ลาออกประชาธิปัตย์ วิทยา จี้ปลดกรรมการบริหาร ก่อนไม่เหลือชื่อพรรค

นักการเมืองรุ่นใหญ่ อดีตรัฐมนตรี ส.ส. 30 ปี ยื่นใบลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ จี้กรรมการบริหารพรรคแสดงความรับผิดชอบ

วันที่ 22 เม.ย.2565 นายวิทยา แก้วภราดรัย อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า ตนได้ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยไม่ได้คุยกับใครในพรรค มีเพียงนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคฯ และฝากให้ช่วยเรียน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคฯ ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคฯด้วย

สำหรับสาเหตุที่ตัดสินใจลาออกครั้งนี้ เพราะตนอยู่พรรคการเมืองมาหลายพรรค แต่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์นานที่สุดในชีวิตการเมือง ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้นในพรรค โดยเฉพาะกรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค

“อยากให้กรรมการบริหารพรรคแสดงความรับผิดชอบ และแสดงสปิริตกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้มากกว่านี้ เพราะเรื่องมาตรฐานจริยธรรมต้องสูงกว่ากฎหมาย พรรคไม่ผิด แต่มีคนผิด ดังนั้นต้องมีคนรับผิดชอบ เนื่องจากกก.บห.ชุดนี้เป็นคนชักจูงนายปริญญ์เข้ามาอยู่ในพรรค  ถือเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองต่อประชาชน จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้”

นายวิทยาระบุว่า ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็จะไม่เหลือพรรค ส่วนตัวยังคงรักพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตนพร้อมกลับมาหากมีการเปลี่ยนแปลง ขอย้ำว่าการตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นเรื่องภาพลักษณ์ และความรู้สึกของประชาชนล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับว่าพรรคจะไม่ส่งตนลงผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราช เพราะตนมีชื่อลงสมัครอยู่แล้ว

อย่าให้พรรคช้ำจนไม่เหลือชื่อประชาธิปัตย์ ถ้าไม่เปลี่ยน ก็จะไม่เหลือพรรค คำว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นแบบนี้ เพราะเราถูกสอนมาว่าต้องรู้จักรับผิดชอบต่อสังคม และความรู้สึกของประชาชน ไม่ใช่เกาะเกี่ยวเหนียวติดอยู่กับตำแหน่ง ผมถูกฝึกมาอย่างนั้น พรรคเป็นของทุกคน พรรคก็เป็นของผม แต่ผมต้องหาคนรับผิดชอบให้ได้ เมื่อไม่มีใครรับผิดชอบ ผมต้องเลือกปกป้องพรรค

ทั้งนี้ผู้บริหารพรรคควรแสดงสปิริตลาออกทั้งคณะ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะพรรคถูกทำร้าย พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองมายาวนาน ตนอยากเห็นพรรคอยู่ต่อไปได้ แต่เมื่อคนในพรรคทำผิด ผู้บริหารพรรคก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะสมัยที่ตนเป็นรมว.สาธารณสุข เคยถูกพาดพิงก็แสดงความรับผิดชอบ

ตนเป็นส.ส.มา 30 กว่าปี อยู่มาหลายพรรค และคิดว่าจะอยู่พรรคประชาธิปัตย์นานที่สุด ใครก็อิจฉา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ประชาชนที่เป็นเจ้าของพรรคจะคิดอย่างไร จึงเป็นสาเหตุทำให้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคครั้งนี้

ต่อข้อถามว่า ได้ตัดสินใจหรือยังว่าจากนี้จะไปร่วมงานการเมืองกับพรรคไหนนายวิทยา กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ได้ตัดสินใจ ตอนนี้ขออยู่นิ่งๆ ก่อน แต่คิดว่าตัวเองยังมีน้ำยา ส่วนจะไปร่วมงานกับพรรคไหนต่อไปนั้น ตนมองว่าต้องเป็นคนที่พร้อมเสียสละเพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง


ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีคนเข้ามาพูดคุยทาบทามไปร่วมงานด้วยหลายคน แต่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลาตัดสินใจ