ควบรวมทรู ดีแทค: ก้าวไกลจ่อ ฟ้อง ป.ป.ช. ปม #กสทช. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

ควบรวมทรู ดีแทค: ก้าวไกลจ่อ ฟ้อง ป.ป.ช. ปม #กสทช. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

พรรคก้าวไกล เดินหน้าเตรียมฟ้อง กสทช. ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังปฏิเสธอำนาจ “การให้อนุญาต” ควบรวมทรู-ดีแทค

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เผยว่า หลังจากผลการลงมติ กสทช.เสียงข้างมากออกมาว่า “รับทราบ” การรวมธุรกิจแบบมีเงื่อนไข ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่คาดเดาได้จากพฤติกรรมต่าง ๆ ของ กสทช.ที่ผ่านมา แต่ก็ยังรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ต่อผลกระทบที่จะตามมากับประชาชน และเศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งสภาพการแข่งขันที่ลดลง แนวโน้มค่าบริการที่จะสูงขึ้น และคุณภาพของการให้บริการที่อาจด้อยลงในอนาคต ตลอดจนถึงความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะยิ่งถ่างออก

ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า กสทช.มีความพยายามมาโดยตลอดที่ตีความกฎหมายที่มีอยู่ว่าตัวเองไม่มีอำนาจอนุญาตหรือไม่อนุญาต และทำได้เพียงรับทราบ แม้จะตรงกันข้ามกับความเห็นของทั้งอนุกรรมการด้านกฎหมายที่ตั้งขึ้นมาเอง ความเห็นของศาลปกครอง รวมถึงความเห็นของกฤษฎีกา ที่ย้ำชัดว่า กสทช.มีอำนาจเต็มที่ที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาต เนื่องจากเป็นการเข้าถือครองธุรกิจประเภทเดียวกัน

การที่ กสทช.อ้างว่า ทรูและดีแทคไม่ได้ถือครองธุรกิจประเภทเดียวกัน จึงทำได้แค่รับทราบเท่านั้น การรวมธุรกิจจึงไม่ต้องขอการอนุญาตนั้นค้านสายตาคนทั้งประเทศ จะด้วยเหตุผลว่าทรูไม่ได้เป็นผู้ถือใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ในขณะที่ดีแทคถือใบอนุญาตธุรกิจ Wi-fi หรือจะด้วยเหตุผลว่าบริษัทที่จะตั้งขึ้นมาใหม่ (New Co.) ที่จะโอนย้ายหุ้นไปไม่ได้อยู่ในธุรกิจประเภทเดียวกันก็ฟังไม่ขึ้นแทบทั้งสิ้น

แม้จะมีเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะออกมา แต่ก็ไม่ได้ช่วยกู้คืนสภาพการแข่งขันให้เหมือนกับการมีผู้ให้บริการ 3 รายได้ และมาตรการต่าง ๆ ไม่ได้สร้างแรงจูงใจมากพอที่จะมีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาด นับว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจและประชาชน

ในเมื่อ กสทช.ปฏิเสธอำนาจของตัวเองตามรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียง และพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ที่จะทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้บริโภค และป้องกันการผูกขาด เราจำเป็นต้องยื่นฟ้อง กสทช. ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อ ป.ป.ช.ต่อไป