ลุ้น “เชียงใหม่” ชิงกับอีก 5 เมือง จาก 5 ประเทศ เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ประจำปี 2568 (UCCN ANNUAL CONFERENCE 2025) คาดกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 125.86 ล้านบาท
วันที่ 29 สิงหาคม 2566 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ประเทศไทยยื่นประมูลสิทธิเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ครั้งที่ 17 ในปี พ.ศ. 2568 (UCCN Annual Conference 2025) ณ จังหวัดเชียงใหม่ ต่อองค์การยูเนสโก และได้มีการจัดงานแถลงข่าวการยื่นประมูลสิทธิดังกล่าวภายใต้แนวคิด “Enhancing Multicultural Transformation” เชื่อมอดีตสู่ปัจจุบัน สร้างนวัตกรรมเพื่อการต่อยอดไปนั้น
ขณะนี้ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้รับแจ้งจาก สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก้) ว่า เมืองที่จะได้รับการเสนอเป็นเจ้าภาพพร้อมกับของไทยมีทั้งหมด 6 เมือง ได้แก่ เมืองเคดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย, เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี, เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์, เกเรตาโร ประเทศเม็กซิโก, อิสฟาฮาน ประเทศอิหร่าน และเชียงใหม่ ประเทศไทย
ซึ่งจะมีการคัดเลือกกันในที่ประชุมประจำปีของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ครั้งที่ 15 ใน พ.ศ. 2566 โดยองค์การยูเนสโกจะจัดการประชุมขึ้นในรูปแบบออนไลน์ ในช่วงปลายปี 2566 นี้
นายอิทธิพลกล่าวอีกว่า สำหรับการเตรียมการดังกล่าว มีกระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก
ซึ่งทุกหน่วยงาน-องค์กรพร้อมผลักดันเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองสร้างสรรค์ของประเทศไทย สาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts and Folk Art) อีกทั้งเป็น “นครที่เป็นที่สุดแห่งความสง่างามทางวัฒนธรรม” พร้อมด้วยศักยภาพ มีความคาดหวังที่จะเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมเชื่อมโยงและแบ่งปันแรงบันดาลใจ (Sharing) เช่น การเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการประชุมเรียนรู้และแบ่งปันประสบการณ์ สร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระ และการสร้างเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนความสร้างสรรค์ที่ไม่มีสิ้นสุด นำไปสู่การสร้างความสุขด้วยแนวคิดเมืองมีชีวิต เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ นอกเหนือการขับเคลื่อนการเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโกของประเทศไทย และการประชาสัมพันธ์ศักยภาพของประเทศไทยสู่เวทีโลก ยังมีการคาดการณ์ว่า หากเชียงใหม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมระดับนานาชาติครั้งนี้ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้กว่า 125.86 ล้านบาท และเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้าถึงการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อันเกิดจากการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก
รวมถึงยังสอดคล้องกับพันธกิจของกระทรวงวัฒนธรรมที่ต้องการเผยแพร่งานด้านศิลปวัฒนธรรมของไทย พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์กับต่างประเทศผ่านมิติทางวัฒนธรรมอีกด้วย