายการมวยของช่อง 8 ภายใต้การเปิดตัวรายการ “THAI FIGHT LEAGUE” ขึ้นเป็นปีแรก และเริ่มเปิดศึกชิงแชมป์การแข่งขันนักมวยไทยในรูปแบบมวยคาดเชือกกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566

ภายใต้คอนเซ็ปต์การยกระดับกีฬาต่อสู้ประจำประเทศไทยสู่การแข่งขันระดับสากล ด้วยการต่อสู้จากนักชกตัวจริง มาชิงไหวชิงพริบเพื่อค้นหาสายเลือดนักสู้รุ่นใหม่มาประดับวงการ THAI FIGHT ภายใต้การรับรองของ “Thai Fight International Boxing Association” (TFIBA) หรือการกำหนดการแข่งขันชก 3 ยก หากเสมอกัน จะตัดสินหาผู้ชนะในยกที่ 4 ตลอดทั้งปี

โดยคาดหวังว่าจะสร้างเรตติ้งให้เป็นรายการมวยอันดับ ในทุก ๆ วันอาทิตย์ ซึ่งส่งผลต่อเรตติ้งของช่องเติบโตขึ้นที่เป้าหมาย 35% และถึงแม้ว่าจะมีการชกมวย Thai Fight ถึง รายการ แต่ในแง่ของความถี่ในการออกอากาศจะแตกต่างกัน THAI FIGHT จะมีการถ่ายทอดเพียง 8 แมตช์ต่อปี ในขณะที่ THAI FIGHT LEAGUE จะถ่ายทอดสดในทุก ๆ วันอาทิตย์ เวลา 18.0020.00 น. เพื่อเติมเต็มความสนุกให้คนดูมวยไทยทางช่อง แบบต่อเนื่อง

นางนงลักษณ์ งามโรจน์
นางนงลักษณ์ งามโรจน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8

ด้านนายนพรัตน์ พุทธรัตนมณี รองประธานจัดการแข่งขัน THAI FIGHT กล่าวเสริมว่า ตลอดระยะเวลา ปีที่ THAI FIGHT เข้ามาถ่ายทอดสด ซึ่งทางช่อง เองมีรายการถ่ายทอดสดมวยไทยหลายรายการ มีกลุ่มผู้ชมมวยเป็นพื้นฐานที่แข็งแรงอยู่แล้ว เมื่อไทยไฟท์เข้ามาก็ยิ่งเสริมกัน และขยายกลุ่มผู้ชมมวยไทยให้โตขึ้น ณ วันนี้เราเป็นรายการมวยที่มีเรตติ้งสูงที่สุด คือตัวชี้วัดที่ชัดเจนถึงความสำเร็จที่ไทยไฟท์ร่วมกับช่อง ในการก้าวสู่ปีที่ พร้อมวิสัยทัศน์ “เราจะบอกความเป็นไทยไปทั่วโลก”

โดยตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ไทยไฟท์เริ่มจัดรายการมวยไทย เราสร้าง Super Stars ทั้งนักมวยไทย และนักมวยต่างชาติ เป็นจุดกำเนิดมวยไทย 3 ยก คนไทยชกกับต่างชาติ ทำให้เกิดรายการมวย 3 ยกเกิดขึ้นมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จนทำให้นักมวยไทยไม่เพียงพอกับรายการแข่งขัน ไทยไฟท์จึงเห็นโอกาสในการสร้างนักมวย ในแนวทางไทยไฟท์ ทั้งชาวไทยและนักชกต่างชาติ เพื่อสร้างนักมวยไว้รองรับการเติบโตของการแข่งขันไทยไฟท์ในระดับนานาชาติจึงเกิด THAI FIGHT LEAGUE ควบคู่ไปกับ THAI FIGHT ในปีนี้

นางนงลักษณ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้ขยายความสำเร็จจากทีวีเรตติ้งเข้าสู่ช่องทางออนไลน์และออนกราวนด์ เพราะมีโอกาสทางธุรกิจอีกมากมาย เช่น การสร้างรายได้จากออนไลน์สปอนเซอร์การบริหารลิขสิทธิ์ของคอนเทนต์ และที่สำคัญการต่อยอดทำออนกราวนด์ เราวางแผนไว้หลายมิติ โดยเฉพาะการเปิดช่องทางการเข้าถึงคนดูโดยตรงในพื้นที่ต่างจังหวัดที่เป็นเป้าหมาย ได้ทั้งงบฯโฆษณา ได้ทั้งการสร้างแบรนด์ของมวยช่อง 8 และยังได้ทำ CRM (Customer Relationship Management) กับคนดูในพื้นที่จริง 

รวมทั้งในปีนี้ยังได้ผลักดันละครเรื่อง “มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า” โดยดึง 4 นักมวยไทยขวัญใจคนไทย สามารถ, เขาทราย, เขาค้อ และสมจิตร ร่วมแสดง เพื่อให้เกิด Soft Power กีฬามวยไทย โดยทั้งหมดจะสามารถเป็นกระบอกเสียงผลักดันให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเพื่อนบ้านได้เรียนรู้วัฒนธรรมและต้นแบบ พร้อมต้นกำเนิดกีฬามวยไทยอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย

มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า

ทั้งนี้ หลังจากการถ่ายทอดสด “THAI FIGHT LEAGUE” เมื่อเดือนพฤษภาคมจนถึงวันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เสียงตอบรับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยเข้าถึงกลุ่มผู้เข้าชมสูงสุดที่ 3.7 ล้านคน และมีเรตติ้งเฉลี่ยผู้ชมที่ 1.2 ล้านคน คิดเป็นเรตติ้ง 2.0% และสามารถครองใจกลุ่มผู้ชมหลักเพศชาย อายุ 35 ปีขึ้นไป ด้วยเรตติ้งสูงสุดถึง 4.34%