
กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกองกำลังปกป้องประชาชน (PDF) โจมตีค่ายทหารเมียนมา และยึดจังหวัดเมียวดีของเมียนมาที่อยู่ตรงข้ามแม่สอดแล้ว ทหารเมียนมามอบตัวร่วม 500 นาย จับตาอาจจะเปลี่ยนธงชาติเมียนมาเป็นกะเหรี่ยง
วันที่ 7 เมษายน 2024 มติชนรายงานว่า จากสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับฝ่ายต่อต้านที่มีทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกองกำลังปกป้องประชาชน (PDF) เข้าโจมตีกองบังคับการยุทธวิธีของทหารเมียนมาที่บ้านปางกาน จ.เมียวดี ตรงข้ามตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก และสามารถยึดค่ายใหญ่ได้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2024
ต่อมาฝ่ายต่อต้านได้บุกพื้นที่กองพันที่ 275 เมียวดี ซึ่งเป็นค่ายทหารที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ในตัวเมืองเมียวดี จนฝ่ายต่อต้านสามารถยึดค่ายได้ ส่งผลให้ทหารเมียนมาจำนวนประมาณ 500 นาย ขอมอบตัวกับฝ่ายต่อต้าน หลังจากที่รบกันอย่างหนักมานานหลายเดือน
ล่าสุดทหารฝ่ายต่อต้านสามารถยึดและควบคุมพื้นที่ จ.เมียวดี ได้ทั้งหมด ส่งผลให้ข้าราชการในสังกัดสภาบริหารทหารเมียนมา เช่น ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง จ.เมียวดี และหน่วยงานต่าง ๆ ต้องถอนตัวออกจากเมียวดี ทำให้ฝ่ายชนกลุ่มน้อยเข้ามาควบคุมพื้นที่
ทั้งนี้ ทหารเมียนมาในค่ายกองพัน 275 ที่มีทั้งหมดกว่า 700 นาย รวมทั้งครอบครัวอีกประมาณ 500 คน รวมทั้งหมดราว 1,000 คน ถูกฝ่ายกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ ของพันเอกหม่องชิตูรับไปดูแลที่ส่วยโก๊กโก่ ตรงข้ามบ้านวังแก้ว ตำบลแม่ปะ ล่าสุดในวันนี้ (7 เมษายน) ไม่มีเสียงปืนแม้แต่นัดเดียว หลังจากที่มีเสียงปืนสู้รบกันมานานหลายเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายชนกลุ่มน้อยที่มีสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กำลังกะเหรี่ยงพุทธ (DKBA) สภาสันติภาพกองทัพปลดปล่อยชนชาติกะเหรี่ยง (KNU/KNLA-PC) รวมทั้งกลุ่มกองกำลังปกป้องประชาชน (PDF) ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ จะมีการประชุมกันเพื่อหารือในการบริหารจัดการพื้นที่ที่ยึดได้จากทหารเมียนมา
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาใช้ธงชาติของกลุ่มสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงแทนธงชาติเมียนมา ขณะที่ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจราชมนูได้ส่งกำลังทหารตระเวนทั้งคืนที่ผ่านมา เพราะเกรงว่าจะมีการสู้รบหนัก และส่งผลกระทบต่อเขตแดนไทย
- เกิดอะไรที่แม่สอด ? สรุปเครื่องบินรัฐบาลเมียนมาอพยพทหาร ขนอาวุธ หรือสิ่งใด
- กต.แจงอนุมัติเที่ยวบินรัฐบาลเมียนมาด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม ล่าสุดยกเลิกแล้ว
- “เมียนมา” ต้องยึดถือฉันทามติ 5 ข้อ
- อินเดียเตรียมทุ่ม 1.34 แสนล้านบาท สร้างรั้วกั้นชายแดนเมียนมา 1,610 กม.
- 3 ปีหลัง “รัฐประหารเมียนมา” จีดีพีโต 2.6% ลุ้น “ส่งออก” ฟื้นตัว
- “เมียนมา” แซง “อัฟกานิสถาน” ขึ้นเป็นประเทศที่ผลิตฝิ่นมากสุดในโลก