ธุรกิจท่องเที่ยว

จีนคิกออฟ “กรุ๊ปทัวร์” สัญญาณบวกเศรษฐกิจไทย

นทท.จีน

6 กุมภาฯ 66 จีนเปิดประเทศให้ “กรุ๊ปทัวร์” ออกไปท่องเที่ยวได้ใน 20 ประเทศตามประกาศ โดยประเทศไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศที่ได้อานิสงส์ในลอตนี้

วันแรกของการเปิดให้กรุ๊ปทัวร์จีนออกนอกประเทศนั้น มีเที่ยวบินเข้าประเทศไทยทั้งหมดรวม 13 เที่ยวบิน เดินทางจากกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซียะเหมิน นานกิง และหนานหนิง ผ่านท่าอากาศยานหลัก 3 แห่งคือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ต

ไฟลต์แรกที่เดินทางถึงไทย (6 ก.พ. 66) คือ เที่ยวบินตรงเส้นทางกว่างโจว-ดอนเมือง โดยสายการบินสปริงแอร์ไลน์ เที่ยวบิน 9C7419 ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ ประกอบด้วย นักท่องเที่ยวชาวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์ 2 คณะ จำนวน 40 คน และนักท่องเที่ยวชาวจีนผู้ที่เดินทางด้วยตัวเอง (FIT) อีก 90 คน

โดย Mr.Yang Xin อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และผู้บริหาร ททท. ร่วมต้อนรับและมอบของที่ระลึกและพวงมาลัยดอกไม้ เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่เดินทางถึงด้วยมิตรไมตรีอย่างอบอุ่น

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนเป็นสัญญาณบวกและมีนัยสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม และเป็นความท้าทายอย่างมากของ ททท. ในปีนี้

นทท.จีน

ทั้งนี้ จากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2566 พบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งสิ้น 99,429 คน ขณะที่ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2566 มีจำนวนเที่ยวบินและที่นั่ง (seat capacity) จากท่าอากาศยานในเมืองต่าง ๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีนมายังประเทศไทย อาทิ เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว หางโจว หนานจิง เฉิงตู เซียะเหมิน คุนหมิง เป็นต้น รวมทั้งสิ้น 2,000 เที่ยวบิน จำนวน 445,655 ที่นั่ง

ดังนั้น ททท.คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยในไตรมาสแรก (เดือนมกราคม-มีนาคม 2566) ที่จำนวนประมาณ 3 แสนคน

โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงแรก ประกอบด้วย นักธุรกิจ นักเรียน และกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ที่นิยมเดินทางด้วยตนเอง (FIT) เป็นหลัก ซึ่งมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เรียกว่าสะท้อนสัญญาณที่ดีที่จะมีการเดินทางมาประเทศไทยต่อเนื่องตลอดปี และช่วยผลักดันให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ถึง 5 ล้านคน ตามเป้าหมายในปี 2566