สาวผู้รอดชีวิตบนรถปาเจโร่ จากเหตุการณ์ที่ถูกรถหรู เบนท์ลีย์พุ่งชน บนทางด่วน และมีรถดับเพลิงพุ่งชนซ้ำ พังยับทั้งสามคัน โพสต์ขอบคุณสื่อและพลังโซเชียลที่ช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริง
วันที่ 8 มกราคม 2566 เพจ ณิชชาวีร์ ชาติสุริยพัฒน์ ผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุน่าตกตะลึงบนท้องถนน โพสต์ข้อความ “…ขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่าน ทุกสำนัก ที่มาทำข่าวในวันนี้นะคะ พรุ่งนี้ก็ยังมีอีกหลายช่องที่ติดต่อไปออกรายการ แต่ร่างกาย ไม่ไหวจริงๆ ถ้าพรุ่งนี้ไหว จะโฟนอินนะคะ
ตั้งแต่เกิดเรื่อง ยังไม่ได้นอนเลยค่ะ ชุดวันนี้ ก็ยังใส่ชุดเดิมในวันที่เกิดเหตุอยู่เลย พูดตามตรง น้ำยังไม่ได้อาบ กินข้าวไปแค่สองมื้อ กินได้คำสองคำ เพลียไปหมดทั้งร่างกายและจิตใจ ขอพัก เพื่อเตรียมทำลิสต์รายการมูลค่าทรัพย์สิน ที่ทางเราจะต้องเรียกร้องให้ทางคู่กรณีชดใช้ ทั้งสิ่งของ สภาพร่างกาย และสภาพจิตใจ เพื่อนัดคุยกัน กับ รถของพี่กู้ภัย/รถของคู่กรณี ผ่านทางตำรวจ สน.ทางด่วน 1
หวังว่า จะได้นัดคุยเจรจากันอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ …ไว้จะอัพเดทนะคะ ยอมรับในสิ่งที่ทำ ก็จบง่าย จบไว หนูเหนื่อยแล้วค่ะ ฝันสลายไปหมดเลย ชีวิตเรามันสั้น เกินกว่าจะเสียเวลาชีวิตไปมากกว่านี้ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ เปิดเครื่อง 10 โมง ใด ๆ คือ ขอบคุณพลังโซเชียล“
โดยก่อนหน้านี้ เพจลงข้อความด้วยว่า “… อย่างน้อยก่อนตาย ก็ได้สานฝันออกทีวี ขอบคุณพี่ ๆ สื่อมวลชนทุกท่าน ที่เป็นกระบอกเสียง ให้เสียงเล็ก ๆ ได้บอกเล่าความจริง พี่นักข่าวถามว่า… ” รู้ไหม ว่าคู่กรณีเป็นใคร?” “รู้ค่ะ” “ไม่กลัวหรอ?” “กลัวทำไมคะ เมื่อคืนก็เท่ากับหนูได้ตายไปแล้ว ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นกับหนูอีก มันก็ค่าเท่ากันขอตายแบบมีศักดิ์ศรีหน่อยจะดีกว่า” …ขอบคุณทุกกำลังใจด้วยนะคะ”
สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าว พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ก้อนแพง รอง ผกก.(สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1กก.2 บก.จร. ได้รับแจ้งเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 8 ม.ค. มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คันบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขึ้นจากถนนสุขสวัสดิ์มาประมาณ 9-10 กม. มุ่งหน้าดินแดง จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์หรู ยี่ห้อเบนท์ลีย์ สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในช่องทางซ้ายสุด ใกล้กันพบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำป้ายแดง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพรถหงายท้องล้อชี้ฟ้า
ห่างออกไปพบรถดับเพลิง อปพร.บางรัก สภาพหน้ารถพังยับเยิน ทั้งนี้มีผู้บาดเจ็บหลายราย เป็นหญิง อายุ 29 ปี กับเด็กชายอายุ 4 ขวบที่นั่งมาในรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดับเพลิงชายอีก 2 คน จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
ทั้งนี้ มีคลิปวิดีโอกล้องหน้ารถของพลเมืองดี จับภาพขณะที่รถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ สีเทา ขับมาด้วยความเร็ว แซงซ้ายแล้วเบี่ยงขวาก่อนจะพุ่งเข้าชนท้าย รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำ ที่วิ่งอยู่เลนกลาง จนรถยนต์มิตซูบิชิเสียหลัก หมุนพุ่งชนขอบทางติดช่องทางขวาสุด ก่อนจะมีรถดับเพลิง อปพร.บางรัก ที่ขับอยู่ช่องทางขวา ขณะจะไปเหตุไฟไหม้ย่านอุดมสุข ชนซ้ำ จนรถยนต์มิตซูบิชิพลิกคว่ำ ล้อชี้ฟ้า เสียหายพังยับเยินทั้ง 3 คัน
ด้านนายอิทธิพล ประสงทรัพย์ อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยมัสยิดฮารูณ เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังจะไปช่วยเหลือผู้ติดค้างจากเหตุไฟไหม้ย่านอุดมสุข ระหว่างขับรถมาบนทางด่วนได้วิ่งขวายาวมาตลอดและได้มีการเปิดไซเรนให้สัญญาณขอทางมาตลอดทาง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงทางโค้งเป็นถนน 3 เลน ตนเองอยู่ในเลนขวาสุด
อยู่ๆ ก็มีรถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ สีเทา วิ่งมาในเลนซ้ายสุดด้วยความเร็วและไปชนเข้ากับท้ายรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำป้ายแดง ทำให้รถปาเจโรหมุนมาฟาดกับรถของตน ทำให้หน้ารถพังยับเยิน ส่วนตนกับเพื่อนบาดเจ็บ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาจึงได้พาตนกับเพื่อนส่งโรงพยาบาล จากการตรวจร่างกายพบว่า บาดเล็กน้อยทาง รพ.จึงอนุญาตให้กลับมาพักรักษาตัวต่อที่บ้าน
ส่วน นายศราวุธ รีรักษ์ ผู้ขับขี่รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร เล่าว่า ในรถที่นั่งกันมาทั้งหมด 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน เด็กอายุ 4 ขวบ 1 คน ออกจากบ้านพักย่านทุ่งครุ ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าลงดินแดง เพื่อจะกลับบ้านที่จังหวัดบึงกาฬ
ขณะอยู่บนทางด่วน รถขับในเลนกลางมาตามปกติ ใช้ความเร็วประมาณ 90 กม./ชม. จากนั้นรู้สึกโดนกระแทกแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก หลังรถพลิกคว่ำก็พยายามตั้งสติให้ได้และช่วยกันพาทุกคนออกมาจากรถให้ได้ก่อน และมาเห็นเหตุการณ์ทีหลัง จากกล้องหน้ารถที่มีคนส่งมาให้
นางสาวณิชชาวีร์ ชาติสุริยพัฒน์ แฟนสาวที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน กล่าวว่า เมื่อเห็นคลิปตัวเองยังคิดเลยว่าใช้แต้มบุญสูงมาก เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ รอดมาได้อย่างไร โชคดีที่ทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย
น.ส.ณิชชาวีร์ เล่าด้วยว่า ที่สถานีตำรวจ คู่กรณีไม่ยอมเป่าหรือตรวจแอลกอฮอล์ ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม กลุ่มพี่ๆ กู้ภัยพยายามให้เขาเป่า แต่เขาปฏิเสธที่จะไม่เป่า พยายามที่จะไปดื่มน้ำ เคี้ยวหมากฝรั่ง เขาคงหาทางแก้ปัญหาของเขา ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรถึงไม่ยอมเป่า ทางตำรวจแจ้งว่าเขาขอตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นคาดว่าผลตรวจจะออกอย่างเร็วใน 7 วัน
ส่วนประกันฝั่งเรายังไม่ตกลงกันว่าจะเคลมคันใหม่ให้หรือไม่ เพราะรถตนเพิ่งออกมาได้เพียง 21 วัน ตนไม่รู้ว่าเขาจะรับผิดชอบให้เราได้ 100 เปอร์เซ็นหรือไม่ ส่วนเราต้องการรถคันใหม่และการเยียวยาร่างกายและจิตใจ เพราะพ่อก็แขนหัก การเยียวยาจะต้องรอการพูดคุยกันของทุกฝ่าย
“ขอวิงวอนคนที่มีรถหรู คุณมีอำนาจเงินหนูทราบ คุณมีสิทธิ์ซื้อรถที่มีคุณภาพดี อัตราเร่งสูง ความเร็ว ความแรง อะไรก็ตามแต่อย่าให้ถนนของสาธารณะเป็นที่ประลอง หรือขับรถที่ความเร็วเกินจำเป็น ไม่ใช่เฉพาะคุณบนท้องถนน มันคือชีวิตของคนอื่น คุณก็มีครอบครัว เราก็มีครอบครัว
วันนั้นเรานั่งมากัน 6 คน ถ้าเราไม่อยู่วันนี้คนที่เหลืออยู่ก็เคว้ง พ่อแม่หนูรอเตรียมต้อนรับเราที่บึงกาฬ เราหดูหู่ใจ เซ็งและเคว้ง ไปไม่ถูก หวังว่าเขาจะรับผิดชอบเราอย่างเต็มที่” นางสาวณิชชาวีร์ กล่าว
ด้านผู้ขับขี่รถยนต์หรูเบ็นท์ลีย์ นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ กรรมการบริษัทไทยวัฒนา แอสเซ็ท จำกัด แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ยอมรับผิดและยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกประจำวันไว้และส่งตัวผู้ขับขี่ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์