เอ-วันกรุ๊ปชี้ท่องเที่ยวฟื้นตัว รุกปรับกลยุทธ์เจาะ “เอเชีย”

กลุ่มโรงแรมเอ-วันชี้แนวโน้มการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว คนไทยปรับตัวรับชีวิตวิถีใหม่ ควักงบฯ 250 ล้านบาทรีโนเวต “เอ-วัน พัทยา” เปิดโซน “kids club” เจาะกลุ่มครอบครัว พร้อมปรับกลยุทธ์ดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวโซนเอเชียทดแทนตลาดยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตั้งเป้าปีนี้โต 20%

นายสมชัย รัตนโอภาส ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรมแรมเอ-วัน เจ้าของและผู้บริหารโรงแรมเอ-วัน กรุงเทพ และเอ-วัน พัทยา (ชลบุรี)เปิดเผยว่า หลังจากธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้กลุ่มโรงแรมเอ-วันได้เตรียมแผนตั้งรับและปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขวิกฤต โดยร่วมกับโรงพยาบาลวิชัยเวชแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของโรงแรมเอ-วัน กรุงเทพ เปิดบริการ hospitel และ alternative state quarantine (ASQ) ควบคู่ไปกับการเปิดให้บริการตามปกติในอีกอาคาร

โดยวางเป้าหมายดึง 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มนักท่องเที่ยว medical tourism หรือ wellness tourism ที่เข้าพักแบบระยะยาว กลุ่มนักท่องเที่ยวปกติที่เข้าพักแบบระยะสั้น และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องทดแทนลูกค้าในกลุ่มของนักท่องเที่ยวที่ลดลงจากโควิด-19 ส่งผลให้ภาพรวมมียอดจองเข้าพักอยู่ที่ 90%

นายสมชัยกล่าวด้วยว่า สำหรับโรงแรมเอ-วัน พัทยานั้นปีที่ผ่านมาแม้ภาพรวมการท่องเที่ยวเมืองพัทยายังคงซบเซาจากปัจจัยนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง แต่ด้วยฐานกลุ่มลูกค้าที่เน้นทำการตลาดทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศจึงได้รับผลกระทบไม่มาก

และด้วยความหลากหลายของโรงแรมเอ-วัน พัทยา ที่มีตั้งแต่ระดับ 3-5 ดาว ได้แก่ A-One Star Hotel โรงแรม 3 ดาว จับกลุ่มวัยรุ่น, A-One The Royal Cruise Hotel โรงแรม 4 ดาว จับกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่, A-One Pattaya Beach Resort จับกลุ่มครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ, A-One New Wing Hotel โรงแรม 4 ดาว และ Mytt Beach Hotel โรงแรม 5 ดาว จับกลุ่มวัยทำงาน ทำให้โรงแรมในกลุ่มเอ-วัน พัทยา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่ม

ทั้งนี้ บริษัทได้ลงทุนเพิ่มอีก 250 ล้านบาทสำหรับรีโนเวตโรงแรม “เอ-วัน พัทยา” และเตรียมเปิดโซนใหม่ kids club ในเดือนมิถุนายน 2565 นี้ เจาะกลุ่มตลาดครอบครัวโดยเฉพาะ เนื่องจากเห็นโอกาสการเติบโตของกลุ่มนี้โดยบริการต่าง ๆ ของเอ-วัน อาทิ ห้องฟิตเนส ห้องอาหารหลากหลายสไตล์ สปา ซึ่งเป็นจุดแข็งที่จะทำให้ลูกค้าสามารถใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างครบวงจร

ด้านนายศุภชัย รัตนโอภาส ผู้ช่วยประธานบริหารกลุ่มบริษัท เอ-วัน และกรรมการผู้จัดการโรงแรมมิตร์ บีช พัทยา (Mytt Beach Hotel) กล่าวเสริมว่า ในส่วนของโรงแรมมิตร์ บีช พัทยา ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาวของเครือเอ-วัน เน้นเจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์แอนด์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบดนตรีนั้น ขณะนี้ได้ปรับไดเร็กชั่นเป็นสถานที่พักผ่อนครบวงจร พัฒนาเมนูอาหารให้มีความหลากหลาย และมีบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทั้งในมิติการดื่ม กิน เที่ยว และสุขภาพ

อาทิ “Pippa” ร้านอาหารกึ่ง rooftop bar ชั้น 19 จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตกแต่งในธีม forest สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันร่มเย็นของป่าไม้ และในบริเวณด้านนอกจะเห็นวิวพาโนราม่าของทะเลพัทยา ชมพระอาทิตย์ตกดิน รวมถึงยังแบ่งโซนทั้ง indoor-outdoor และมีโซนพื้นที่ส่วนตัวไว้สำหรับจัด private party

การปรับร้านอาหารไทย “วันทนา” จากเสิร์ฟอาหารซีฟู้ดเป็นร้านอาหารไทยสูตรต้นตำรับ เน้นวัตถุดิบท้องถิ่น จับกลุ่มครอบครัวและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม และ “Fat Coco” จากเดิมที่เป็นคาเฟ่และอาหารอิตาเลียน เน้นพิซซ่าและเครื่องดื่ม ก็เปลี่ยนเมนูเป็นซีฟู้ด และซีฟู้ด-หมูกระทะพรีเมี่ยม มีโซน beach club ภายในร้านให้นั่งพักผ่อนเพื่อจับกลุ่มวัยรุ่นทั้งในเมืองพัทยาและนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ


นอกจากนี้ ยังเดินหน้าโฟกัสธุรกิจไมซ์ (MICE) ให้บริการจัดงานประชุมสัมมนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริการห้องจัดเลี้ยงที่จุได้ถึง 1,000 คน พร้อมทั้งพัฒนาให้ดีขึ้นเพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่นได้ ทั้งนี้ เนื่องจากเมืองพัทยา (ชลบุรี) เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ อีกทั้งตลาดการจัดเลี้ยงจัดประชุมเริ่มทยอยฟื้นตัวกลับมาแล้ว