เงินเฟ้อสหรัฐขึ้นต่อ 3.5% สูงกว่าคาดการณ์ เฟดอาจยังไม่ลดดอกเบี้ยเดือนมิถุนายน

เงินเฟ้อสหรัฐ
ภาพโดย Frederic J. BROWN / AFP

เงินเฟ้อสหรัฐเดือนมีนาคม 2024 ขึ้นต่อที่อัตรา 3.5% สูงกว่าคาดการณ์ ตลาดผิดหวังปรับคาดการณ์ลดดอกเบี้ยครั้งแรกอาจยังไม่เกิดในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้หุ้นร่วงระนาว

วันที่ 10 เมษายน 2024 เวลา 20.30 น. ตามเวลากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าเวลาไทย 11 ชั่วโมง สำนักงานสถิติแรงงาน กระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา เผยแพร่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมีนาคม 2024 ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ และเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกเมื่อใด 

ข้อมูลที่เผยแพร่ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนมีนาคม 2024 เพิ่มขึ้น 3.5% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) หมายความว่าเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐในเดือนมีนาคม 2024 อยู่ที่ 3.5% ซึ่งเป็นกราฟขาขึ้นต่ออีกเดือนจากเดือนกุมภาพันธ์ที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.2% ผงกหัวขึ้นจากเดือนมกราคมซึ่งอยู่ที่ 3.1% และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MOM) ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนมีนาคม 2024 เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ออกมาสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 3.4% (YOY) และ 0.3% (MOM) 

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 3.8% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) กล่าวคืออัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนมีนาคมอยู่ที่ 3.8% คงที่เท่ากันกับอัตราของเดือนกุมภาพันธ์ และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MOM) ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือนมีนาคม 2024 เพิ่มขึ้น 0.4% 

หมวดสินค้าที่ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ได้แก่ ที่พักอาศัย และพลังงาน 

คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐเน้นย้ำเสมอว่า จะลดดอกเบี้ยเมื่อมั่นใจได้ว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายที่ 2% อย่างยั่งยืน การที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกในอัตราที่สูงกว่าคาดการณ์ถือว่าเป็นปัจจัยลบสำหรับตลาดทุน

หลังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและเงินดอลลาร์พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีหุ้นร่วงกราว ทั้งดัชนี Dow Jones Futures ดัชนี Dow Jones ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq-100 ล้วนร่วงลงมากว่า 1% 

หลังทราบอัตราเงินเฟ้อ ตลาดมีคาดการณ์เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME I เวลา 09.00 น. ตามเวลานิวยอร์ก บ่งชี้ว่า ตลาดเงินตลาดทุนเห็นความน่าจะเป็นประมาณ 80% ที่เฟดจะ “คง” อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 11-12 มิถุนายนนี้ จากเมื่อวานนี้เห็นความน่าจะเป็น 42.6% ว่าเฟดจะ “คง” ดอกเบี้ย ขณะที่ส่วนมาก 56.1% เห็นว่าจะมีการ “ปรับลด”