
เปิดสถิติ-เช็กความพร้อมก่อนเกมนัดชิงยูฟ่า เเชมเปียนส์ ลีก คู่ระหว่าง เรือใบสีฟ้า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ปะทะ ทัพงูใหญ่ “อินเตอร์ มิลาน” เวลา 02.00 น. คืนนี้
วันที่ 10 มิถุนายน 2566 ศึกยูฟ่า แชมเปียส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง เรือใบสีฟ้า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ พบ ทัพงูใหญ่ “อินเตอร์ มิลาน” จากเซเรีย อา อิตาลี มีคิวลงฟาดแข้งกันคืนนี้ 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามอตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงอิสตันบูล ตุรกี
- หวั่น EV ไทย…ซ้ำรอยจีน
- “ทรู-ดีแทค” ถล่มโปร “คืนค่าเครื่อง” ย้ำรวมกันได้มากกว่า
- เปิด “ผังน้ำ” ประกบผังเมือง เขย่าราคาที่ดินทั่วประเทศ
เกมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า เเชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2022-23 นับเป็นนัดชิงครั้งที่ 68 และยิ่งได้ แมนฯ ซิตี้ กับ อินเตอร์ ซึ่งไม่เคยพบกันแม้เเต่ครั้งเดียวในรายการนี้มาเป็นคู่ชิง ย่อมทำให้มีสถิติใหม่เกิดขึ้นมามากมาย

ทัพเรือใบสีฟ้าของ “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” ดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ และ แชมป์ เอฟเอ คัพ มีแชมป์ยูฟ่าครั้งเเรกของสโมสรและทริปเปิลเเชมป์เป็นเดิมพัน หากทำได้พวกเขาทาบบารมีเพื่อนร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ไว้ในปี 1999
นอกจากนี้หาทำได้ ซิตี้ จะเป็นทีมที่ 4 จากอังกฤษที่คว้าแชมป์และทำให้อังกฤษเป็นประเทศที่มีผู้ชนะแชมเปียนส์ลีกมากที่สุด

สำหรับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยคว้าแชมป์รายการนี้ในการคุม บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2009 และ 2011
ด้าน อินเตอร์ มิลาน แชมป์โคปปา อิตาเลีย และจบอันดับ 3 ในเซเรีย อา ประวัติศาสตร์ในรายการนี้ยิ่งใหญ่กว่าแมนฯ ซิตี้ อย่างไม่ต้องสงสัย โดยเข้าชิงรายการนี้เป็นครั้งที่ 6 นับรวมสมัยเป็น ยูโรเปี้ยน คัพ และคว้าแชมป์ไป 3 สมัย ในปี 1964, 1965 และ 2010
สถิติที่น่าสนใจของ “ซิโมเน อินซากี” ผู้จัดการทีมอินเตอร์ มิลาน คือการคุมทีมลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศ 7 ครั้ง และเป็นแชมป์ทั้ง 7 ครั้ง สำหรับฟุตบอลถ้วยในประเทศ
ส่วนทัพเรือใบสีฟ้าเคยชิงชนะเลิศถ้วยใหญ่ของยุโรปเพียง 2 ครั้งในประวัติศาสตร์ และยังไม่เคยได้เเชมป์ โดยแพ้ในเกมที่พบกับเชลซีเมื่อปี 2021 ด้วยสกอร์ 1-0 ประตู
แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ทุกปากกาเซียนต่างยกให้เเมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าในทุกเหลี่ยมมุม โดยเกมนี้จะเป็นการพบกันของทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำประตูและทีมที่เสียประตูยาก
แมนฯ ซิตี้ ยิงได้อย่างน้อย 1 ประตู จาก 7 เกมล่าสุดในรายการนี้ ส่วนอินเตอร์ เก็บได้ 5 คลีนชีตจาก 6 เกมในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้

ความพร้อมของแมนฯ ซิตี้
ตอนนี้เรียกว่าพร้อมทุกตำแหน่งและรออย่างใจจดใจจ่อที่จะลงฟาดแข้งนัดชิงเลยก็ว่าได้ คาดว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับทัพจากเกมเอฟเอคัพที่เอาชนะ ยูไนเต็ด เพียงตำแหน่งเดียวก็คือผู้รักษาประตู
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
เอแดร์ซอน (GK), มานูเอล อาคานจี, รูเบน ดิอาส, ไคล์ วอล์กเกอร์, จอห์น สโตนส์โรดรี้, แบร์นาโด ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, แจ็ค กรีลิช, เออร์ลิง ฮาแลนด์
ผลงาน 5 นัดหลังสุดทุกรายการ
03/06/23 : ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 คว้าเเชมป์ เอฟเอ คัพ
28/05/23 : แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-1 พรีเมียร์ลีก
24/05/23 : เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 พรีเมียร์ลีก
21/05/23 : ชนะ เชลซี 1-0 พรีเมียร์ลีก
17/05/23 : ชนะ เรอัล มาดริด 4-0 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ความพร้อมของอินเตอร์ มิลาน
ความพร้อมของอินเตอร์ มิลาน ก็เรียกได้ว่าเต็มกำลังเช่นเดียวกัน นำทัพมาโดย โรเมลู ลูกากู จับคู่ เลาตาโร มาร์ติเนซ เป็นกองหน้าล่าตาข่าย มีเพียง ฆัวกิน กอร์เรอา เท่านั้นที่ได้รับอาการบาดเจ็บ
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
อังเดร โอนาน่า (GK), มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, สเตฟาน เดอ ฟราย, อเลสซานโดร บาสโตนี่ เดนเซล ดุมฟรีส์, นิโกโล บาร์เรร่า, มาร์เซโล่ โบรโซวิชฮาคาน ชัลฮาโนกลู, โรบิน โกเซ่นส์, โรเมลู ลูกากู, เลาตาโร มาร์ติเนซ
ผลงาน 5 นัดหลังสุดทุกรายการ
04/06/23 : ชนะ โตริโน่ 1-0 เซเรีย อา
27/05/23 : ชนะ อตาลันต้า 3-2 เซเรีย อา
24/05/23 : ชนะ ฟิออเรนติน่า 2-1 โคปปา อิตาเลีย
21/05/23 : แพ้ นาโปลี 1-3 เซเรีย อา
16/05/23 : ชนะ เอซี มิลาน 1-0 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
