ปรากฏการณ์ต่อต้าน CPTPP กลับมาอีกแล้วในโลกออนไลน์ หลังมีการอ้างว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีวาระลับเกี่ยวกับ CPTPP
วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) เผยแพร่ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กอ้างว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีวาระลับเกี่ยวกับ CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership) หรือ ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก ซึ่งผ่านความเห็นชอบแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถเซ็นหนังสือแสดงเจตจำนงได้เลย ไม่มีการแถลงเป็นทางการ
- บัตรเครดิตซิตี้ ย้ายไป UOB บัตรประเภทไหน เปลี่ยนแปลงอย่างไร
- คำแนะนำจาก ซีอีโอ “ฮั่วเซ่งเฮง” ยุคทอง (โคตร) แพง ต้องลงทุนอย่างไร ?
- Q1 “ITD” สะเทือน 4 แบงก์ใหญ่ ส่อตั้งสำรองเพิ่ม-กำไรหด
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ ยังไม่พบว่ามีวาระดังกล่าวผ่านการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ขณะนี้ในทวิตเตอร์มีผู้ใช้งานจำนวนมากทวีตข้อความพร้อมติด #NoCPTPP กว่า 1.32 ล้านครั้ง เมื่อช่วง 21.15 น.ที่ผ่านมา
ผู้ใช้ทวิตเตอร์เหล่านี้พยายามอธิบายให้โลกออนไลน์ทราบว่า CPTPP คืออะไร และพยายามชี้ให้เห็นถึงข้อเสียหากไทยเข้าร่วม นอกจากนี้ยังมีการรวบรวมรายชื่อให้ครบ 50,000 รายชื่อ อ้างว่าเรื่องนี้จะถูกเสนอเข้ารัฐสภา ส่วนจะผ่านหรือปัดตกขึ้นอยู่กับมติประชุม
โดยมีการเผยแพร่ QR Code สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมลงชื่อ ซึ่งเมื่อใช้สมาร์ทโฟนเข้าผ่าน QR Code แล้ว จะนำไปสู่การลงชื่อของกลุ่ม Greenpeace ซึ่ง ณ เวลา 21.47 น. มีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 70,965 รายชื่อ
อีกช่องทางหนึ่งที่ชาวทวิตเตอร์แห่เข้าไปลงชื่อคือเว็บไซต์ Change.org ซึ่งผู้สร้างแคมเปญระบุว่าเป็นแคมเปญรณรงค์ร้องเรียนรัฐบาลไทย ข้อความดังนี้
“ไม่ว่าคุณจะเป็นคนปลูก คนกิน หรือคนขาย เราควรมีสิทธิในการเข้าถึงเมล็ดพันธุ์และอาหารที่หลากหลาย ความมั่นคงและอธิปไตยทางอาหารของคนหลายล้าน ไม่ควรจะตกอยู่ในมือของไม่กี่บริษัท ภายใต้การเอื้อประโยชน์ของ UPOV 199” รัตนศิริ กิตติก้องนภางค์ (Greenpeace)
ทั้งนี้ เว็บไซต์ Change.ore รายงานข้อมูลว่า ในเวลา 36 นาที มีผู้ร่วมลงชื่อในแคมเปญนี้แล้ว 50,000 รายชื่อ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย ร่วมแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า CPTPP เป็นเรื่องใหญ่ กระทบกับคนไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะ #คนตัวเล็ก ทั้งเรื่องสิทธิบัตรยา สินค้าเกษตร และความมั่นคงทางอาหารของไทย ต่อไปยาจะแพงขึ้น เกษตรกรจะทำเมล็ดพันธุ์เองไม่ได้ ต้องซื้อจากนายทุนเท่านั้น ขอรบ.ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน #คนตัวเล็ก มากกว่านายทุนสักครั้งได้ไหม #NoCPTPP
CPTPP เป็นเรื่องใหญ่
กระทบกับคนไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะ #คนตัวเล็ก
ทั้งเรื่องสิทธิบัตรยา สินค้าเกษตร และความมั่นคงทางอาหารของไทยต่อไปยาจะแพงขึ้น
เกษตรกรจะทำเมล็ดพันธุ์เองไม่ได้ ต้องซื้อจากนายทุนเท่านั้นขอรบ.ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน #คนตัวเล็ก มากกว่านายทุนสักครั้งได้ไหม#NoCPTPP pic.twitter.com/o2My884dHd
— คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan (@sudaratofficial) May 5, 2021
ต่อมา นางสาวไตร
ล่าสุด วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีเพจ FTA Watch หรือ กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน ออกมาโพสต์ว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีสามารถเซ็นหนังสือแสดงเจตจำนง (letter of intent) เข้าร่วมเจรจาข้อตกลง CPTPP จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียลฯ ว่า ที่ประชุมครม. วานนี้ (5 พ.ค.) ไม่ได้มีการเห็นชอบให้ไทยไปขอเจรจาเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP แต่อย่างใด
มีเพียงการอนุมัติให้ขยายระยะเวลาเพิ่มเติมอีก 50 วัน เพื่อให้คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) หารือกับภาคส่วนต่าง ๆ ให้ครอบคลุม ครบถ้วน และรอบคอบมากที่สุด ในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ กนศ. จัดทำกรอบการทำงานเพื่อติดตามแผนการดำเนินการเพื่อปรับตัวของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตามข้อสังเกตของ กรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรเรื่อง CPTPP
- ทำความรู้จัก CPTPP วิเคราะห์ “โอกาส” และ “ความท้าทาย”
- ไทยไม่พร้อมร่วม CPTPP ชี้ “เสียเปรียบ-ไม่ตอบโจทย์”
- เปิดผลศึกษา กมธ.ฉบับเต็ม CPTPP เข้าสภาวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่อง CPTPP ด้านการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งที่ประชุมรับทราบข้อเสนอที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ CPTPP ของสภาผู้แทนราษฎร ขอให้รัฐบาลเร่งจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแผนการดำเนินการของส่วนราชการเพื่อจัดตั้งกองทุนเอฟทีเอดังกล่าว
สำหรับคณะอนุกรรมการฯ ชุดนี้ เป็น 1 ใน 8 คณะ ได้แก่
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง CPTPP ด้านเกษตรและพันธุ์พืช มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง CPTPP ด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง CPTPP ด้าน การค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง CPTPP ด้าน การระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐกับรัฐ และเอกชนกับรัฐ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง CPTPP ด้าน พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง CPTPP ด้าน การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐและรัฐวิสาหกิจ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง CPTPP ด้าน แรงงาน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน
- คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง CPTPP ด้าน การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
ทั้ง 8 คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนฯ จะเร่งจัดทำกรอบการทำงานเพื่อติดตามการจัดทำแผนงาน การดำเนินการเพื่อปรับตัวของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ รวบรวมข้อมูลและจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความพร้อมหรือความไม่พร้อมและเงื่อนไขในการขอเจรจาเข้าร่วมความตกลง CPTPP ของไทยเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไปภายในกลางเดือนเมษายน 2564