เทรนด์ “ไลฟ์สด” รับสมัครงาน ช่องทางใหม่ “ตลาดแรงงานจีน”

จีน

 

การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของ “จีน” ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะบัณฑิตจบใหม่ที่ยังต้องเตะฝุ่นจำนวนมาก ขณะที่ข้อจำกัดช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้ผู้จ้างงานก็เข้าถึงผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อตำแหน่งงานได้น้อยลง ส่งผล ให้การรับสมัครงานผ่าน “ไลฟ์สตรีมมิ่ง” กลายมาเป็นช่องทางใหม่ในการเชื่อมต่อระหว่างภาคธุรกิจกับตลาดแรงงานจีน

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า การเปิดรับสมัครงานแบบไลฟ์สดกลายเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงในตลาดงานจีน โดยบรรดาอินฟลูเอนเซอร์จีนหลายคนมีชื่อเสียงขึ้นมาจากการใช้ช่องทางไลฟ์สตรีมมิ่งนำเสนอตำแหน่งงานของบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้รายละเอียดตำแหน่งงานแก่ผู้ที่สนใจ

“หลิว เชา” หนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์จีนที่มีชื่อเสียงในการเสนอตำแหน่งงานผ่านไลฟ์สด เปิดเผยว่า การค้นหาและสมัครงานออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตนต้องเพิ่มทีมงานเข้ามาช่วยถึง 30 คน ในการทำงานร่วมกับฝ่ายบุคคลของบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้บริการที่ครอบคลุมกระบวนการจ้างงาน ตั้งแต่การนำเสนอตำแหน่งงาน ดึงดูดผู้หางาน ติดตามผลการสมัครงาน ไปจนถึงการให้ความช่วยเหลือในการปรับตัวเข้ากับงานใหม่

ขณะที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนก็หันมาจับกระแสดังกล่าวอย่าง “ไคว่โส่ว เทคโนโลยี” (Kuaishou Technology) เจ้าของแพลตฟอร์มแชร์วิดีโอที่หลิว เชา ใช้ในการไลฟ์สดก็ได้เปิดช่องทาง “Kwai Recruitment” สำหรับรับสมัครงานโดยเฉพาะ ซึ่งดึงดูดผู้เข้าชมได้กว่า 100 ล้านคน/เดือน และทำสถิติสูงสุดในการรับเรซูเม่ถึง 150,000 รายการภายในวันเดียว

ส่วนแพลตฟอร์ม “โต๋วอิน” (Douyin) หรือติ๊กต๊อกเวอร์ชั่นจีนของ “ไบต์แดนซ์” ก็เปิดบริการรับสมัครงานด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นสามารถเข้าถึงตำแหน่งงานได้มากถึง 179,000 ตำแหน่งจากกว่า 46,000 บริษัททั่วประเทศจีน

นอกจากนี้ไบต์แดนซ์ยังร่วมกับ China International Intellectech Corp (CIIC) องค์กรรัฐวิสาหกิจด้านทรัพยากรบุคคลและเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน เพื่อช่วยเหลือด้านการจัดหางานให้กับผู้ว่างงานอีกด้วย

ขณะเดียวกันภาคธุรกิจต่าง ๆ ก็เริ่มหันมาทดลองเปิดรับสมัครงานผ่านช่องทางไลฟ์สดเช่นกัน อย่างกรณี “ฟ็อกซ์คอนน์” ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในโลก ที่เปิดรับสมัครงานผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งเพื่อรับสมัครงาน 880 ตำแหน่งสำหรับโรงงานในเมืองเสิ่นเจิ้นเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

“จาง อี้” ซีอีโอของบริษัทวิจัยตลาด iiMedia ระบุว่า ข้อได้เปรียบของการรับสมัครงานแบบไลฟ์สตรีมมิ่ง คือ บริษัทต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อกับผู้หางานได้โดยไม่ต้องจัดมหกรรมหางาน ขณะที่ผู้หางานก็มีโอกาสได้งานมากขึ้น

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีน ทำให้ภาคธุรกิจต่างแช่แข็งตำแหน่งงานหรือเลิกจ้างงานมากขึ้น ส่วนผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาก็ล้วนประสบภาวะว่างงาน ข้อมูลอย่างเป็นทางการชี้ว่า อัตราการว่างงานของประชากรจีนอายุระหว่าง 16-24 ปีในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาสูงถึง 18.4% เมื่อเทียบกับอัตราการว่างงานเฉลี่ยโดยรวมที่ 5.9% ในเดือนเดียวกัน

การนำเสนองานผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งของจีน คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น และได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน โดยศูนย์วิจัยการพัฒนาของคณะมนตรีรัฐกิจจีนระบุว่า การจัดหางานแบบไลฟ์สตรีมมิ่งนับเป็นช่องทางสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของอัตราการจ้างงานของประเทศ