อาคม ไม่ทิ้งกัน! เปิดช่องอุ้มสายการบิน-แอร์เอเชียหยุดจ้าง 4 เดือน

“อาคม” เผย 2 แนวทางช่วย “สายการบิน” ด้วย “แบงก์การันตี” และ “ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน” หลังสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย” ขอความร่วมมือพนักงานหยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง 4 เดือน 

วันที่ 21 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย” ของ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินมาตรการปรับลดค่าใช้จ่าย โดยขอความร่วมมือให้พนักงาน เข้าร่วมโครงการหยุดงานโดยไม่รับค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 4 เดือน คือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม 2564 เพื่อให้องค์กรเดินต่อไปได้ในช่วงวิกฤตโควิด โดยไม่ต้องมีการปลดพนักงาน

ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ประชาชาติธุรกิจ” ในหลากหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือเรื่องการช่วยเหลือธุรกิจโรงแรมและสายการบิน ซึ่งนายอาคม ระบุว่า ขณะนี้ภาครัฐอยู่ระหว่างผลักดันแก้กฎหมายซอฟต์โลน เพื่อผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมได้

“อย่าลืมว่าพวกเอสเอ็มอี และธุรกิจขนาดใหญ่ ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาก็ช่วยตัวเองมามากแล้ว หากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไปอีกก็จะมีผลกระทบ จึงหารือกับ ธปท.ว่า แค่การขยายเวลาพักชำระหนี้ไปถึงเดือนมิถุนายน 2564 คงไม่พอ ต้องผ่อนคลายกฎเกณฑ์ เพื่อให้สามารถปล่อยเงินออกไปสู่ธุรกิจได้”

นายอาคมกล่าวอีกว่า การช่วยเหลือเรื่องซอฟต์โลนจะครอบคลุมไปถึงกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และสายการบินด้วย สำหรับสายการบินต้องบอกว่าคงไม่สามารถให้เงินกู้ เพื่อไปลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ แต่จะพิจารณาที่มีความจำเป็นจริง ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายเงินเดือนพนักงาน เพื่อรักษาการจ้างงาน และค่าใช้จ่ายประจำวันที่จำเป็นต้องใช้ในการบิน โดยจะให้ทางธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ช่วยดูให้ ก็น่าจะมีทางทำได้

“กรณีสายการบินอาจจะไม่ใช่ซอฟต์โลน อาจจะออกเป็นแบงก์การันตี เพราะพวกนี้มีหลักประกันที่วางอยู่กับแบงก์ ในเรื่องการเช่าเครื่องบิน หรือซื้อเครื่องบิน ก็ใช้เป็นแบงก์การันตี ให้สามารถนำเงินออกมาใช้ในการจ่ายเงินเดือนพนักงาน หรืออาจออกเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) เพื่อค่าใช้จ่ายประจำวัน แต่ก็ต้องไปดูต้นทุนว่าเท่าไหร่”

ส่วนกรณีที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวขอให้รัฐร่วมจ่ายเงินเดือนพนักงาน (copay) เพื่อประคองการจ้างงานนั้น นายอาคมกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องไปดูว่าทางสำนักงานประกันสังคมจะช่วยได้หรือไม่ ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯต้องไปคุยกับกระทรวงแรงงาน