
พ่อมาก็ฟาดเปรี้ยง ทวิตเตอร์ ยุคอีลอน มัสก์ เป็นเจ้าของ แจ้งให้พนักงานดูอีเมล์ด้วยว่า ได้รับแจ้งโดนปลดออกจากงานแล้วหรือไม่
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า ทวิตเตอร์ โซเชียลมีเดียรายยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา แจ้งว่าจะเริ่มเลย์ออฟ หรือปลดพนักงานตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป เป็นการขยับฉับไวของ อีลอน มัสก์ เจ้าของใหม่ ที่เข้าครอบครองกิจการและมุ่งหน้าสู่การทำเงิน
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานเนื้อความอีเมล์ของบริษัททวิตเตอร์ที่ส่งถึงพนักงานว่า พนักงานทวิตเตอร์จะได้รับอีเมล์ช่วงเริ่มเวลางานของวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. ตามเวลารัฐแคลิฟอร์เนีย ว่าตนเองจะมีชะตาอย่างไร
“ด้วยความพยายามให้ทวิตเตอร์เดินหน้าสู่เส้นทางที่แข็งแรง เราจะเดินสู่กระบวนการยากในการลดพนักงานทั่วโลก” อีเมล์ระบุ

การปลดพนักงานครั้งนี้ ทวิตเตอร์ไม่ได้แจ้งว่ามีจำนวนกี่คน แต่วอชิงตันโพสต์ และนิวยอร์กไทมส์ สองสื่อใหญ่ของสหรัฐรายงานตรงกันว่า เป็นการปลดครั้งใหญ่ พนักงานครึ่งหนึ่งจาก 7,500 คนจะต้องถูกออกจากงาน
ข่าวร้ายสำหรับพนักงานทวิตเตอร์ ทยอยออกมาเป็นระลอก นับจากมัสก์เข้าเทกโอเวอร์กิจการบริษัทเครือข่ายสังคมออนไลน์มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.64 ล้านล้านบาท เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งยุบกรรมการบริหาร ไล่ออกผู้บริหาร ทั้งซีอีโอและผู้จัดการระดับสูงของแผนกต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีส่วนงานที่ถูกมัสก์สั่งการให้ทบทวนทีมงานและโปรเจ็กต์ต่าง ๆ วิศวกรบางคนต้องนอนที่สำนักงานช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
มีพนักงานบางส่วนได้รับอีเมล์เมื่อวันพฤหัสฯ แล้วว่า “ออฟฟิศของเราปิดชั่วคราว งานต่าง ๆ ระงับไว้ ใครที่จะมาออฟฟิศควรหันกลับ และกลับไปบ้าน”

“เราทราบดีว่านี่จะส่งผลต่อตัวบุคคลหลายคนที่เคยทำงานอันมีค่าให้กับทวิตเตอร์ แต่โชคร้ายว่าปฏิบัติการตอนนี้จำเป็นต้องทำ เพื่อให้ความสำเร็จของบริษัทเดินหน้าต่อไป”
ก่อนหน้านี้ มัสก์พูดชัดว่า พยายามหาทางให้ทวิตเตอร์ทำเงิน และทำอย่างรวดเร็ว ในที่นี้รวมถึงแนวคิดที่จะเก็บเงินผู้ใช้ทวิตเตอร์รายละ 8 ดอลลาร์ หรือราว 300 บาทต่อเดือน เพื่อให้แน่ใจว่าบัญชีที่ตั้งไว้ในทวิตเตอร์มีตัวตนจริง

รายงานข่าวเผยว่า มัสก์อยากเก็บค่าใช้ทวิตเตอร์ 20 ดอลลาร์ หรือ 750 บาท ต่อเดือนด้วยซ้ำ แต่ถูกโจมตีหนักจากหลาย ๆ คน รวมถึง สตีเฟน คิง นักเขียนนวนิยายคนดังที่ทวีตว่า “20 ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อจะไว้ตรวจสอบบัญชีผู้ใช้จริง เอางั้นเลยเหรอ”
จากนั้น มัสก์ตอบกลับคิง โดยต่อรองราคาว่า “เราจำเป็นต้องจ่ายบิลบ้างนะ ทวิตเตอร์ไม่สามารถจะไปพึ่งโฆษณาได้หมด ถ้าเป็น 8 ดอลลาร์ล่ะว่าไง”
มัสก์กล่าวด้วยว่า ต้องการเพิ่มรายได้ของทวิตเตอร์จาก 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.8 แสนล้านบาท เมื่อปีก่อน ไปให้ถึง 26,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9.8 แสนล้านบาท ในปี 2028
ขณะที่บริษัทชั้นนำของโลก รวมถึง เจเนอรัล มิลส์ และโฟล์กสวาเกน ระงับการลงโฆษณาลงทวิตเตอร์ในทันที ด้วยเห็นว่า มัสก์กำลังเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มนี้ครั้งใหญ่ ส่วนเจเนอรัล มอเตอร์ส ระงับโฆษณาก่อนเป็นรายแรก ทันทีที่มัสก์เข้าครอบครองทวิตเตอร์
……