ประชาธิปัตย์เปิดตัว 14 ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ชุมนุมทายาทตระกูลดัง

พรรคประชาธิปัตย์,

เฉลิมชัย เปิดตัวผู้สมัคร กทม. เลือดใหม่ ประชาธิปัตย์ 14 คน ลูกผู้ว่าฯ กทม. อัศวิน ขวัญเมือง-ทายาทตระกูลการเมืองอภัยวงศ์

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันเปิดตัวคนรุ่นใหม่ที่มาอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กทม. จำนวน 14 คน

ประกอบด้วย 1.พงศกร ขวัญเมือง (เอิร์ธ) เขตคลองเตย-วัฒนา 2.อภิมุข ฉันทวานิช (ออม) เขตบางคอแหลม-ยานนาวา 3.ศิริภา อินทวิเชียร (แนน) เขตพญาไท-ราชเทวี 4.ภูเบศร์ อภัยวงศ์ (เบศร์) เขตบางซื่อ-ดุสิต

5.ธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ (เชง) เขตดอนเมือง 6.วัทธิกร หรุ่นศิริ (แพท) เขตสายไหม 7.ประพฤติ ฉัตรประภาชัย (อุ๋ย) เขตบางกะปิ 8.พันธ์พิสุทธิ์ นุราช (ไมเคิล) เขตบึงกุ่ม 9.เกศกานดา อินช่วย (เกศ) เขตคลองสามวา

10.วณิชชา ม่วงศิริ (เจี๊ยบ) เขตบางบอน-หนองแขม 11.ณัฐิดา เตาเฟ็ส (ดาด้า) เขตหนองจอก 12.จักรวี วิสุทธิผล (แจ็ค) เขตสวนหลวง 13.นพ.พลวิทย์ เจริญพงศ์ (โนเกีย) เขตบางกอกน้อย-ตลิ่งชัน และ 14.ธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ (วิทย์) เขตจตุจักร

นายพงศกร อดีตโฆษกกรุงเทพมหานคร ได้เปิดใจถึงสาเหตุของการตัดสินใจเป็นตัวแทนลงสมัคร ส.ส.กับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ที่ผ่านมายังมีอีกหลายสิ่งที่ยังอัดอั้นตันใจ และไม่สามารถผลักดันได้ด้วยกลไกท้องถิ่น จึงมีความคิดที่จะผลักดันนโยบายสาธารณะผ่านกลไกระดับประเทศ

ดังนั้น พรรคการเมืองที่ตนเลือกที่จะทำการเมืองด้วยต้องมีปัจจัยหลายอย่าง คือมีความผูกพันและเข้าใจพื้นที่ กทม. ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีความผูกพันกับคน กทม.มาอย่างยาวนาน ผ่านกลไกการเมืองในระดับพื้นที่ทั้ง สข. สก. ผู้ว่าฯ และการที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ จึงพร้อมเปิดรับความเห็นและนโยบายคนตัวเล็ก ๆ อย่างตน ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นสถาบันการเมืองที่ตนจะมีโอกาสผลักดันนโยบายที่ตั้งใจได้

นายพงศกรกล่าวว่า นอกจากนี้ การตัดสินใจทางการเมืองนั้น เราไม่สามารถทำได้เฉพาะกิจ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่เป็นพรรคที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน อยู่เคียงข้างกับคน กทม.ต่อไป ทั้งหมดคือสาเหตุที่ตนอาสาลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เขตคลองเตย-วัฒนา กับพรรคประชาธิปัตย์

นายเฉลิมชัยกล่าวว่า วันนี้ประชาธิปัตย์เปิดรับคนรุ่นใหม่ให้เข้ามามีบทบาท พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีพื้นที่แสดงความคิดเห็นด้านทางการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่เป็นพัฒนาการของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องการเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า ด้วยการรวมเอาความสามารถของคนทุกกลุ่ม ทุกรุ่นเข้ามาด้วยกัน ซึ่งเรามีทั้งรุ่นอาวุโสที่มีประสบการณ์ มีผู้บริหารชุดปัจจุบันนำพาพรรคเดินไปข้างหน้า พร้อมกับสร้างเลือดใหม่ให้สืบสานพรรคต่อไปในอนาคต

นายเฉลิมชัยกล่าวว่า พี่น้องชาว กทม. ที่เคารพรักทุกท่าน เลือดใหม่ประชาธิปัตย์ทั้ง 14 คน คืออนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ คืออนาคตของ กทม. และคืออนาคตของประเทศไทย ขอฝากเลือดใหม่ประชาธิปัตย์ ของ กทม. ครั้งนี้ให้พี่น้องชาว กทม.ช่วยพิจารณา


“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ เพราะฉะนั้น ถ้าคนกรุงเทพฯ มาช่วยกันเปลี่ยนแปลง ก็เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะดีขึ้น ผมเคยพูดว่า ท่านเลือกผู้นำที่เก่ง ที่กล้า ที่เข้มแข็ง ผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปีประเทศไทยยังอยู่ที่เดิม หากท่านเลือกคนที่ซื่อสัตย์ เมื่อประเทศไทยไม่มีโกงกิน ประเทศจะเจริญมากขึ้นกว่านี้ได้ ผมขอฝากประชาธิปัตย์ทุกเขต ทุกคน” นายเฉลิมชัยกล่าว