ประยุทธ์ ปาดน้ำตา ปราศรัยปิดท้าย-ไม่ให้เปลี่ยนแปลงชนิดพลิกแผ่นดิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ประยุทธ์ ปาดน้ำตา ปราศรัยปิดท้าย ลั่น ไม่ยอมให้ประเทศล่มสลาย-ไม่ยอมให้เปลี่ยนแปลงชนิดพลิกแผ่นดิน ถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว ต้องอุ้ม-ต้องลากกันไป

วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นครั้งสุดท้ายว่า

วันนี้ทั้งลุงตู่และพี่ตู่มาเจอกับเราที่นี่อีกแล้ว เอากำลังมาฝาก เอาความจริงใจมาเสนอ ดีใจ ตื้นตัน ในความรักความสามัคคีของพวกเรา ความรักอบอวนไปทั้งห้องนี้ ขอบคุณกำลังใจที่มอบให้ ทั้งประเทศไทย นี่คือเสียงของรวมไทยสร้างชาติ เรามารวมกันในวันนี้จะเดินหน้าไปด้วยกัน เราตั้งปณิธานไว้ว่าบ้านเมืองต้องสงบ

พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยว่า สมัยปี 62 ความสงบจบที่ลุงตู่ ปี 66 ความสงบก็จบที่ลุงตู่เหมือนเดิม เราทำมาหากินได้มาหลายปี ด้วยความสงบเรียบร้อย ผ่านเวลายากลำบากช่วงโควิด ในช่วงเศรษฐกิจโลกตกต่ำ วันนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้าอยู่ สิ่งสำคัญ คือ ความรักความสามัคคีจากท่าน เพียงเท่านั้นเอง ผมไม่ต้องการอะไรจากท่าน ทั้งหัวใจผมมอบให้ท่านไปหมดแล้ว และร่างกายของผม

ที่ผมยืนอยู่ตรงนี้เพราะต้องการให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ประเทศไทยต้องไปต่อ ไปต่อด้วยความรักความสามัคคี ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยความเข้มแข็ง เอาชนะทุกอย่าง เราเลือกมาให้หมดเลย ปากต่อปาก บอกญาติพี่น้อง เพื่อน ช่วยกันเลือกรวมไทยสร้างชาติ ผมไปตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว ไม่เป็นอะไรเลย แข็งแรงทุกประการ เสี่ยงอย่างเดียวคือโรคหัวใจโต

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ผมเจ็บปวดถ้าเราไม่รักกัน ถ้าเราไม่ช่วยกัน สิ่งต่าง ๆ ที่เราไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งเรายอมรับไม่ได้ ในฐานะเป็นคนไทยทุกคน ต้องทำให้บ้านเมืองนี้สงบเรียบร้อย ทุกภาคส่วนแข็งแกร่ง แข็งแรง รัฐ ประชาชน เอกชน ธุรกิจ ผมยอมเหนื่อย ยอมเจ็บปวด (หยุดสะอื้น) เพราะเพื่อคนไทย วันนี้เราต้องยอมรับว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปมากแล้ว ก้าวหน้า เจริญเติบโต ยังมียากลำบาก คนที่เดือดร้อนอยู่ เราจะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว สิ่งสำคัญที่สุดคือความรัก ความสามัคคีจะเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ

พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยว่า วันนี้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว มุ่งไปสู่การพัฒนาประเทศ ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงเพื่อกลับไปสู่ปัญหา ความเดือดร้อน ความไม่สงบสันติ ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปต่อ ให้ดีที่สุด ให้สงบที่สุด ด้วยความรักที่มอบให้แก่กัน เราไม่ใช่ศัตรูกัน ผมไม่ใช่ศัตรูของใคร เราต้องให้อภัยกันทุกเรื่อง เพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า เราอยู่ในโลกคนเดียวไม่ได้ ผมต้องรักษาสมดุลไว้ให้ได้ เราอย่าสร้างความขัดแย้ง เพราะโอกาสจะกลายเป็นวิกฤตทันที ล้มเหลว เสียเปล่า เวลาเสียไป เรียกกลับมาไม่ได้อีกแล้ว

“วันนี้ผมไม่สียใจที่ผมได้เป็นทหารมา ได้ดูแลปกป้องแผ่นดินมาให้กับพวกเรา ผมต้องการให้แผ่นดินแผนนี้เป็นแผ่นดินแห่งสันติสุข ปลอดภัย คนไทยรักสามัคคีกัน เราไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงชนิดที่พลิกแผ่นดิน ท่านรับได้ไหม อะไรจะเสียหายบ้างรู้ไหม เราเปลี่ยนแปลงแบบพลิกแผ่นดินไปเพียงครั้งเดียวไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะพลิกอะไรบ้าง วันนี้ดีอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยว่า บางครั้งผมก็รู้สึกเจ็บปวดที่หลายคนไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมาครั้งนี้มากกว่า เราจะไม่ถอยหลังกลับไปอีกแล้ว ผมจะไม่ก้าวถอยหลังกลับไปอีกแล้ว เราต้องจับมือกัน อุ้มกัน ลากกันไป เพื่อเดินไปข้างหน้า อย่าหยุดอยุ่กับที่เด็ดขาด อย่าชะงัก อย่าให้ใครมาดึง รั้งคนไทยทุกคนที่จะก้าวไปข้างหน้า

เราจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางพัฒนาประเทศที่ดีขึ้น เพิ่มความรักความสามัคคีให้มากขึ้นเพื่อลูกหลานเพื่ออนาคต เราจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายรากเหง้าของประเทศไทยโดยเด็ดขาด จะต้องไม่สูญหายไปจากประเทศไทยโดยเด็ดขาด ทุกคนต้องไม่ปล่อยให้ผมสู้อยู่คนเดียว วันนี้ผมดีใจที่มีคนเดินทางกับผมไปจำนวนมาก หนทางแห่งเกียรติศักดิ์นั้นจักหอมหวลกลิ่นไซร์ไป่มี ผมเข้ามากากรเมืองผมต้องเจออะไรที่ไม่เคยเจอบางอย่าง แต่ทำให้ผมมีแรงฮึดขึ้นมาว่า ผมต้องทำให้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยว่า ภาระยังมีอีกมาก ปัญหาทุกอย่างต้องได้รับการแก้ไข ต้องได้รับการดูแล วิธีการที่ถูกต้อง เราไม่อาจให้ประเทศเราล่มสลาย เสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศต้องไม่ล่มสลาย ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ

วันนี้สถานะทางการเงินการคลังของเรายังแข็งแกร่งอยู่ ไม่ใช่เอามาใช้อะไรก็ได้ ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพียงพอ หารายได้เข้ามาเพื่อเสริม เพื่อกลับมาดูแลคนไทยทุกคน เรามีวิธีทำ เราเคยทำมาแล้ว เราทำมาแล้ว และทำอยู่ กำลังทำต่อ และต้องทำทันที

“เราต้องมี ส.ส.ให้มากที่สุด ถ้าไม่เลือก ส.ส.เขต ลุงตู่ไม่ได้ยืนตรงนี้อีกแล้ว ถ้าท่านเชื่อมั่นผมให้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะทำต่อให้ท่าน ถ้าทุกคนพร้อมจะสู้ไปกับผม ผมสู้ใจขาด ผมไม่ต้องการเข้ามาสู่อำนาจเพื่อมาทำทุจริต” พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยปิดท้าย