บิ้กธุรกิจ ชวนโหวตมติชน x เดลินิวส์โพล สะท้อนเสียงประชาชนถึงรัฐบาล

มติชนxเดลินิวส์โพล

บรรดานักธุรกิจจากหลากหลายวงการ ผู้นำและตัวแทนองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน เชิญชวนประชาชน สะท้อนปัญหาถึงรัฐบาลผ่านโพลมติชน x เดลินิวส์

วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันเริ่มต้นเปิดโหวต โพลมติชน x เดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร โดยกองบรรณาธิการในเครือมติชนและเดลินิวส์ ได้ประมวลชุดคำถาม “รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร ?” แล้วนำมาเปิดให้ประชาชนโหวต ผ่านทาง “คิวอาร์โค้ด” ที่อยู่ในสื่อทั้ง 2 เครือ ทั้งหนังสือพิมพ์ 4 เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์), ยูทูบ, อินสตาแกรม และติ๊กต๊อก

สำหรับคำถามมี 2 หัวข้อใหญ่ คือ 1.เร่งแก้ปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม ประกอบด้วย 1.1 แก้รัฐธรรมนูญ, 1.2 ปฏิรูปกองทัพ, 1.3 กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น, 1.4 ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม, 1.5 รัฐสวัสดิการ และ 1.6 ปัญหาอื่น ๆ

และ 2.เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง ประกอบด้วย 2.1 แจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท, 2.2 แก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน-หนี้สาธารณะ, 2.3 แก้ปัญหาการเกษตร, 2.4 เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนปริญญาตรี, 2.5 ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าน้ำมัน และ 2.6 ปัญหาอื่น ๆ

และหลังจากประชาชนโหวตโพลจนครบกำหนดถึงวันที่ 31 ตุลาคมแล้ว จะมีกิจกรรมเจาะลึกเรื่องโพลของมติชน-เดลินิวส์ ในเดือนพฤศจิกายน โดยเชิญนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญการเมืองมาร่วมวิเคราะห์ผลด้วย

ทั้งนี้ นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงคำถามโพล “มติชน x เดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร ? ว่า คิดว่าทั้งปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองเป็นปัญหาที่แยกกันไม่ออก ควรจะต้องแก้ไปพร้อมกัน แต่เรื่องที่ต้องแก้ระยะสั้นนี้คือเศรษฐกิจ ระยะยาวคือเรื่องการเมือง

อย่างไรก็ตาม อยากจะเชิญชวนประชาชนทุกท่านมาร่วมกันทำโพลมติชน x เดลินิวส์ เพราะการทำโพลของท่านจะเป็นทิศทางให้รัฐบาลทำงานได้ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) AIS กล่าวว่า จริง ๆ ในวันนี้เราได้รัฐบาลใหม่แล้ว และเป็นโอกาสที่ดีที่เราได้รัฐบาลผสมกลุ่มเก่ากับกลุ่มใหม่ แล้วสามารถดำเนินประเทศได้อย่างลงตัว จึงเชื่อว่าปัญหาการเมืองยังเป็นปัญหาที่รอได้

สิ่งสำคัญมากคือเราต้องช่วยกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพราะหลังจากสถานการณ์โควิด มีปัญหาหนี้ครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ตนเชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจดี การเมืองก็จะดีไปด้วย

นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา จังหวัดยะลา กล่าวว่า จริง ๆ ความจำเป็นทั้งสองด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ และด้านการเมือง ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจมีปัญหาอย่างยาวนาน และทำให้ประเทศไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้ สิ่งที่หยุดไม่ให้ประเทศเราเดินไปข้างหน้าได้อีกตัวหนึ่งคือปัญหาการเมือง ดังนั้น อาจต้องเลือกประเด็นว่า เศรษฐกิจอะไรเป็นความจำเป็นเร่งด่วน เข้าใจว่ารัฐบาลทำไปบ้างพอสมควร คือ เรื่องลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนให้พี่น้องประชาชน เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ในตัว

ขณะเดียวกัน เรื่องค่าใช้จ่ายยังมีหลายตัวที่รัฐบาลน่าจะมาพิจารณา และดูแลให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนรับภาระในระยะสั้น ๆ 

แต่ขณะเดียวกันเรื่องการเมือง เรื่องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปอย่างมากมาย ดังนั้น การปรับโครงสร้างภาครัฐ และ 8 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นรัฐราชการ ต้องยอมรับว่าการที่เป็นรัฐราชการ สิ่งที่เป็นปัญหาคือการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และทันต่อการแข่งขัน 

ผมเชื่อว่านายกฯ เศรษฐา ซึ่งมาจากภาคเอกชน มองเห็นเรื่องนี้ชัด ผมว่าเป็นสิ่งที่ต้องรีบทำเช่นเดียวกัน ในระยะสั้น ต้องลดค่าใช้จ่าย และหาเม็ดเงินเข้าประเทศ ซึ่งรัฐบาลพยายามทำเรื่องการท่องเที่ยว แต่หลังจากนี้ต้องปรับโครงสร้างทางการเมืองทุกระบบราชการก็เป็นสิ่งจำเป็นด้วย 

“ถือเป็นโอกาสที่ดีมากที่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งรัฐบาลต้องรวบรวมปัญหา เราจะเห็นภาพนายกฯ ลงพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อรับฟังเสียงของประชาชน วันนี้ประชาชนมีช่องทางอีกช่องหนึ่งคือร่วมกันแสดงความคิดเห็นผ่านโพลของมติชน และเดลินิวส์ ในช่องทางต่าง ๆ เป็นช่องทางหนึ่งที่จะสื่อถึงนายกฯ โดยตรงได้เร็วที่สุด และในภาพใหญ่ของประเทศก็จะยิ่งเห็นภาพชัดขึ้น อยากให้ประชาชนร่วมแสดงความเห็นกันมาก ๆ” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า เป็นโครงการที่ดีเราจะได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชน ในฐานะที่ธนาคารออมสินก็เป็นหน่วยงานรัฐ และรัฐบาลเองก็จะได้ข้อมูลนี้ไปช่วยเหลือประชาชน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนเห็นความตั้งใจมากๆ ของรัฐบาล อย่างการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติเป็นเอกฉันท์ ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด ได้รับนโยบายและการสั่งการจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังให้ดูแลในส่วนนี้

ธนาคารออมสินก็จะตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ MRR MLR MOR เพื่อช่วยพี่น้องฐานราก และเกษตรกร SMEs รายเล็กๆ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย การที่ดอกเบี้ยสูงขึ้นมาก ๆ เขาก็มีภาระ ไม่สามารถจ่ายได้ สุดท้ายก็เป็น NPL ไม่เกิดประโยชน์อะไร ดังนั้น เราจะตรึงดอกเบี้ยส่วนนี้ให้นานที่สุด ช่วยประชาชน ช่วยสังคม ตามนโยบายรัฐบาล

คุณสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวว่า ในเชิงรายละเอียดลึกๆ ตนมั่นใจว่าถ้าเราแก้ปัญหาปากท้อง เราสามารถแก้ได้ทันที แต่ถ้ามองภาพแมคโคร เราสามารถแก้ปัญหาปากท้องกับปัญหาการเมืองไปพร้อมกันได้ อยากเชิญประชาชนช่วยสะท้อนปัญหาให้รัฐบาลทราบว่ามีปัญหาอะไร ในอนาคตคิดว่าจะมีปัญหาอะไร หรือนำปัญหารวมกันสามารถบูรณาการได้ครั้งเดียว  

จึงเชิญชวนประชาชนช่วยตอบโพลมติชน เดลินิวส์ เพื่อให้รัฐบาลเห็นปัญหาของประชาชนจริง ๆ ไม่ว่าการเมือง หรือเศรษฐกิจ จะทำให้ประเทศชาติพัฒนาได้อย่างแน่นอน 

ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตคณบดี ให้สัมภาษณ์ต่อประเด็นคำถามของโพล “มติชน x เดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร ?”

ศ.พิเศษ ธงทองกล่าวว่า หากต้องเลือกให้รัฐบาลเศรษฐาแก้ปัญหาการเมือง ปฏิรูปโครงสร้างก่อน หรือปัญหาทางเศรษฐกิจก่อน ซึ่งทั้งสองเป็นปัญหาที่ง่ายและยากไปพร้อม ๆ กัน เพราะเห็นว่าเป็นตัวเลือกที่มันมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันระหว่างการเมืองกับเศรษฐกิจ แต่ถ้าต้องเลือกเดินบันไดขั้นแรกของการก้าวไปแก้ปัญหาในระยะยาว

“ผมคิดว่าการเมืองส่งผลต่อระบบโครงสร้างทั้งระบบ ถ้าถามความเห็นผม ผมเดินเรื่องการเมืองก่อน แล้วเศรษฐกิจก็จะตามมา” ศ.พิเศษ ธงทองเผย

ศ.พิเศษ ธงทองกล่าวว่า การร่วมโหวตโพลมติชนที่ร่วมกับเดลินิวส์เพื่อส่งเสียงไปถึงรัฐบาลที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหา เพราะเวลาเราอยู่คนเดียวเสียงเราไม่ดัง แต่เสียงเราหลายคนมาอยู่พร้อม ๆ กันในแพลตฟอร์ม หรืออยู่ในเวทีอันใดอันหนึ่งที่มีระบบระเบียบขึ้นมา ตนคิดว่าเสียงเราจะเป็นปึกแผ่นมากขึ้น

“ผมคิดว่าโพลระหว่างมติชนกับเดลินิวส์ครั้งนี้มีความสำคัญที่จะส่งเสียงอย่างเป็นทางการของเราไปยังผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ คือรัฐบาล ได้เอาไปประกอบการตัดสินใจ” ศ.พิเศษ ธงทองกล่าว

ศ.กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตนคิดว่ารอบนี้โจทย์ใหญ่ ๆเยอะ มีทั้งการเมืองเศรษฐกิจ ปัญหาจากต่างประเทศและปัญหาภายในที่รุมเร้าของเราเอง แม้แต่โจทย์ใหญ่ก็เป็นโจทย์สำคัญที่ประเทศไทยต้องคิดเหมือนกัน ตนคิดว่าเราต้องจัดลำดับความสำคัญเรื่องความเร่งด่วนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าแต่ละส่วนได้รับผลกระทบต่างกันไป แต่ที่สำคัญที่สุดอยากเห็นพี่น้องประชาชนช่วยกันสะท้อนว่าอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาอะไร ทั้งในมุมเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือแม้กระทั่งอากาศที่เปลี่ยน ปีนี้ก็เห็นได้ชัด

“คิดว่าวันนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีในภาวะที่การเมืองเปิดมากขึ้น เรามักจะพูดว่าเสียงของประชาชนเป็นเสียงสวรรค์ แต่หากอยากให้เสียงประชาชนเป็นเสียงสวรรค์จริง ๆ ผมว่าเราพี่น้องประชาชนคงต้องส่งสัญญาณ มันอาจจะไม่ใช่การเดินไปที่คูหา แต่อย่างน้อยสัญญาณครั้งนี้จะเป็นเสียงบอกว่าเราในฐานะประชาชนอยากเห็นรัฐบาลแก้ปัญหาอะไร อยากเห็นรัฐบาลทำอะไรเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม และตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนที่เราอาศัยอยู่ร่วมกัน” ศ.กิตติคุณ ดร.สุรชาติกล่าว

สำหรับกิจกรรมการทำ “โพลมติชน x เดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร ?” ครั้งนี้ เป็นการโหวตผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของสื่อเครือมติชนและเดลินิวส์ โดยเปิดโหวตเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค. 66