สรยุทธ พา ช่อง 3 รวย โกยกำไร 761 ล้าน ครั้งแรกในรอบ 3 ปี

สรยุทธ

“บีอีซี เวิลด์” โชว์กำไร 761 ล้านบาท ปี 2564 หลังขาดทุน 3 ปี จากการปรับโครงสร้างองค์กร พร้อมนำ “สรยุทธ” คัมแบ็กจัดรายการข่าว เรตติ้งพุ่ง-ทำรายได้โฆษณาโต

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ในวงการทีวีเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของช่อง 3 ภายใต้บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างลดขนาดองค์กรเพื่อลดต้นทุน พร้อมวางกลยุทธ์ธุรกิจ Single Content-Multiple Platform นำคอนเทนต์ละครช่อง 3 ไปต่อยอดขายลิขสิทธิ์ในทุก ๆ แพลตฟอร์ม พร้อมกับการดึง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กลับมาเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ และเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

ส่งผลให้ปี 2564 ช่อง 3 เริ่มเห็นกำไรในรอบ 3 ปี ซึ่งหากย้อนดูผลประกอบการ ปี 2561 มีรายได้ 10,486 ล้านบาท ขาดทุน 330 ล้านบาท, ปี 2562 รายได้ 8,751 ล้านบาท ขาดทุน 397 ล้านบาท, ปี 2563 มีรายได้ 5,908 ล้านบาท ขาดทุน 214 ล้านบาท และปี 2564 มีรายได้ 5,680 ล้านบาท กำไรสุทธิ 761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 455%

โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายการข่าว ได้แก่ เรื่องเล่าเช้านี้ จันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-08.20 น. และเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-12.15 น. ซึ่งเป็นการกลับมาของ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ที่กลับมาจัดรายการข่าว ส่งผลให้เรตติ้งรายการข่าวเพิ่มขึ้น เป็นผลให้รายได้โฆษณากลับมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564 จนถึงสิ้นปี 2564 มีรายได้จากการขายโฆษณาเพิ่มขึ้น 1.6% หรือ 4,834 ล้านบาท

รวมไปถึงรายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายละครไปต่างประเทศ และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) รวมกันอยู่ที่ 826.0 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ เมื่อต้นปี 1,000 ล้านบาท เนื่องจากปี 2564 ยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาลออกมาตรการควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้การถ่ายละครต้องหยุดชั่วคราว ทำให้การออกอากาศละครที่ต่างประเทศต้องเลื่อนออกไปด้วย

สำหรับกลุยทธ์และทิศทางดำเนินงานปี 2565 บริษัทยังให้ความสำคัญกับการรักษาตำแหน่งผู้นำทางการตลาดของธุรกิจทีวี มุ่งขยายฐานผู้ชมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ชมอายุ 15-24 ปี และ 25-29 ปี เน้นพัฒนาคอนเทนต์ละครไพรม์ไทม์ สร้างรายได้ นอน ไพรม์ไทม์ จากรายการข่าวและวาไรตี้

เริ่มจากรายการข่าว เน้นเสนอข่าวทันเหตุการณ์ วิเคราะห์เชิงลึก รายงานข่าวที่เข้าใจง่ายตรงประเด็น นำเสนอทั้งช่องทางทีวี (ออฟไลน์) และออนไลน์ แพลตฟอร์ม ขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่

ถัดมาคือละคร เน้นเนื้อหาและรูปแบบละครใหม่ จากผู้ผลิตและดารานักแสดงรุ่นใหม่ สร้างความน่าสนใจและความแปลกใหม่ให้ผู้ชมผ่านคอนเทนต์ละคร เทคนิคการเล่าเรื่องแบบใหม่ โครงเรื่องที่คาดเดาได้ยาก และบทบาทใหม่ ๆ ของนักแสดง และนำเสนอวาไรตี้รูปแบบใหม่ทันสมัย ทั้งรายการที่สร้างสรรค์เองและ International Format พร้อมพัฒนาคอนเทนต์ให้สร้างรายได้จากดิจิทัลแพลตฟอร์มและขายลิขสิทธิ์ไปต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มปี 2565 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป จากปัญหาภาวะเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันสูงขึ้นและหนี้สินภาคครัวเรือนยังอยู่ระดับสูง รวมถึงการท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบจากโควิด อาจเป็นความเสี่ยงที่จะส่งผลให้การใช้เม็ดเงินโฆษณาชะลอตัวในปี 2565