อุตตม ปักธงภาคใต้ ยอมรับดีลพรรคสุดารัตน์ ดึงคนดังซบสร้างอนาคตไทย

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

อุตตม หัวหน้าสร้างอนาคตไทย ลั่นปักธงภาคใต้ ปลื้มกระแสสมคิดฟีเวอร์ รับคุย สุดารัตน์-จีบมาดามเดียร์ ร่วมงานพรรค วัชระ มั่นใจ สมคิด แม่เหล็กดูดนักการเมืองบิ๊กเนม ตั้งเป้า ส.ส. 50 ที่นั่งอัพ

วันที่ 15 กันยายน 2565 ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า จังหวัดภูเก็ต นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนงานสัมมนา “อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง” ว่า เราทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้นทั้งภาคใต้และทุกภาค และมีทีมนโยบายที่จะฟอร์มชุดความคิดใหม่ ที่ต้องยึดโยงและรับฟังข้อเสนอแนะความคิดเห็นในพื้นที่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้จัดวงเสวนาใหญ่ เชื่อว่าภาคใต้เป็นหนึ่งในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ การที่จะทำให้ประเทศไทยฟื้นฟูได้อย่างพลิกเศรษฐกิจนั้น พรรคก็มีนโยบายที่จะมาแชร์ข้อมูลซึ่งได้การตอบรับที่ดี

นายอุตตมกล่าวว่า ส่วนในเรื่องทางการเมืองภาคใต้นั้น พรรคได้ให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งทีมงานพรรคหลายคนก็มีความคุ้นเคยในพื้นที่ โดยถือว่าขณะนี้กระแสตอบรับของพรรคดีขึ้น โดยล่าสุดเมื่อได้เดินตามที่พูดไว้ว่าจะเชิญ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาร่วมงาน ซึ่งท่านก็ได้เข้ามาแล้วในตำแหน่งประธานพรรค โดยงานเสวนา อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง เป็นเวทีแรกที่ประธานพรรคมาร่วม และจะมีเวทีต่อไปในอนาคต นอกจากนี้กระแสตอบรับของพรรคในพื้นที่อื่นก็ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

นายอุตตมกล่าวว่า ในทางการเมืองที่มีการช่วงชิงกันอย่างเข้มข้นนั้น ไม่มีความกังวล เพราะเราได้เสนอชุดความคิดนโยบายที่ดี เรามีผู้เชี่ยวชาญเรื่องเศรษฐกิจที่มีประสบการณ์ ซึ่งภาคใต้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญที่การท่องเที่ยวที่ไม่แพ้ใครในโลกนี้ แต่ต้องแก้ไขปัญหาที่เรากำลังเผชิญร่วมกัน และขับเคลื่อนการพัฒนาต่อไป เชื่อมั่นว่าเมื่อถึงเวลาคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมจะเป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เราก็ไม่แพ้ใคร

“สำหรับยุทธศาสตร์ที่เจาะกลุ่มนักลงทุน กลุ่มธุรกิจ ก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพรรค แต่เมื่อพูดถึงพื้นที่นี้ ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวก็ให้ความสนใจ นอกจากนี้ ภาคใต้ยังเป็นพื้นที่การเกษตร ซึ่งสัดส่วนรายได้ครึ่งหนึ่งของภาคใต้อยู่ที่การเกษตร เรื่องนี้พรรคก็ให้ความสำคัญเช่นกัน รวมถึงภาคส่วนอื่น เช่น การศึกษา การสร้างคน ในพื้นที่ภาคใต้พรรคก็ให้ความสำคัญเช่นกัน ยืนยันว่าเราปักธงการช่วงชิง ส.ส. ในทุกพื้นที่” นายอุตตมกล่าว

นายอุตตมกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีการปรับ ครม.หรือไม่ และจะมีการปรับในช่วงเวลาใด หากมีการปรับเพื่อตอบโจทย์การทำงานของรัฐบาลและเพื่อประชาชนก็ควรปรับ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเดินไปข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งประชาชนก็ต้องดูว่าปรับเพื่ออะไร เพื่อประโยชน์ของประเทศหรือเพื่อผลของการเลือกตั้ง

นายอุตตมกล่าวว่า ส่วนที่มีข่าวว่านายสมคิดได้พูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งอาจมีการรวมพรรคเกิดขึ้นหรือไม่นั้น หากจะมีการรวมพรรคในมุมมองของพรรคสร้างอนาคตไทยต้องพิจารณาว่าการรวมพรรค เป็นประโยชน์อย่างไร สามารถทำให้เราทำงานเพื่อประชาชนได้ดีขึ้นหรือไม่

“การรวมพรรคเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต้องหาเรื่องกัน ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนใดคนหนึ่งที่จะตัดสินใจ แต่สิ่งสำคัญที่พรรคสร้างอนาคตไทยยึดถือหากต้องมีการรวมพรรค ก็คือ อุดมการณ์ต้องสามารถไปด้วยกันได้ และต้องทำเพื่อประโยชน์ประชาชน” นายอุตตมกล่าว

นายอุตตมกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดดีลพูดคุยรวมพรรคกับใคร ไม่ว่าจะเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย หรือคุณหญิงสุดารัตน์ แต่มีการพบปะกันบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของวงการเมือง ซึ่งก็ยังมีเวลาในการพูดคุยเรื่องนี้อีก

นายอุตตมกล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจร่วมงานพรรคมาก จึงต้องมีการพิจารณาว่าใครเหมาะ และไม่กังวลว่าการเลือกบุคคลส่งเป็นผู้สมัครลงแต่ละพื้นที่จะทำให้คนที่พลาดกลายเป็นขัดแย้งพลิกขั้วพลิกฝั่ง

“พรรคได้จัดทำโพลในพื้นที่ ซึ่งกระแสในภาพรวมการรับรู้ของพรรคนั้นดีขึ้น ความนิยมของพรรคดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวของนายสมคิด เข้ามาเป็นประธานพรรค ส่วนจะแลนด์สไลด์หรือไม่นั้น ผมไม่รู้ แต่ทำงานอย่างเต็มที่” นายอุตตมกล่าว

นายอุตตมยังระบุถึงการพูดคุยกับ ส.ส.พรรคอื่น ที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรค รวมถึงการทาบทาม “มาดามเดียร์” หรือ น.ส.วทันยา บุนนาค อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยขอให้ไปถามเจ้าตัว ส่วนเคมีตรงกันหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าเคมีตรงกัน เพราะเคยทำงานด้วยกันมา จึงพูดได้ว่าเคมีตรงกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวใช่หรือไม่ว่า หลายคนมองมาดามเดียร์ เป็นเด็กดื้อหัวรั้น นายอุตตมบอกว่า ตนไม่เคยเห็นมาดามเดียร์ดื้อเลย เห็นเพียงเขามีจุดยืนในสิ่งที่เขาเชื่อ และกล้าพูดในสิ่งที่เชื่อ ซึ่งน่าจะต้องชื่นชมด้วยซ้ำ

ส่วนกระแสข่าวที่มาดามเดียร์จะไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ นายอุตตมบอกไม่รู้ เคมีคงตรงกันหลายพรรค ซึ่งฝากไปถามมาดามเดียร์ด้วย

เมื่อถามว่าทำไมไม่ชวนมาดามเดียร์มาร่วมลงพื้นที่ครั้งนี้ด้วย นายอุตตมกล่าวว่า ยังมีเวลา มีอีกหลายพื้นที่ รวมถึงใน กทม. ก็ยังมี รวมถึงมีบิ๊กเนมคนอื่น ทั้งคนการเมืองและอื่น ๆ มาร่วมงานกับพรรค ที่จะมาช่วยกันเป็นทีมเศรษฐกิจ และมั่นใจว่าสู้พรรคอื่นได้แน่นอน

ขณะที่นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยว่า หลังการเปิดตัวของนายสมคิด อย่างเป็นทางการในฐานะประธานพรรค ถือว่ามีผลกับพรรคมาก ถือเป็นการประกาศชัยชนะขั้นที่หนึ่ง และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้สนับสนุนและผู้ทำงานร่วมกัน คนการเมืองเดินเข้ามาเพื่อจบดีลและแสดงเจตจำนงในการทำงานกับพรรคจำนวนมาก

นายวัชระกล่าวว่า ขณะนี้ผู้บริหารพรรคกำลังหนักใจ เพราะมีผู้แสดงความจำนงเป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละเขตมากกว่าหนึ่งคน เราจึงต้องหารือกันว่าในแต่ละเขตควรจะผู้สมัครแบบใด จะเอาแบบเก๋า หรือหน้าใหม่ เพราะตอนนี้บางคนเป็นคนหน้าใหม่ และข้าราชการที่ตัดสินใจลาออกมาลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรค

นายวัชระกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะยุบสภา หรือเลือกตั้งเมื่อใด แต่โดยกรอบเราเอาจุดสตาร์ตเปิดตัวนายสมคิด เป็นวันทำงาน จากนี้ผู้บริหารพรรคจะลงในทุกพื้นที่ พรรค ส.อ.ท.จะเดินหน้ารับฟังปัญหาและร่วมแลกเปลี่ยนอย่างรอบด้าน ทั้งภาคธุรกิจ สังคม และการเมือง

นายวัชระกล่าวว่า ก่อนหน้านี้โพลของนายสมคิด อยู่ประมาณอันดับ 10 แต่หลังจากเปิดตัวนายสมคิด ปรากฏว่าโพลคะแนนนิยมทะลุไป 20% ติดอันดับ 3-4 ถือว่าเร็วเกินคาด เรากำลังมองว่าการประกาศจุดยืนเป็นทางเลือกใหม่ และเป็นกลางทางการเมืองถือว่ามีอยู่จริง และเราสามารถลบทุกข้อสงสัยว่านายสมคิด เอาจริงหรือไม่

นายวัชระกล่าวว่า การประกาศของนายสมคิด เป็นการตอกย้ำการเป็นเบอร์หนึ่งทางเศรษฐกิจ นายสมคิด บวกทีมสี่กุมารจะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และยอมรับว่านายสมคิด ถือเป็นแม่เหล็กก้อนใหญ่มากในการดึงดูดคนการเมือง และ ส.ส.ทั้งจากฝ่ายรัฐบาลและจากฝ่ายค้านหลายขั้วเข้ามา เพราะเราไม่ซ้ายสุดโต่ง และขวาสุดขั้ว

ซึ่งหลังจากเปิดตัวนายสมคิด และมีปรากฏการณ์สมคิดฟีเวอร์ ทำให้ส่วนตัวคิดว่าจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น และหากเราต้องการเป็นพรรคสากลและมีมาตรฐาน เราต้องได้ ส.ส.ทุกภาค และมั่นใจว่าวันนี้เรามีศักยภาพที่ทำได้ จนส่งผลให้เราต้องปรับเป้า ส.ส.ใหม่ จากเดิมอย่างน้อย 25 คน เพื่อให้เสนอชื่อนายสมคิด เป็นแคนดิเดตนายกฯได้ แต่ตอนนี้เราต้องขยายเป้าใหม่ให้ใหญ่ขึ้นเป็น 50 ขึ้นไป เพราะมั่นใจว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อเราจะได้เพิ่มขึ้น