
จีนจัดงาน “China Development Forum 2024” (การประชุมว่าด้วยการพัฒนาแห่งประเทศจีน) เมื่อวันที่ 24-25 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้นำองค์กรระหว่างประเทศและผู้นำภาคธุรกิจเข้าร่วมงานจำนวนมาก รวมถึง “ทิม คุก” (Tim Cook) ซีอีโอแอปเปิล (Apple) และ “อัลเบิร์ต บัวร์ลา” (Albert Bourla) ซีอีโอไฟเซอร์ (Pfizer)
งานนี้เป็นงานที่จีนจัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อชักชวนนักลงทุนเข้าประเทศ สำหรับหัวข้อการประชุมในปีนี้ คือ “The Continuous Development of China” (การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของจีน)
แน่นอนว่าฝั่งจีนก็ต้องนำเสนอข้อมูลด้านที่ดี ๆ เพื่อให้นักลงทุนมองเห็นว่ามีโอกาสดี ๆ ในจีน แต่มุมมองของคนนอกที่มองจีนนั้นต่างออกไป
“คริสตาลินา จอร์เจียวา” (Kristalina Georgieva) กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวเตือนจีนในงานนี้ว่า จีนมาถึงทางแยกที่ต้องเลือกระหว่างการพึ่งพานโยบายที่เคยใช้ได้ผลในอดีตต่อไป หรือจะสร้างตนเองขึ้นมาใหม่ให้สอดรับกับยุคสมัยใหม่ ซึ่งเป็นยุคแห่งการเติบโตที่มีคุณภาพสูง
จอร์เจียวาแนะจีนว่า หากรัฐบาลจีนมีแพ็กเกจการปฏิรูปตลาดแบบครอบคลุม ภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) ของจีนจะสามารถเติบโตได้เร็วมากถึง 20% ต่อปี ในอีก 15 ปีข้างหน้า หรือเท่ากับการเพิ่มผลผลิตให้เศรษฐกิจจีน 3.5 ล้านล้านบาท

กรรมการผู้จัดการ IMF บอกว่า การที่จีนจะทำเช่นนั้นได้ จำเป็นต้องอาศัยการดำเนินการด้วยความแน่วแน่เพื่อแก้ปัญหาโครงการที่อยู่อาศัยที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ และต้องหาทางลดความเสี่ยงจากหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น
นอกจากนั้น เธอบอกว่า ลักษณะสำคัญของการเติบโตที่มีคุณภาพสูงจะต้องพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้น ซึ่งการจะเพิ่มการบริโภคในประเทศได้นั้นก็ต้องอาศัยการเพิ่มอำนาจการใช้จ่ายของบุคคลและครัวเรือน
ฝั่ง นายกรัฐมนตรี “หลี่ เฉียง” (Li Qiang) ของจีน ดูเหมือนว่าไม่ให้ความสำคัญหรือกำลังพยายามปิดบังความกังวลเกี่ยวกับความท้าทายที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญอยู่ โดยพยายามกล่าวให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่า รัฐบาลจีนจะยกระดับมาตรการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
นายกฯจีนกล่าวว่า ยังมีพื้นที่อีกมากสำหรับการขยายนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากการเติบโตของดัชนีราคาผู้บริโภค “ค่อนข้างต่ำ” และระดับหนี้ของรัฐบาลกลางไม่สูง
ขณะที่หลายคนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น นายกฯหลี่ เฉียง ของจีนกล่าวในงานนี้ว่า “ความยากลำบากและปัญหาบางอย่างไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่ใคร ๆ คิด” และบอกว่า การดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อจำกัดความเสี่ยงในภาคส่วนเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเชิงบวกแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายกฯหลี่ เฉียง ของจีนยอมรับว่า “ดีมานด์โดยรวมของจีนยังไม่มากพอ”
เขาเน้นย้ำถึงมาตรการหลายประการที่รัฐบาลจีนกำลังวางแผนเพื่อเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศในปีนี้ รวมถึงการลดอุปสรรคในการรวมตลาดในประเทศเข้าเป็นหนึ่งเดียว การให้ที่อยู่อาศัยในเมืองแก่ผู้คนที่ย้ายจากชนบทไปยังเมืองต่าง ๆ รวมถึงการรณรงค์เพื่อผลักดันให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจซื้อสินค้าใหม่ไปใช้แทนที่ของเดิมที่ใช้มานาน อย่างเช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรในโรงงาน
นอกจากนั้น เขายังเน้นย้ำถึงโฟกัสของจีนในการยกระดับการผลิตและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยกล่าวว่า เครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ ๆ ของจีนแข็งแกร่งขึ้น อุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์และอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ก็ครองส่วนแบ่งในภาพรวมของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
“จีนไม่แสวงหาการเติบโตในระยะสั้นโดยแลกกับการสะสมความเสี่ยงระยะยาว” คำกล่าวของนายกฯจีนบ่งบอกแนวโน้มว่า รัฐบาลจีนคงจะโนสนคำแนะนำไม่ว่าจะจากใครก็ตามที่แนะให้จีนต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยต้องใช้งบประมาณสูง