สุเทพ หนุน ประยุทธ์ อยู่ครบวาระ ผ่านศึกซักฟอกฉลุย

สุเทพ เทือกสุบรรณ

สุเทพ หนุน ประยุทธ์ อยู่ครบวาระ จัดงานเอเปค ยุบสภาตอนนี้เหนื่อย มั่นใจเสียงฝ่ายรัฐบาลผ่านศึกซักฟอกฉลุย

วันที่ 24 เมษายน 2565 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ว่า เรื่องการเมืองไม่มีใครทำนายอนาคตได้ เราต้องยอมรับว่าเกิดอะไรขึ้นในทางการเมืองได้ตลอดเวลา

แต่ตนมองในมุมดีๆ คิดว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะอยู่ครบสมัย เพราะยังมีงานสำคัญของประเทศที่รัฐบาลต้องทำต่อเนื่องให้เรียบร้อย โดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลตอนนี้รัฐบาลมาใหม่ก็เหนื่อย ซึ่งเรื่องนี้คิดว่าทุกคนเข้าใจ

ADVERTISMENT

นอกจากนั้นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการแก้ปัญหาที่มีผลจากโควิด ทั้งปัญหาโรคระบาดและปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องการรัฐบาลที่มีความต่อเนื่องพอสมควร เวลาที่เหลือประมาณ 1 ปีคิดว่าน่าจะทำให้รัฐบาลสามารถแก้ปัญหาและพร้อมสำหรับรัฐบาลต่อไปที่จะมารับช่วงต่อ

นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ว่าในวงการเมืองจะคิดอย่างไรก็ตาม แต่ทุกคนก็ต้องคิดถึงประเทศชาติและบ้านเมืองในภาพรวม แต่ขณะเดียวกันในภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองนักการเมืองตกต่ำลงในสายตาประชาชน ก็เป็นโอกาสดีสำหรับพรรคการเมืองใหม่ๆ ที่จะเสนอทางเลือกใหม่ นโยบายใหม่ ตัวบุคลากรใหม่ให้ประชาชนพิจารณา ซึ่งจะทำให้พรรคการเมืองเก่าต้องปรับตัวเร็วขึ้น ซึ่งถ้ามองในแง่ดีตนคิดว่าทุกอย่างต้องเดินไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะสามารถผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าน้อยครั้งในสภา ที่รัฐบาลจะถูกอภิปรายไม้ไว้วางใจแล้วแพ้คะแนนเสียงในสภา หากดูประวัติศาสตร์แทบจะไม่มี ที่สำคัญคือคะแนนเสียงของประชาชนทั่วไป ประเด็นที่รัฐบาลถูกอภิปรายหากประชาชนเชื่อฝ่ายค้าน หรือเห็นด้วยว่ารัฐบาลบกพร่องในประเด็นนั้น อย่างนี้อันตราย แต่เรื่องคะแนนเสียงของรัฐบาลตนยังไม่เคยเห็นว่าจะมีปัญหา แม้ครั้งที่แล้วจะมีปัญหาและหวุดหวิดพอสมควร แต่คราวนี้ตนก็คิดว่ารัฐบาลน่าจะไปได้เพราะยังไม่เห็นประเด็นอะไรที่คิดว่าประชาชนไม่ชอบใจ

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้ายังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าพูดกันตรงๆว่าวันนี้ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จนกระทั่งจบเทอม หลังจากนั้นก็ต้องมาดูกันต่อ ซึ่งตนก็ไม่มีบทบาทอะไร เป็นแค่สมาชิกพรรคคนหนึ่ง แต่ในใจก็ต้องดูสถานการณ์หลังจากนี้ สถานการณ์ในช่วงเลือกตั้งว่าจะเป็นอย่างไร