เศรษฐา ทวีสิน CEO เปลี่ยนโลก 2018 แสนสิริในมุมมองใหม่

คอลัมน์ ส่องอสังหา 2018

“โกลบอลแบรนด์” คำศักดิ์สิทธิ์ที่ดีเวลอปเปอร์อยากเป็นอยากมี วันนี้ค่ายแสนสิริทำสำเร็จเรียบร้อยแล้ว

หลายคนอาจเข้าใจว่า การเปิดห้องประชุม HENRI DUNANT HALL ราชกรีฑาสปอร์ตคลับ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อเปิดตัวความร่วมมือกับ 6 พันธมิตรแบรนด์ไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยีระดับโลก

ระหว่างแสนสิริกับ The Standard International, One Night, Monocle, JustCo, Hostmaker และ Farmshelf เป็นก้าวแรกของการยกระดับสู่ความเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์โกลบอลแบรนด์ของแสนสิริ

หากแต่ในข้อเท็จจริง บมจ.แสนสิริได้นำพาตัวเองก้าวสู่คอร์ปอเรตข้ามชาติมาก่อนหน้านี้แล้ว จากบทพิสูจน์โมเดลธุรกิจที่มีฐานลูกค้าช็อปซื้ออสังหาฯในเครือมีสัดส่วนถึง 25% ที่เป็นลูกค้าต่างชาติ

ในแง่รายได้ ลูกค้าต่างชาติปีนี้ซื้อโครงการแสนสิริใกล้เต็มเป้าหมาย 8,000 ล้านบาท ปีหน้าบริษัทตั้งเป้าขอเพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท

กล่าวสำหรับวงการพัฒนาที่ดินเมืองไทย แสนสิริก็เป็นเจ้าของสถิติพัฒนาห้องชุดแพงที่สุดในประเทศไทย ตารางเมตรละ 7.2 แสนบาท ในโครงการ 98 ไวร์เลส อสังหาฯซูเปอร์ลักเซอรี่บนทำเลถนนวิทยุ

ยอดขายเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน ล่าสุด ห้องตัวอย่างราคา 120 ล้านบาท ปิดการขายไปแล้ว เป็นคิวของห้องชุดดูเพล็กซ์ 250 ล้านบาท โจทย์แห่งความสำเร็จคืออะไร ใครซื้อ ?

ถ้าอยากรู้จริง ๆ คงต้องเล่าย้อนไปถึงเบื้องหลังการพัฒนาโครงการ ซึ่ง 98 ไวร์เลส ใช้เวลารื้อ-สร้าง นาน 7 ปีเต็ม ก่อนจะอวดโฉมให้คนได้รู้จักเมื่อต้นปี 2560 ที่ผ่านมา

โดยมี “เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน” กรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นผู้ควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน บินไปอิตาลีแทบทุกเดือนเพียงเพื่อเสาะหาและแมตชิ่งลายหินอ่อนชื่อดังก้องโลกสำหรับนำมาติดตั้งในห้องชุด

หินอ่อนดังกล่าวคือ “สตาจูริโอ-Statuario” ผลิตจากเหมืองในเมืองคาร์รารา เป็นเหมืองที่ศิลปินโลกไม่ว่าจะเป็น ลีโอนาร์โด ดาวินชี, ไมเคิล แองเจโล เวลาจะรังสรรค์ผลงานประติมากรรมแกะสลักหิน ต้องไปพักค้างคืนในโรงแรมเป็นแรมเดือน เพื่อรอเลือกหินจากเหมืองคาร์รารา

การซื้อก็ไม่ใช่ว่ากำเงินสดไปชี้นิ้วสั่งของกลับบ้านได้ ต้องรอเป็นลอต ๆ เพราะเขากะเทาะหินอ่อนทีละลอต เพราะฉะนั้น ผนังบางผนังใช้เวลาและความอดทนรอให้ลายหินอ่อนมาแมตชิ่งเป็นลายเดียวกันได้เหมาะเจาะ

นี่คือเบื้องหลังที่แสนสิริทำให้ห้องชุด ไม่ใช่สินค้าอสังหาฯแข็ง ๆ ทื่อ ๆ อีกต่อไป แต่โครงการอสังหาริมทรัพย์กลายเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์

ทุกโปรเซสของการพัฒนาโครงการ จึงต้องมี “สตอรี่” มาบอกต่อเสมอ

ทำไมต้องทำขนาดนั้น เพราะแสนสิริมีความเชื่อว่า เทรนด์ของโลกไม่เคยหยุดนิ่ง ลูกค้ามีกลุ่มเกิดใหม่ตลอดเวลา ถ้าเราเคยชินกับคนเจน X เจน Y เจน Henrys

วันนี้ลูกค้าเกิดใหม่อย่างกลุ่ม high income earners, no cash เป็นมนุษย์เงินเดือนในที่ทำงานโลกใหม่อย่างกูเกิล เฟซบุ๊ก อเมซอน พวกเขาต้องการอะไร แตกต่างคนละขั้วกับกลุ่ม old wealth อย่างไร

มาฟังแนวคิดเปิดโลกทัศน์แบบไม่กลัวความลับรั่วไหลได้ในช่วง “ผ่าทางตันอสังหาฯ สไตล์เศรษฐา” ในงานเสวนาหัวข้อ “ส่องอสังหาฯ 2018” ศุกร์ 24 พฤศจิกายน 2560

จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจร่วมกับพันธมิตรเมกะดีลเลอร์วัสดุก่อสร้างกลุ่มแกรนด์โฮม