“เอเวอร์แกรนด์” ยักษ์อสังหาริมทรัพย์สัญชาติจีน ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ระหว่างที่บริษัทกำลังเผชิญวิกฤตหนี้ก้อนมหาศาล
วันที่ 3 มกราคม 2565 ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เอเวอร์แกรนด์ระบุในแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ว่า การระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะมีประกาศอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางเอเวอร์แกรนด์ไม่ได้ระบุเหตุผลที่แน่ชัด
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
อสังหาฯรายใหญ่ของจีนรายนี้มีหนี้สินประมาณ 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หลายเดือนมานี้นักวิเคราะห์แสดงความกังวลว่า หากยักษ์อสังหาฯรายนี้ล้มละลาย อาจทำให้เกิดวิกฤตในตลาดอสังหาฯจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเจ้าของบ้าน และระบบการเงินในวงกว้าง
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯเตือนว่า ปัญหาในภาคอสังหาฯจีน อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา “ฟิตช์ เรตติ้ง” บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 1 ใน 3 ยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศว่า เอเวอร์แกรนด์ บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในจีน และเป็นกิจการอสังหาริมทรัพย์หมายเลข 1 ของประเทศ “ผิดนัดชำระหนี้ในวงจำกัด” (restricted default) หลังจากไม่สามารถชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้ในต่างประเทศ มูลค่า 82.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัปดาห์ที่แล้วหุ้นของเอเวอร์แกรนด์กระเตื้องขึ้นเล็กน้อย หลังจากยักษ์อสังหาริมทรัพย์รายนี้ระบุว่า คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงกำลังนำทรัพยากรของบริษัทมาใช้ และจะทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันกับบรรดาเจ้าหนี้
- เอเวอร์แกรนด์หุ้นกระเตื้อง หลังตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
- เอเวอร์แกรนด์ กำลังเดินหน้าสู่จุดจบ
-
ฟิทช์ลดความน่าเชื่อถือ เอเวอร์แกรนด์-ไคซา สู่ระดับ “ผิดนัดชำระหนี้”
ก่อนหน้านี้ บริษัทยังประกาศความคืบหน้าในการกลับมาทำงานก่อสร้าง โดย “สวี่ เจียยิ่น” ประธานบริษัทเอเวอร์แกรนด์ กล่าวว่า ไม่มีใครในบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้นอนเกลือกกลิ้ง พร้อมให้คำมั่นว่าจะส่งมอบที่อยู่อาศัย จำนวน 39,000 ยูนิตในเดือนธันวาคม
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับจำนวนเพียง 10,000 ยูนิตที่บริษัทได้ส่งมอบให้ลูกค้าไปในช่วง 3 เดือนก่อน
นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าทางการจีนกำลังดำเนินการเพื่อควบคุมผลกระทบจากภาวะถดถอยของเอเวอร์แกรนด์ พร้อมกับแนะแนวทางผ่านการปรับโครงสร้างหนี้และการดำเนินธุรกิจ
ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนยังระบุด้วยว่า จะสูบฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 188,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1 ใน 3 ของจีดีพี ทั้งนี้ คาดว่าเพื่อรับมือกับปัญหาทางการเงินของเอเวอร์แกรนด์