นฤมลถอนตัว ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พลังประชารัฐ ถึงเวลาผลัดใบหมดเวลาบ้านใหญ่

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
ภาพจาก Facebook ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์

นฤมลถอนตัวจาก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หลังเกิดกระแสข่าวน้อยใจได้ลำดับที่ 20 ชี้ ถึงเวลาที่พรรคพลังประชารัฐ ผลัดใบเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่บ้านใหญ่

วันที่ 24 มีนาคม 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงถึงทิศทางการเมืองในการเลือกตั้งที่กำลังมาถึงของตนเองว่า ที่ผ่านมาไม่เคยแถลงข่าวที่เป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องของตัวเอง ที่ผ่านมาพูดในงานของพรรคเสียส่วนใหญ่ แต่ครั้งนี้เป็นการพูดเรื่องส่วนตัว

ทั้งนี้ มีความตั้งใจมาทำงานด้านการเมือง เพราะปรารถนาต้องการตอบแทนพระคุณของแผ่นดินไทย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่เสียภาษี ทำให้มีโอกาสได้ไปเรียนต่างประเทศ ทำให้คนที่มีต้นทุนชีวิตที่ต่ำถึงต่ำมากได้สอบชิงทุนรัฐบาล มีโอกาสเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ดีในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก และกลับมาเป็นอาจารย์ประจำที่นิด้า 23 ปี จนได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นศาสตราจารย์

จนเมื่อ 4 ปีที่แล้วได้รับโอกาสจากพรรคพลังประชารัฐมาทำงานการเมือง จึงลาออกจากราชการ หวังว่านำความรู้ ประสบการณ์นำมาสร้างประโยชน์ตอบแทนผู้มีพระคุณคือผู้เสียภาษีในประเทศไทย ถือว่าคนเหล่านี้ส่งตนเรียน ทำให้มีโอกาสดี ๆ ในชีวิต

การเลือกตั้ง 2562 ครั้งนั้นได้รับโอกาสจากผู้บริหารพรรคได้สมัครเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 เป็นผู้ใหญ่คนเดียวใน 10 อันดับแรก โดยไม่ไปร้องขอจากท่านใดเลย เป็นความเมตตาของผู้บริหารพรรคขณะนั้นที่เห็นถึงความสำคัญและความทุ่มเททำงานให้กับพรรคตั้งแต่มกราคม 2561 ทั้งที่ตนเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง ไม่ได้เป็นบ้านใหญ่

มาถึงการเลือกตั้ง 2566 ตนเป็นผู้บริหารพรรค อยากเห็นโอกาสคนใหม่ ๆ ได้รับโอกาสเหมือนที่ตนเคยได้รับโอกาส คนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้น ๆ ทั้งนี้ ตัวเราเองที่เคยได้รับโอกาส และเราไม่เสียสละคนใหม่ ๆ ก็แทบไม่มีโอกาสที่ได้เข้ามา แทบไม่มีโอกาสได้เข้าสภา แล้วมาทุ่มเทให้กับพรรค

“จึงได้แสดงความจำนงต่อคณะกรรมการสรรหาและผู้บริหารพรรคขอสละสิทธิรับพิจารณาลงปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามา ทำให้วันนี้คณะกรรมการสรรหาและพรรคได้มีการประชุมกันใหม่ ได้จัดลำดับบัญชีรายชื่อกันอีกครั้งและเข้าสู่กระบวนการต่อไป” นางนฤมลกล่าว

นางนฤมลกล่าวว่า พูดอยู่เสมอว่าพรรคพลังประชารัฐต้องผลัดใบ วันนี้ผลัดไปหนึ่งใบ ให้ใบใหม่ พลังใหม่ได้ผลิดอกออกผลในพรรค ครั้งหน้าอาจมีหลายใบ และจะได้มีหลายใบใหม่ ๆ ได้ผลิดอกออกผลขึ้นมา พรรคพลังประชารัฐก็เหมือนต้นไม้ ถ้าผลัดใบไปได้เรื่อย ๆ ต้นไม้ก็จะเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและสวยงาม

“การทำงานทางการเมืองไม่ได้อยู่รูปแบบในสถานะ ส.ส.เพียงเท่านั้น ยังมีมากมายหลายรูปแบบที่ทำงานการเมืองช่วยพรรค สนับสนุนผู้สมัครและรับใช้ประชาชนได้ และสำคัญที่สุด อุดมการณ์ทางการเมืองคือการเสียสละ ไม่ใช่การเอาชนะ และไม่ใช่การยึดติดในตำแหน่งแห่งที่ เชื่อเสมอว่าหากไม่ยึดติดแล้วจะมีอิสระทางความคิด นำไปสู่การมีอิสระการตัดสินใจในทุก ๆ เรื่องเพื่อส่วนรวม” นางนฤมลกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะช่วยงานพรรคพลังประชารัฐอย่างไร นางนฤมลกล่าวว่า คงช่วยงานในรูปแบบอื่น ยังมีความรับผิดชอบกับคนที่เรานำเข้ามา น้อง ๆ ผู้สมัครทั้งหลาย หลายคนระหว่างทางตนเสียใจที่ไม่สามารถทำให้ทุกคนสมหวังในการได้ลงรับสมัคร ส.ส. ซึ่งมาจากหลายอย่าง ทั้งพื้นที่ทับซ้อน การแบ่งเขตใหม่ทำให้ได้รับผลกระทบ แต่เมื่อสรุปจบแล้วก็คือความรับผิดชอบของเราที่จะนำพาเขาไปจนถึงวันเลือกตั้ง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าน้อยใจที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับ 20 นางนฤมลกล่าวว่า “ไม่มีนะคะ ที่ปรากฏมาในการประชุมวันพุธที่ผ่านมาก็อยู่ในลำดับที่ปรากฏเป็นข่าว ไม่รู้ใครให้ข่าว ก็เป็นตามนั้นจริง ๆ แต่เรามองไปใน 20-30 ลำดับแรก ส่วนตัวเรียนตรง ๆ ด้วยความสัจจริง เราไม่เห็นคนใหม่ ๆ ที่เขาตั้งใจทุ่มเททำงานให้กับพรรคจะได้มีโอกาสเข้ามาทำงานเลย

“ถ้าเราไม่ถอย ไม่เสียสละ เราคิดว่าเราเป็นผู้บริหารจะต้องเป็นลำดับต้น ๆ และต้องเป็นลำดับต้น ๆ ตลอด คนใหม่จะไม่มีทางเข้ามาได้เลย เข้าใจว่าหลายพรรคเป็นลักษณะเดียวกัน ในฐานะเป็นผู้บริหารพรรคก็เสียสละ”

เมื่อถามว่า ได้ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก่อนหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ได้เรียนผู้บริหารแล้ว แจ้งกับ พล.อ.ประวิตรแล้ว ส่วนผู้สมัครใหม่ ๆ ต้องรอคณะกรรมการสรรหาพิจารณาว่าจะมีใครบ้าง โดยมีน้อง ๆ ที่ทำงานด้วยกันมา ทิ้งใครกลางทางก็คงไม่ได้

นางนฤมลกล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งเหรัญญิกพรรค ส่วนอนาคตก็ยังไม่มีการหารือกันเรื่องนี้

“อยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมืองในพรรคจริง ๆ เราคุยกันมาตลอดว่าเราจะต้องมีเวที มีพื้นที่ให้เขา มีโอกาสทำงานการเมือง ถ้ามันไม่เปิดสักช่องก็จะวนกันอยู่แบบนี้ พรรคพลังประชารัฐก็จะไม่เห็นภาพของคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน มีหลายคนที่มาทำงานกับพรรคและไม่ได้อะไรเลย”

เมื่อถามว่า ถ้าขยับชื่อจากลำดับที่ 20 มาอยู่ 1 ใน 3 ชื่อแรกจะเปลี่ยนใจหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย คะแนนของพรรคในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่ได้มา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เข้ามา 19 คน ครั้งนี้คาดการณ์ว่าใกล้ ๆ เดิม ไม่ว่า 10-20 ก็มีโอกาสได้เข้าสภาทั้งสิ้น จะอยู่ลำดับไหนไม่สำคัญ

เมื่อถามว่า แน่ใจได้อย่างไรว่าหากลาออกแล้ว จะไม่เป็นการเปิดช่องให้คนอื่นเข้ามาแทนคนรุ่นใหม่ นางนฤมลกล่าวว่า ฝากคณะกรรมการสรรหาพิจารณาเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เหมือนที่ตนได้โอกาส แต่ที่สุดก็เคารพมติของคณะกรรมการสรรหา

เมื่อถามว่า จะยังช่วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ใน กทม.หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ช่วยน้อง ๆ พี่ ๆ ในส่วนที่จะสนับสนุนได้ ให้ทุกคนสมหวังในที่สุด และช่วยสนับสนุนเหมือนเดิม ส่วนการขึ้นเวทีปราศรัยก็ช่วยได้ไม่มีข้อห้ามอะไร แล้วแต่ผู้จัด เจ้าภาพในพื้นที่

การลาออกครั้งนี้เป็นเรื่องดี สร้างบรรทัดฐานของนักการเมือง ของพรรคพลังประชารัฐที่เราไม่ได้ยึดติดและพร้อมเสียสละให้กับผู้อื่นได้เข้ามา ยืนยันว่าจะยังอยู่พรรคพลังประชารัฐอยู่ ยังไม่มีพรรคใดมาทาบทาม และ
ไม่มีอะไรน้อยใจ เป็นการตัดสินใจของตัวเอง

เมื่อถามว่า ถ้ามีพรรคการเมืองทาบทามจะพิจารณาหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า เราเกิดจากพรรคนี้ ถ้าไม่ได้พรรคนี้ และผู้บริหารพรรคในขณะนั้นไม่มีโอกาสได้ทำงานแบบนี้ ทิ้งไปเราก็ต้องสำนึกในสิ่งที่เราได้รับมาด้วย และไม่เชื่อว่าการเสียสละครั้งนี้จะสูญเปล่า และน้อง ๆ ที่มองอยู่จะมีกำลังใจ และหวังว่าน่าจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับน้อง ๆ ในอนาคต