จีนเริ่มการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress : NPC) และสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ (Chinese People’s Political Consultative Conference : CPPCC) ที่เรียกว่า “ประชุมสองสภา” (Two Sessions) หรือ “เหลี่ยงฮุ่ย” ประจำปี 2024 ในวันที่ 4 มีนาคม
การประชุมสองสภาปีนี้ไม่มีวาระ “พิธีการ” ที่สำคัญมากเหมือนในปี 2023 ที่มีการรับรองชื่อ สี จิ้นผิง (Xi Jinping) เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 และมีการเสนอชื่อและรับรอง หลี่ เฉียง (Li Qiang) เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการประชุมที่สำคัญที่สุดในทางการเมืองของจีนในแต่ละปี
ท่ามกลางสภาวการณ์แบบนี้ เรื่องที่ต้องจับตามองที่สุดในการประชุมปีนี้ก็ย่อมประเด็นเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งมีวาระประจำทุกปีที่นายกรัฐมนตรีของจีนมีกำหนดประกาศเป้าหมายเศรษฐกิจ นโยบาย แผนการทำงานของรัฐ และงบประมาณ
สิ่งที่เพิ่มความน่าสนใจในปีที่ไม่มีพิธีรีตองที่สำคัญนี้ก็คือ ก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น ทางการจีนประกาศว่า นายกรัฐมนตรี “หลี่ เฉียง” จะไม่แถลงข่าวหลังการประชุมให้สื่อมวลชนได้ซักถามเหมือนที่เคยทำมาในทุกปี
โดยทั่วไปแล้ว ในการแถลงข่าวหลังการประชุม ซึ่งจะจัดขึ้นในวันสุดท้ายของการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) นายกรัฐมนตรีของจีนจะพบปะกับผู้สื่อข่าว และอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับมุมมองของรัฐบาลในเรื่องต่าง ๆ ตั้งแต่นโยบายทางเศรษฐกิจและสังคม ไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้ว่ากระบวนการนี้จะดำเนินไปตามที่เตรียมการไว้ แต่ก็ถือเป็นโอกาสหนึ่งที่นักข่าวต่างประเทศจะตั้งคำถามและได้ประเมินความคิดของผู้นำระดับสูงของจีน
การเปลี่ยนแปลงที่จะไม่มีการแถลงข่าวหลังการประชุมในปีนี้ถือว่าเป็นการละทิ้งประเพณีที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำสืบทอดมาหลายทศวรรษ
“หลู่ ซินเจี้ยน” (Lou Qinjian) โฆษกสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) บอกว่า ในอนาคตก็จะไม่มีการแถลงข่าวหลังการประชุมเช่นกัน แต่เขายืนยันว่าสื่อมวลชนและสาธารณชนจะ “เข้าถึง” ข้อมูลได้อย่างง่ายดายผ่านรายงานของรัฐบาลที่เผยแพร่ในระหว่างการประชุมตลอดทั้งสัปดาห์ ไปจนถึงการสัมภาษณ์สมาชิกทั้งสองสภา
จา เอียน จง (Ja Ian Chong) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า การยกเลิกการแถลงข่าวเป็นการหลีกเลี่ยงคำถามที่น่าอึดอัดใจเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและวิกฤตประชากรของจีน
“การลดความโปร่งใสลงไปอาจทำให้ [พรรคคอมมิวนิสต์] จัดการข้อมูลได้ดีขึ้น แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรมากขึ้น และทำให้นักลงทุนกังวลมากขึ้น” จงกล่าว
นักเศรษฐศาสตร์หลายคน รวมถึงบางคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลคาดว่าตัวเลขเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปี 2024 ที่รัฐบาลกำหนดซึ่งจะเปิดเผยในการประชุมนี้จะค่อนข้างทะเยอทะยาน
หลิว หยวนชุน (Liu Yuanchun) ประธานมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์แห่งเซี่ยงไฮ้ (Shanghai University of Finance & Economics) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับคณะโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพิ่งคาดการณ์เป้าหมายไว้ที่ประมาณ 5% ด้าน หยู หยงติง (Yu Yongding) อดีตที่ปรึกษาธนาคารกลางจีน (PBOC) ก็แนะนำตัวเลขที่คล้ายกันในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อต้นสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ วิธีการไม่แถลงข่าวที่ทำเพื่อลดความโปร่งใสนี้คล้ายกับก่อนหน้านี้จีนเคยใช้วิธีไม่เปิดเผยข้อมูลเพื่อปกปิดสถานการณ์ที่แท้จริงซึ่งเป็นข่าวโด่งดังมากครั้งหนึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา คือ การยกเลิกการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานของเยาวชนนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 หลังจากที่ตัวเลขพุ่งแรงทำนิวไฮต่อเนื่อง 3 เดือน ในเดือนเมษายน (20.4%) พฤษภาคม (20.8%) และมิถุนายน (21.3%)