“ก้าวไกล” รื้อบ้าน เปลี่ยนเมือง ปลุกรัฐสวัสดิการ-นักธุรกิจหายใจไม่ทั่วท้อง

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

รัฐบาลพรรคก้าวไกล กำลังจะเข้ามาสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการธุรกิจเมืองไทย

ว่ากันว่า ความรุนแรงระดับแผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์ก็แล้วกัน หากถามว่าแรงแค่ไหน ให้เปรียบเทียบกับสึนามิที่เข้าหาดภูเก็ตเมื่อปี 2547 ตอนนั้นความรุนแรงอยู่ที่ระดับ 9.1 ริกเตอร์

ทั้งนี้ จากนโยบายหาเสียงพรรคก้าวไกล “300 นโยบาย เปลี่ยนประเทศ” มี 9 เสานโยบายคือ 1.ประชาธิปไตยเต็มใบ 2.สวัสดิการครบวงจร 3.จังหวัดจัดการตนเอง 4.ราชการเพื่อราษฎร 5.ปฏิวัติการศึกษา 6.เกษตรก้าวหน้า 7.สิ่งแวดล้อมยั่งยืน 8.สุขภาพดีทั้งกาย-ใจ และ 9.เศรษฐกิจโตเพื่อทุกคน

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” โฟกัสนโยบายใกล้ตัวเกี่ยวกับวงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในมุมผู้ประกอบการและผู้บริโภค ยกตัวอย่างพอสังเขป (ดูกราฟิกประกอบ) ดังนี้

นโยบายก้าวไกล

เศรษฐกิจโตเพื่อทุกคน

ถอดรหัสนโยบายด้านเศรษฐกิจก็ต้องดูเสาหลักว่าด้วย “เศรษฐกิจโตเพื่อทุกคน” เรื่องแรกเลยที่จั่วหัวไว้คือ “หลังคาสร้างรายได้” เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ รัฐบาลประกันราคาซื้อไฟแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดสำหรับครัวเรือน วิธีการคือ ปลดล็อกทุกบ้านติดตั้งแผงโซลาร์ด้วยระบบ net metering (หักลบหน่วยขาย/ซื้อ หรือการซื้อไฟฟ้าส่วนเกิน)+ประกันรับซื้อไฟขั้นต่ำ หากยังไม่มีตลาดที่ราคา 2.2 บาท/หน่วย

“รถเมล์ EV ทุกคันใน 7 ปี” ด้วยการอุดหนุนงบประมาณ 10,000 ล้าน ให้ท้องถิ่นเพิ่มบริการขนส่งมวลชน+ส่งเสริมรถเมล์ไฟฟ้า+ออกกฎหมายให้รถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ ใช้พลังงานไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์สันดาป ภายใน 7 ปี

“เปลี่ยนปัญหาเป็นอาชีพ สร้างงาน ซ่อมประเทศ” มาจากประเทศไทยอัตราว่างงานต่ำ 1.2% หรือ 5 แสนคน แต่มีตัวเลข “เสมือนว่างงาน” หรือทำงานต่ำกว่า 24 ชั่วโมง/สัปดาห์ สูง 2 ล้านคน เท่ากับมีคนต้องการงาน 2.5 ล้านคน

นโยบายจะลงทุนปรับปรุงบริการสาธารณะพื้นฐาน เช่น ประปา ขนส่ง เพิ่มการจ้างงานดูแลเด็กเล็ก/สูงวัยภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือ อปท. เพิ่มพื้นที่สวนป่า 5 กลไก (สวนป่าปลดหนี้ สวนป่าบำนาญ สวนป่าเกษตรดูแลเอง ดูแลรักษาป่าชุมชน เพิ่มพื้นที่สีเขียวเมือง) เป้า 5 ล้านไร่ใน 4 ปี จ้างงาน 5 แสนคน เฉลี่ย 1 คนต่อ 10 ไร่

คำสัญญาคนไทยจะได้ดื่มน้ำจากก๊อก เทียบเท่าประเทศพัฒนาแล้ว แต่ต้องใช้เวลา 10 ปีทำ

หนี้แบงก์รัฐ จ่ายดี ลดดอกเบี้ย

เรื่องโดนใจลูกหนี้คงหนีไม่พ้นค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย “หนี้สินธนาคารรัฐ จ่ายดี ลดดอกเบี้ย” จากทั้งหนี้ในระบบ-นอกระบบ โดยลูกหนี้ในระบบเจอปัญหา ดบ.สูงเกินความเสี่ยงที่แท้จริง เพราะแบงก์ใช้ดอกเบี้ยเงินกู้เดียวกันหมดทุกกรณีที่เป็นสินเชื่อรายย่อย (MRR) ทำให้ลูกหนี้ชั้นดี ต้องเสียดอกเบี้ยเกินความเสี่ยงที่แท้จริงของตนเอง

พรรคก้าวไกลหักมุมเข้ามาโฟกัสข้าราชการ มองเผิน ๆ มีความมั่นคงในชีวิต แต่มีปัญหายินยอมให้เจ้าหนี้หักหนี้ โดยไม่เชื่อมโยงฐานข้อมูลหนี้เข้าด้วยกัน เกิดการโดนหักหนี้จนน้อยกว่าการดำรงชีพ ตัดดอกเบี้ย+ค่าธรรมเนียมก่อนเงินต้น วิธีการคือ จะผ่อนปรนภาระหนี้สินลูกหนี้บุคลากรรัฐ ที่จ่ายดี-จ่ายตรง เกิน 12 งวด ลดดอกเบี้ย 10% โดยรัฐบาลอุดหนุนงบฯชดเชย

รวมทั้งนโยบายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 450 บาท ทำทันที และขึ้นอัตโนมัติทุกปี

รถเมล์/รถไฟฟ้า 8-45 บาท

ในด้านอินฟราสตรักเจอร์ที่น่าสนใจ ก้าวไกลจะเติมเต็มโครงข่ายรถไฟเพิ่มอีก 30 จังหวัดที่ยังไม่มีเส้นทางรถไฟพาดผ่าน ยังไม่นับเรื่องการเช็กบิลทางการเมืองด้วยแนวนโยบายที่จะยกเลิกโครงการเดิมของกระทรวงคมนาคมหลายส่วนด้วยกัน

เรื่องใกล้ตัวประชาชนและนักท่องเที่ยว น่าจะเป็น “กระจายอำนาจให้บริการระบบแมสทรานซิต” ด้วยการถ่ายโอนอำนาจการอนุญาตเดินรถ กำหนดเส้นทาง ราคาค่าโดยสาร จากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง/จังหวัด ให้ อปท.ทำ

เติมด้วยการตั้งงบฯอุดหนุนเฉพาะกิจแบบพิเศษให้ อปท.ทั่วประเทศ ปีละ 1 หมื่นล้านบาท, ปลดล็อกอำนาจท้องถิ่นในการให้งบฯอุดหนุน ตั้งเงื่อนไขผู้ประกอบการขนส่ง เช่น อุดหนุนเงินบางส่วนนำไปซื้อรถใหม่ ซึ่งการเดินทางของคนต่างถิ่นในต่างจังหวัดถือเป็น pain point สำคัญ เพราะหารถยาก ที่สำคัญแพงมากอีกต่างหาก

“รถเมล์-รถไฟฟ้า 8-45 บาทตลอดสาย บัตรใบเดียว คลุมทั้ง กทม.” นโยบายยาว ๆ วิธีการจะพัฒนาค่าโดยสารร่วม เที่ยวละ 8-25 บาทตลอดสายในรถเมล์, เที่ยวละ 8-45 บาทตลอดสายในรถเมล์+รถไฟฟ้า โดยรัฐจ่ายชดเชยส่วนต่างให้ผู้บริการรถเมล์-รถไฟฟ้า ปีละ 7,170 ล้านบาท

บ้านผ่อน-บ้านเช่ามีเฮ

สำหรับมนุษย์เงินเดือน คาดว่ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อกับนโยบาย “บ้านตั้งตัว 3.5 แสนหลัง รัฐช่วยผ่อน-เช่า” ต้นทางมาจากปัญหาค่าครองชีพ+หนี้สิน โดยเฉพาะครัวเรือนมีรายได้น้อย พบว่า ภาระ 30-40% ของค่าใช้จ่ายรวมซึ่งปรับลดไม่ได้ เช่น ค่าเช่า ผ่อนบ้าน เดินทาง สื่อสาร/โทรคมนาคม ค่าน้ำ ค่าไฟ น้ำดื่ม

วิธีการ รัฐช่วยค่าผ่อนบ้านหลังแรก 2,500 บาท ยาว 30 ปี จำนวน 1 แสนราย เพดานราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท กับรัฐให้ค่าเช่าบ้าน-หอพัก 1,000 บาท เพดานค่าเช่าไม่เกิน 4,000 บาท อีกจำนวน 2.5 แสนราย