เศรษฐามอบนโยบายทีมประเทศไทยในสหรัฐ เล่าปรัชญาการทำงานของรัฐบาล ยืนยันภารกิจหลัก เปิดประเทศ สนับสนุนธุรกิจ เจรจาการค้าเสรีเอฟทีเอ เปิดตลาดใหม่ ๆ แก้เศรษฐกิจปากท้อง ลดค่าไฟ-ลดราคาน้ำมัน พักหนี้เกษตร สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ใช้สันติวิธีเพื่อความมั่นคงทางการเมือง โฆษกรัฐบาลผุด จับคู่เกษตรกรก้าวหน้า-เกษตรกรรายย่อย เพิ่มผลผลิตอย่างก้าวกระโดด
วันที่ 22 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 21 กันยายน 2566 เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ณ โรงแรม St. Regis นิวยอร์ก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ประชุมเพื่อมอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทยในสหรัฐอเมริกา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวสวัสดี และได้เล่าถึงนโยบายปรัชญาการทำงานของรัฐบาลนี้ ต้องการเห็นประเทศเดินไปข้างหน้าได้ด้วยการปฏิบัติตามหลักนิติธรรม
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า 7-8 ปีที่ผ่านมาประเทศชาติมีความเห็นต่างในสังคม ภารกิจหลักของรัฐบาลจึงต้องการเปิดประเทศ สนับสนุนการทำธุรกิจ รวมทั้งรักษาจิตใจของคนในทุกภาคส่วนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่างกัน เยียวยาจิตใจให้อยู่ร่วมกันภายใต้กรอบของกฎหมายได้อย่างสันติ การพัฒนาทางเศรษฐกิจของไทยต่ำกว่าเพื่อนบ้าน ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้ไข ปัญหาที่สองมีครัวเรือนสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาสังคม ยาเสพติด
โดยก่อนเดินทางมาที่นี่ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ยึดทรัพย์ เผาทำลาย เจรจาระหว่างประเทศเพื่ออุดพรมแดน ทุกคนต้องหันหน้าเข้าหากันเพื่อความความสมานฉันท์
ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ การลงพื้นที่ทำให้รู้ว่าประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลจึงตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด โดยได้ออกเป็นมาตรการภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ลดราคาน้ำมัน ลดราคาค่าไฟฟ้า เข้าใจดีว่าควรประเมินปัญหาทั้งหมดแล้วหาทางแก้แต่ประชาชนต้องการ อะไรที่พอจะช่วยเหลือได้ รัฐบาลดำเนินการทันที การพักหนี้เกษตรกรจำเป็นต้องทำทันที เพื่อให้ประชาชนมีแรงทำมาหากิน มีกำลังใจ ไม่ต้องแก้ไขปัญหาหนี้สิน ระหว่างที่ตั้งใจทำงาน
การเปิดตลาดก็เป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลนี้มีต้นทุนสูง ต้องการตลาดที่มีศักยภาพใหม่ ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก การเจรจาจัดทำการค้าเสรี หรือ FTA ก็สำคัญ ขอให้ทุกท่านทำงานเชิงรุก Proactive ทั้งทวิภาคีและพหุภาคี สรุปการทำงานเพื่อยกระดับ GDP ต้องยกระดับการลงทุน และจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้ากระทรวงการต่างประเทศไม่ช่วยเหลือ
นโยบายหลักของรัฐบาลที่สำคัญอีกอย่างคือการสนับสนุนการพัฒนา Soft power ซึ่งมีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ขอให้ทุกคนเดินหน้าช่วยพัฒนา Soft power เผยแพร่ในนานาประเทศ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ายินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกคน
นายชัยยังได้กล่าวถึงนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยรัฐบาลมีนโยบายในการจับคู่ธุรกิจ ระหว่างเกษตรกรก้าวหน้าจะมาคู่กับเกษตรกรรายย่อย เกิดเป็นผลผลิตก้าวกระโดด โดยหลักคิดที่สำคัญคือ หากเพิ่มผลผลิตไม่ได้จะเอาชนะในตลาดโลกไม่ได้ และต้องเลือกผลผลิตที่มีความต้องการซื้อและใช้น้ำน้อย เมื่อพิจารณาจากสภาพอากาศ เอลนีโญ ที่กำลังจะเกิดขึ้น