ไทยแอร์เอเชีย หวังปี 2567 ขนผู้โดยสาร 21 ล้านคน ฟื้นเกือบเท่าก่อนโควิด

เครื่องบินแบบแอร์บัส A321neo สายการบินไทยแอร์เอเชีย
เครื่องบินแอร์บัส A321neo สายการบินไทยแอร์เอเชีย ทะเบียน HS-EAA ภาพ : ไทยแอร์เอเชีย

ไทยแอร์เอเชีย คาดปี 2567 ขนส่งผู้โดยสาร 20-21 ล้านคน ฟื้นเกือบเท่าก่อนโควิด ปีนี้มีแผนรับเครื่องบินใหม่เพิ่ม 6 ลำ เช่นเคย! เส้นทางญี่ปุ่นยังฮ็อต โหลดแฟคเตอร์ 90% เตรียมเปิดบิน “โอกินาว่า” เมษายนนี้ ส่วนรูตจีนค่อย ๆ ฟื้น วีซ่าฟรีช่วยบูสต์คนไทยเดินทาง แต่เส้นทางอื่นอาจโดนแย่งแชร์

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา สายการบินขนส่งผู้โดยสารทั้งสิ้น 18.87 ล้านคน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 90% และในห้วงเวลาที่ผ่านมา เส้นทางบินต่างประเทศที่ได้รับความนิยมได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า ขณะที่เส้นทางในประเทศที่ได้รับความนิยม คือ เชียงใหม่และภูเก็ต

สำหรับผลการดำเนินงานเส้นทางบินไทย-จีนของสายการบิน พบว่ามีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยผู้โดยสารยังเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง (F.I.T.)

โดยข้อมูลจากไทยแอร์เอเชีย พบว่า ในปี 2566 สายการบินมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเส้นทางประเทศจีนเฉลี่ย 83% ขณะที่ในเดือนมกราคมที่ผ่านมามีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 90% และคาดการณ์จากยอดจองล่วงหน้าในเดือนกุมภาพันธ์ จะมีมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 90% เช่นกัน

สันติสุข คล่องใช้ยา
สันติสุข คล่องใช้ยา

เช่นเดียวกับเส้นทางบินประเทศญี่ปุ่นที่ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทย ข้อมูลจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) พบว่าในปี 2566 นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นประมาณ 995,000 คน

ปัจจุบันไทยแอร์เอเชีย ให้บริการเส้นทางสู่ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 1 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ฟุกุโอกะ ความถี่ 1 เที่ยวบินต่อวัน พบว่ามีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย (Average Load Factor) ประมาณ 90%

โดยในเดือนตุลาคม 2566 มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารสูงสุดที่ 94% และเส้นทางดังกล่าวมีสัดส่วนผู้โดยสารเป็นชาวไทยจำนวน 58% ชาวญี่ปุ่น 32% และชาติอื่น ๆ 10%

“สำหรับเส้นทางจีนนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ยังมีจำนวนน้อยอยู่ ส่วนหนึ่งคาดว่าเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศจีนเอง ส่วนตลาดการท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั้น มองว่า ญี่ปุ่นยังประสบปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย และอัตราการบริโภคอาจอยู่ในช่วงชะลอตัว”

รุกตลาดญี่ปุ่น เตรียมเปิดบินโอกินาว่า

นายสันติสุข กล่าวว่า ล่าสุดสายการบินเตรียมเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพฯ​ (ดอนเมือง) – โอกินาว่า ในวันที่ 2 เมษายนนี้ ให้บริการด้วยความถี่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เดินทางในวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์และอาทิตย์

โดยในช่วงแรกของการให้บริการ สายการบินอาจใช้เครื่องบินแอร์บัส A320 ให้บริการไปก่อน จากนั้นเมื่อดีมานด์สูงขึ้น สายการบินอาจเพิ่มความถี่เป็นบินทุกวัน และใช้เครื่องบิน A321neo ให้บริการ

“สายการบินตั้งเป้าอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 80-85% และคาดว่าสัดส่วนผู้โดยสารจะเป็นชาวไทย 90% และชาวญี่ปุ่น 10% นอกจากนี้ โอกินาว่ายังมีฐานทัพสหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ ทำให้ประเทศไทยอาจได้โอกาสในการดึงดูดผู้โดยสารชาวอเมริกันอีกด้วย”

เปิดตัวเส้นทางดอนเมือง-โอกินาว่า ด้วยราคาโปรโมชั่น บินเริ่มต้น 3,490 บาท
ที่มา : สายการบินไทยแอร์เอเชีย

นอกจากนี้ สายการบินอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเส้นทางบินสู่ฮิโรชิม่า และเมื่อสายการบินมีเครื่องบินที่พิสัยการบินไกลขึ้นอย่างแอร์บัส A321LR อาจทำการศึกษาการบินสู่นาโกย่า รวมถึงอาจพิจารณาเพิ่มความถี่เส้นทางดอนเมือง – ฟุกุโอกะในบางฤดูกาลอีกด้วย

เล็งเปิดบินมองโกเลีย, เนปาล

นายสันติสุข กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้สายการบินเตรียมพิจารณาขยายเส้นทางบินสู่ 2 เส้นทาง คือ กรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย และกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล อีกทั้ง สายการบินอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องการสิทธิการบิน ในรูปแบบเสรีภาพที่ 5 (Fifth Freedom)

สำหรับเสรีภาพที่ 5 หมายถึง เมื่อประเทศ A มีข้อตกลงเสรีภาพที่ 5 กับประเทศ B ทำให้สายการบินจากประเทศ A สามารถรับผู้โดยสารจากประเทศ A ไปประเทศ B และรับผู้โดยสารจากประเทศ B ไปประเทศ C ได้

ด้านแผนการการรับเครื่องบินใหม่ในปี 2567 สายการบินมีแผนรับเครื่องบินเข้าประจำการเพิ่มเติมจำนวน 6 ลำ โดยรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A320 ไปแล้วจำนวน 2 ลำ, เตรียมรับมอบเครื่องบิน A320 อีก 1 ลำ และในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เครื่องบินแอร์บัส A321neo จำนวน 3 ลำ

ลุ้นวีซ่าฟรีไทย-จีน เพิ่มสัดส่วนคนไทยบินจีน

นายสันติสุข กล่าวว่า สำหรับเทศกาลตรุษจีน 2567 นี้ พบว่าอัตราการจองบัตรโดยสารจนเต็มในหลายเที่ยวบินเส้นทางฮ่องกง, ไทเป,​ เกาสง อย่างไรก็ดี หลังเทศกาลตรุษจีนในเดือนมีนาคม อัตราการจองบัตรโดยสารอาจลดลงบ้าง และกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์

ส่วนประเด็นการเปิดยกเว้นการตรวจลงตราในหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยว (วีซ่าฟรี) ระหว่างไทย-จีนนั้น บริษัทคาดว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนผู้โดยสารชาวไทยมากขึ้นเป็นชาวจีน 70% ต่อชาวไทย 30% จากเดิมที่มีชาวไทยเพียง 10% เท่านั้น

โดยเมืองที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากชาวไทย คือ เซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง เนื่องจากตอบโจทย์ตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง (F.I.T.) ตามด้วยกว่างโจว, เสินเจิ้น

อย่างไรก็ดี การเปิดวีซ่าระหว่างไทย-จีนอาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานเส้นทางต่างประเทศอื่น ๆ โดยอาจทำให้นักท่องเที่ยวเส้นทางสิงคโปร์, ฮ่องกง เลือกเดินทางไปประเทศจีนแทน ขณะที่สายการบินจำเป็นต้องรักษาสล็อตการบินเส้นทางดังกล่าวไว้ ดังนั้น สายการบินต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาดีมานด์ในตลาดดังกล่าว ส่วนเส้นทางประเทศญี่ปุ่นนั้น ประเมินว่าไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากมีดีมานด์สูง

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยแอร์เอเชีย ทำการบินเส้นทางประเทศจีนที่ 77 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ขณะที่ทำการบินสู่ประเทศสิงคโปร์จากดอนเมือง, หาดใหญ่และภูเก็ต รวม 45 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และฮ่องกง จากดอนเมือง, เชียงใหม่และภูเก็ต รวม 42 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ไทยแอร์เอเชีย ฟื้นเกือบเท่าก่อนโควิด

นายสันติสุข กล่าวว่า คาดว่าในปีนี้สายการบินยังไม่ฟื้นตัว 100% เพราะแม้ตลาดการบินในประเทศจะฟื้นตัวเต็มที่ แต่ตลาดการบินจีนยังไม่ฟื้นตัวสู่จุดเดิม

สอดคล้องกับเป้าหมายจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยที่ 8 ล้านคน จากเดิมในปี 2562 อยู่มีนักท่องเที่ยวเกือบ 11 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าเป้าหมายดังกล่าวค่อนข้างมีความท้าทายเช่นกัน

ในปีนี้สายการบินตั้งเป้าจะสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ที่ 20-21 ล้านคน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 88% หรือคิดเป็นอัตราฟื้นตัวประมาณ 80-90% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ขนส่งผู้โดยสารประมาณ 22.15 ล้านคน

“หากในปีนี้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประเทศไทย 40 ล้านคน (เทียบเท่ากับปี 2562) ไทยแอร์เอเชียก็น่าจะกลับไปขนส่งผู้โดยสารเท่ากับปี 2562 เช่นกัน”