เลือกตั้งซ่อมเดือด “ประวิตร” ยกทัพเหยียบชุมพร “จุรินทร์” ปักหลักสงขลา

ประวิตร : “พลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ” VS จุรินทร์ : “ผู้แทนฯสัมภเวสีลอยไปลอยมา”

เลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพร เขต 1 และ สงขลา เขต 6 งวดเข้ามาทุกขณะ ซึ่งจะหย่อนบัตร-เข้าคูหาเลือกตั้งในวันที่ 16 มกราคม 2565 นี้แล้ว

สนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส. สองจังหวัดภาคใต้ เป็นศึกช้างชนช้าง ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ – แชมป์เก่า ครองหัวใจคนปักษ์ใต้ มานมนาม กับ พรรคพลังประชารัฐ – ผู้ต่อกร ขันอาสารับช่วงต่อดูแลคนใต้

วันที่ 12 มกราคม 2565 เวลา 18:00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำทีมทัพหลวง-แกนนำระดับคีย์แมน เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ,นายสันติ พร้อมพัฒน์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งเขต 1 ชุมพร , นายอธิรัฐ  รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม , ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรค

รวมถึง ส.ส. พรรคพลังประชารัฐประกอบด้วย นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 2 , นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 ,นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี เขต 3 ,นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 7 ,นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง เขต 1 ,นายกรุง ศรีวิไล ส.ส สมุทรปราการ,นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี เขต 3

ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย “ทนายแดง” นายชวลิต อาจหาญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 4 พรรคพลังประชารัฐ จ.ชุมพร ที่บริเวณด้านหน้าศาลาว่าการอำเภอเมืองชุมพร เพื่อยืนยันว่า “ทนายแดง” เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนในการนำปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่มาวางแผนร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในการดำเนินการแก้ไขให้สอดคล้องกับนโยบายพรรคฯ

โดยเฉพาะในเรื่องการอยู่ดีกินดี ที่คู่ขนานไปกับการพัฒนาเปลี่ยนแปลงเมืองชุมพรให้ดีขึ้น ทั้งเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และเกษตรกรรม โดยบริเวณหน้าทางเข้าได้มีการตรวจคัดกรองป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ภายใต้มาตรการอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีประชาชนมาร่วมฟังนโยบายของพรรคในครั้งนี้จำนวนมาก

ทันทีที่พล.อ.ประวิตร ขึ้นเวที ได้มีพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นพร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังด้านหน้าเวทีจำนวนมาก

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตั้งใจเดินทางมาจังหวัดชุมพร เพราะรู้สึกอบอุ่น รวมถึงสมาชิก ส.ส.ของพรรคแต่ละคนที่เดินทางมาพร้อมกันก็เพื่อมายืนยันว่า “ทนายแดง” เหมาะสมที่จะสู้ในศึกชิงเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ ในฐานะตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ พลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจแต่เป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงอันดับที่ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อสานต่องานนโยบาย และการดูแลประเทศ สิ่งสำคัญคือการแก้ไขเรื่องปากท้องให้ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี ด้วยการเข้าถึงสิทธิ์ขั้นพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการรัฐ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและประสบผลสำเร็จ

รวมถึงระบบคมนาคมรถไฟรางเพื่อการเชื่อมต่อระหว่างภาคลงสู่ภาคใต้ ในการที่จะให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกและเพิ่มเศรษฐกิจให้เมืองชุมพร จึงเชื่อว่าหาก ทนายแดง ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ชุมพรได้รับการเลือกตั้งเข้ามาก็จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนพัฒนายกระดับเมืองชุมพรเมืองหน้าด่านแห่งเศรษฐกิจ 14 จังหวัดภาคใต้

“พรรคพลังประชารัฐ จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยมุ่งในการทำนโยบายเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ด้วยความเข้มแข็ง เป็นหนึ่งเดียวของพรรคจะสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนกินดีอยู่ดี”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คนในพื้นที่จะรับทราบถึงปัญหาดีที่สุด ซึ่ง “ทนายแดง” เป็นผู้ที่ลงพื้นที่แก้ปัญหาร่วมกับตนเองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมภาคใต้อย่างหนัก ที่เข้าไปช่วยประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมยังวางแผนในระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะเป็นคนที่เหมาะสมในการดูแลชาวชุมพรที่สานต่อนโยบายทันทีโดยมีฐานข้อมูลพื้นที่ที่ครอบคลุมในเขต 1 ที่จะทำให้การแก้ปัญหาเข้าถึงได้ทันที ดังนั้นประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า “ทนายแดง” จะเป็นปากเสียงให้กับชาวชุมพร

จากชุมพร มุ่งลงใต้ สู่ สงขลา กว่า 300 ไมล์ พรรคประชาธิปัตย์ ยกขุนพลปักษ์ใต้ ขึ้นเวทีปราศรัยคับคั่ง เช่น นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา รมช.มหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ส.ส.สงขลา นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส.ตรัง นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง นายเกตุชาติ เกศา ว่าที่ผู้สมัคร นายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรค ส.ส.นครศรีธรรมราช นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีต ส.ส.สงขลา รองนายก อบจ.สงขลา น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส. นครศรีธรรมราช น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นพ. บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง นายธนิตพล ไชยนันทน์ อดีต ส.ส.ตาก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขึ้นปราศรัยใหญ่เพื่อขอคะแนนเสียงให้ “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล เบอร์ 1 ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

นายจุรินทร์ปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันสองวันที่ผ่านมามีผู้ใหญ่ของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งมาปราศรัยและเชียร์เบอร์อื่นที่ไม่ใช่เบอร์ 1 บอกว่าคนสงขลาเขต 6 ต่อไปนี้ วิธีเลือกผู้แทนต้องเลือกคนที่มีคุณสมบัติสำคัญข้อหนึ่งก็คือจะต้องเป็นคนรวย มีคลิปเผยแพร่ทั่วประเทศบอกว่า ถ้าเลือกคนรวยแล้วดี

แต่การที่บอกว่าต้องเลือกคนรวยแปลว่าคนจนก็ไม่มีความหมาย ต่อไประบอบประชาธิปไตยก็ไม่ต้องมาแข่งขันความดี ไม่ต้องเอาศักยภาพ ไม่ต้องเอาความรู้ความสามารถมาแข่งขันกัน เอาเงินในธนาคารมาเปิดดูกันว่าใครรวย แล้วคนนั้นก็เป็นผู้แทน ระบอบประชาธิปไตยไม่ได้เป็นแบบนั้น เราไม่ได้เลือกกันที่เงิน ไม่ได้มาดูว่าใครรวยกว่าใครแล้วควรเลือกคนนั้น

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเลือกตั้ง ประชาชนก็ไม่ต้องมีความหมายเอาเก้าอี้มาตั้งแล้วก็ประมูลกัน ใครไม่ให้เงินมากกว่าเพื่อนคนนั้นเป็นผู้แทน สภาผู้แทนก็เลยกลายเป็นสภาคนมีเงินอย่างเดียวแล้วประเทศจะมีไปทำไม ใครจะมาทำหน้าที่แทนคนจน ในเมื่อมีแต่คนรวยทั้งสภา เพราะฉะนั้นความรวยไม่ใช่เงื่อนไขที่จะนำมาซึ่งการตัดสินใจให้เราได้ผู้แทนราษฎรที่ดีที่เป็นผู้แทนแทนเราได้ เราต้องพิจารณาจากสภาพความเหมาะสมและคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

รวมทั้งพรรคการเมืองที่สังกัดว่าเขาควรที่จะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรหรือไม่ อย่าให้เงินมามีอำนาจเหนือความดี เหนือคุณภาพศักยภาพของความเป็นนักการเมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตย

เหตุผล 2 ข้อที่ควรเลือก สุภาพร กำเนิดผล เบอร์ 1 ว่า 1. เป็นคนดีมีความเหมาะสม ทั้งทางสังคมและทั้งทางการเมือง เพราะ สุภาพร กำเนิดผลได้พิสูจน์ให้เห็นว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีบทบาทและทำงานทุ่มเทร่วมกับกลุ่มสตรีจังหวัดสงขลามาตลอด สำหรับในทางการเมืองบทบาทในการบริหาร เมื่อครั้งเลือกตั้งนายก อบจ. พี่น้องชาวจังหวัดสงขลาได้ให้ฉันทามติกับ นายไพเจน มากสุวรรณ์ ให้ไปทำหน้าที่เป็น นายก อบจ. “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผลก็ได้มีโอกาสเข้าไปทำงานโดยไปเป็นรองนายก อบจ. เพราะฉะนั้นคนนี้จึงมีประสบการณ์ในการบริหารองค์การบริหารปกครองท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดระดับจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่อย่างสงขลา ดังนั้นในอนาคตถ้ามีโอกาสไปทำงานในระดับประเทศ ก็สามารถทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรระดับชาติได้สบาย

2. สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครเบอร์ 1 นั้น สังกัดพรรคการเมืองที่ดี พรรคประชาธิปัตย์นั้นให้ความสำคัญ และให้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้เข้ามามีบทบาททางการเมือง ซึ่งผู้หญิงของประชาธิปัตย์มีเก่ง ๆ หลายคน อาทิ

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษา รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู (แม่เลี้ยงติ๊ก) ส.ส.แพร่ ในภาคใต้ จังหวัดพังงามี กันตวรรณตันเถียร จังหวัดกระบี่มี ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ภูเก็ตมี อัญชลี วานิช เทพบุตร จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สุราษฎร์ธานี มีวชิราภรณ์ กาญจนะ พัทลุงมีสุพัชรี ธรรมเพชร นอกจากนี้ยังมี มัลลิกา บุญมีตระกูล

ต่จังหวัดสงขลายังไม่มีส.ส. ผู้หญิง ดังนั้นนี่คือโอกาสของคนสงขลาที่จะเปิดศักราชใหม่ทางการเมืองสร้างตำนานใหม่ในทางการเมืองให้กับจังหวัด

พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองเฉพาะกิจ แต่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งขึ้นมาเพื่อตั้งใจที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศไปยาวนานยั่งยืน เพราะประชาธิปัตย์ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะไปหนุนให้ใครคนใดคนหนึ่งมีอำนาจพอคนนั้นพ้นจากอำนาจและก็ทิ้งชาวบ้านที่เดินตามหลังมาเพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์จึงอยู่ยั้งยืนยงมา 70 กว่าปี

“ประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคการเมืองที่พี่น้องฝากผีฝากไข้ไว้ได้ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่พี่น้องเลือกไปแล้วเที่ยวหน้าถ้าเขายุบพรรคทำยังไง หรือว่าพรรคเลิกไป แล้วผู้แทนที่เราเลือกไปจะว้าเหว่กลายเป็นสัมภเวสีลอยไปลอยมาไม่รู้เข้าข้างไหน”

นี่คือเหตุผลเพราะอะไรความเป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนของประชาธิปัตย์จึงมีความสำคัญ และถ้าเลือกไปแล้วเสียหายพี่น้องกลับมาทวงคืนความเสียหายที่ประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบได้ เพราะประชาธิปัตย์ยังอยู่ ไม่ใช่สูญหายไปแล้วไม่รู้จะไปทวงความเสียหายจากใคร

โครงการคนละครึ่งไม่ใช่นโยบายพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ทั้งชุด เนื่องจากโครงการคนละครึ่งไม่ใช่นโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง แต่เป็นโครงการที่เกิดขึ้นหลังจากเราประสบปัญหาโควิด

รัฐบาลชุดปัจจุบันมีประชาธิปัตย์อยู่ร่วมกันแก้ปัญหา เมื่อมีการลงมติให้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน จึงได้นำเงินนั้นมาทำนโยบายคนละครึ่ง เพราะฉะนั้นคนละครึ่งจึงไม่ใช่นโยบายพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง

“ถ้าพรรคไหนก็ตามมาบอกว่าเป็นนโยบายพรรคเขา อันนี้ลักวิ่งชิงปล้นกลางแดดเลย และพรรคการเมืองที่ยกมือให้กับคนละครึ่ง ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองหนึ่ง รวมทั้งนายนิพนธ์และนายจุรินทร์ด้วย ใครก็ตามมาบอกว่าถ้าไม่เลือกเขา เขาจะเลิกคนละครึ่ง หลายคนส่ายหัว มันเลิกไม่ได้เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลไปแล้ว เพราะฉะนั้นพี่น้องเลือกน้ำหอมเบอร์ 1 วันที่ 16 มกร คนละครึ่งก็ยังอยู่”

จากที่มีคนทำให้เขวว่าการเลือกตั้งเที่ยวนี้คือการเลือกนายกฯ เพราะถ้าไม่เลือกพรรคการเมือง จุด จุด จุด บิ๊กตู่จะไม่ได้เป็นนายกฯ นั้น ไม่ใช่ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เลือกตั้งทั่วไป ไม่ใช่เลือกตั้งผู้แทนเพื่อไปลงคะแนนยกมือนายก เพราะนายกฯ มีแล้ว รัฐบาลก็มีแล้ว เลือกตั้งวันที่ 16 มกราไม่มีผลกับการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ไม่มีผลกับการเปลี่ยนแปลงนายกฯ เพียงแต่จะมีผลในการคืนที่นั่ง คืนความยุติธรรมให้กับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น

สำหรับความพยายามที่จะสร้างกระแสว่า เลือกตั้งเที่ยวนี้คนสะเดาลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยเพราะฉะนั้นคนสะเดาต้องเลือกคนสะเดานั้น ตนไม่ตำหนิและไม่มีอะไรวิจารณ์ความคิดนี้ แต่สิ่งหนึ่งอยากกราบเรียนว่า เลือกตั้งซ่อมเที่ยวนี้ไม่ใช่เลือกผู้ใหญ่บ้านที่บอกว่าเลือกผู้ใหญ่บ้านต้องเลือกจากคนที่อยู่ในหมู่เดียวกับเรา นี่เป็นเลือกตั้งระดับประเทศเป็นการเลือกตั้งระดับชาติ เลือกตั้งคนไปทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรแทนคนทั้งประเทศ

รวมทั้งแทนคนจังหวัดสงขลาบ้านเราด้วย เวลาผู้แทนราษฎรที่พี่น้องเลือกไปขึ้นพูดในสภา เขาจะต้องรายงานตัวบอกว่า กระผม/ดิฉัน ผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคไหนก็ตาม

เพราะฉะนั้นมันไม่จำเป็นว่าถ้าเลือกผู้แทนจังหวัดสงขลาเขต 6 ซึ่งมีอำเภอสะเดาอยู่ในเขต 6 ด้วยแล้วต้องเป็นคนสะเดาเสมอไป แล้วถ้าเป็นคนสะเดาอย่างเดียว แล้วคนหาดใหญ่จะทำยังไง คน อ.คลองหอยโข่งจะทำยังไง คนๆ เดียวไม่ได้เกิด 3 อำเภอได้

“นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้เราได้ตระหนักหลักในการที่จะพิจารณาให้ดูว่าคนๆ นี้ มีคุณสมบัติ มีความรู้ มีความสามารถ มีศักยภาพ มีความดีที่จะไปเป็นผู้แทนราษฎรแทนเราได้หรือไม่ และเข้าสังกัดพรรคการเมืองที่ดีหรือไม่ เป็นพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันพรรคการเมืองยั่งยืนที่เราจะฝากอนาคตทางการเมืองไว้ได้หรือไม่”

ถ้าพี่น้องเห็นด้วยกับผม วันที่ 16 มกราที่จะถึงนี้พี่น้องช่วยกันไปลงคะแนนหนุน “น้ำหอม” เบอร์ 1 พรรคประชาธิปัตย์ สุภาพร กำเนิดผล พาพรรคพวกเพื่อนฝูงไปช่วยลงคะแนนด้วย เพราะลำพังเราคนเดียวเสียงไม่พอที่จะทำให้คนที่เราสนับสนุนสามารถเป็นผู้แทนราษฎร ขอให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ช่วยกันสร้างตำนานการเมืองให้สงขลามีผู้แทนราษฎรผู้หญิงคนแรกมารับใช้เรา และช่วยชุบวิญญาณประชาธิปัตย์ของพวกเราทุกคนในฐานะพรรคการเมืองของคนสงขลาบ้านเราให้ได้กลับคืนมาด้วย

พลังประชารัฐ ชน ประชาธิปัตย์ โค้งสุดท้าย เลือกตั้งซ่อม วัดพลัง “บิ๊กป้อม”
เปิดประวัติ 5 ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ชุมพร พรรคแกนนำรัฐบาล สู้แตกหัก