“ไช่ อิง-เหวิน” ประธานาธิบดีหญิงของไต้หวัน ส่งข้อความถึงจีนว่า การปะทะทางทหารไม่ใช่คำตอบ
วันที่ 1 มกราคม 2565 แชนแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า “ไช่ อิง-เหวิน” ประธานาธิบดีไต้หวัน ส่งข้อความถึงจีนว่า การปะทะทางทหารไม่ใช่คำตอบ ขณะที่ทางการจีนโต้กลับด้วยการเตือนอย่างดุดันว่า หากไต้หวันข้ามเส้นแดงจะนำไปสู่หายนะรุนแรง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
จีนอ้างว่าไต้หวันซึ่งปกครองตามระบอบประชาธิปไตยเป็นดินแดนของตัวเอง และได้เพิ่มแรงกดดันทางทหารและการทูตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่ออ้างสิทธิอธิปไตยของตน
“เราต้องย้ำเตือนเจ้าหน้าที่ทางการจีนเพื่อไม่ให้มีการตัดสินสถานการณ์ผิด และเพื่อป้องไม่ให้ความสุ่มเสี่ยง ทางทหารเพิ่มขึ้น” ไช่กล่าวในสุนทรพจน์ปีใหม่ ที่ถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊ก
ไต้หวันมองว่าตัวเองเป็นประเทศเอกราช และให้คำมั่นหลายครั้งว่าจะปกป้องเสรีภาพและประชาธิปไตยของตน
“สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน กล่าวเนื่องในโอกาสวันปีใหม่เมื่อวันศุกร์ว่า การรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของ “มาตุภูมิ” เป็นความปรารถนาของประชาชนทั้งสองในช่องแคบไต้หวัน
ขณะที่ “จู เฟิงเหลียน” โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า เรายินดีที่จะต่อสู้เพื่อโอกาสในการรวมชาติอย่างสันติ
“แต่หากกองกำลังแบ่งแยกดินแดน ‘ไต้หวัน อินดิเพนเดนซ์’ ยังคงยั่วยุและบีบบังคับ หรือแม้แต่ข้ามเส้นสีแดง เราจะต้องดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด”
“การแสวงหาเอกราชมีแต่จะทำให้ไต้หวันตกอยู่ในเหวลึก และทำให้เกิดหายนะรุนแรง” จูกล่าว
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางการจีนได้ดำเนินปฏิบัติการทางอากาศหลายต่อหลายครั้งเหนือช่องแคบไต้หวัน ขณะที่ไต้หวันประกาศว่าจะไม่ยอมให้มีการคุกคาม
“กำลังทหารไม่ใช่ทางเลือกในการแก้ปัญหาความขัดแย้งข้ามช่องแคบอย่างแน่นอน การปะทะทางทหารจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ” ไช่กล่าว
“เพื่อบรรเทาความตึงเครียดในภูมิภาค ทั้งไต้หวันและจีนจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน และทำให้จิตใจของประชาชนสงบลง เพื่อที่จะหาทางแก้ปัญหาอย่างสันติร่วมกัน” เธอกล่าวพร้อมกับเสริมว่า
ไต้หวันจะยังคงติดตามสถานการณ์ในฮ่องกง เพราะการแทรกแซงการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติ และการจับกุมพนักงานอาวุโสของสื่อที่สนับสนุนประชาธิปไตยอย่าง “สแตนด์นิวส์” ทำให้ประชาชนกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการพูดในฮ่องกงมากขึ้น
“เราจะยึดมั่นในอธิปไตยของเรา รักษาค่านิยมของเสรีภาพและประชาธิปไตย ปกป้องอธิปไตยในอาณาเขตและความมั่นคงของชาติ รวมถึงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก” ผู้นำไต้หวันกล่าว