ปี’66 อย่าทำงานไปพลาง ตกนรกไปพลาง

ท่านพุทธทาสภิกขุ
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : กฤษณา ไพฑูรย์

เมื่อไม่กี่วันมานี้ มีกัลยาณมิตรส่งยูทูบของ “ท่านพุทธทาสภิกขุ” ที่เทศนาไว้ครั้งยังมีชีวิตอยู่ “เรื่องเกิดเป็นคนทั้งที อย่าต้องทำงานไปพลาง ตกนรกไปพลาง” ฟังแล้วอยากมาเขียนให้กัลยาณมิตรของประชาชาติธุรกิจได้รับรู้ในโอกาสปีใหม่ 2566

“ท่านพุทธทาสภิกขุ” บรรยายว่าคนทั่วไปหรือคนทั่วโลกทำงานด้วยความหิวของกิเลส ตัณหาตลอดเวลา เปรียบเสมือน “เปรต” ชนิดหนึ่งหิวตลอดเวลา ไม่ได้ทำงานด้วยสติปัญญา หรือความอิ่มอกอิ่มใจ อย่างนี้เรียกว่า มีอาการแห่งการ “ตกนรกทั้งเป็น”

แม้เป็นมหาเศรษฐีมีเงิน มีอำนาจ วาสนา ความหิวยิ่งมากเป็นเงาตามตัว มีอาการหัวใจเร่าร้อน กลัดกลุ้มด้วยความไม่ได้อย่างใจ ยิ่งคนมีตำแหน่ง “หัวหน้า” ทั้งหลาย ระวังให้ดี ๆ

คนที่คอร์รัปชั่นทั้งหลายมีมูลมาจากต้องการความฟุ่มเฟือย ทางจิตทางวิญญาณจึงต้องคอร์รัปชั่น เป็นมูลเหตุให้ความวินาศติดตามมา

มองดูสัตว์เดรัจฉานก็ทำงานหากินเหมือนกัน แต่ไม่มีอาการหงุดหงิด โกรธแค้น ขัดใจไม่มี มีแต่คน

ส่วน “มนุษย์” มีจิตใจสูง ทำงานด้วยสติปัญญา สัมปชัญญะ พอใจ อิ่มใจ เพราะรู้ว่างานคือธรรมะ ธรรมะคืองาน คือหน้าที่ที่จะต้องทำ

สิ่งใดมีชีวิต จะเป็นคน สัตว์ มนุษย์ เทวดา มีชีวิตแล้วต้องมีหน้าที่ หน้าที่นั้นจะช่วยให้รอด ธรรมะคือสิ่งที่จะช่วยให้รอด ดังนั้น “หน้าที่กับธรรมะจึงเป็นสิ่งเดียวกัน” พอทำหน้าที่แล้ว หน้าที่นั้นจะกลายเป็นพระเจ้าช่วยให้รอด ถ้าไม่ทำหน้าที่แล้ว พระเจ้ากี่คนก็ไม่สามารถช่วยให้รอด

หน้าที่คือธรรมะ ธรรมะคือหน้าที่ การมีธรรมะ คือ มีหน้าที่เป็นสิ่งสูงสุดที่ควรเคารพบูชา มีสติปัญญาระลึกถึงสิ่งนี้อยู่เสมอเลยกลายเป็น “กรรมฐาน” อย่างหนึ่งไปในตัวการงาน คือ “ธรรมานุสติ” คือ ระลึกถึงธรรมะอยู่ตลอดเวลาในขณะที่ทำการงาน

“การทำงานคือการปฏิบัติธรรม” เป็นความรู้ของมนุษย์ แต่ไม่เป็นความรู้ของคน คนจึงทำงานไปพลาง ตกนรกไปพลาง เพราะฝืนใจทำ สักแต่ว่าเกิดมาเป็นคนไม่มีความรู้เรื่องธรรมะเป็นหน้าที่ แต่เมื่อจิตใจสูงขึ้นมาตามลำดับพอสมควรในระยะหนึ่งจึงจะรู้ ธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ

มนุษย์มีความสุขเมื่อกำลังทำงานตลอดเวลา ชื่นใจ เคารพตัวเอง แจ่มใส เรียกว่า โลกาไม่มืดหม่น ปรมัตถธรรมเข้ามาอยู่ในหัวใจแล้ว ไม่ว่าจะทำงานอะไรล้วนแต่เป็นธรรมะไปหมด หน้าที่การงานที่ถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์แล้ว ไม่ว่าจะทำงานชนิดไหนเป็นธรรมะเสมอกันหมด ไม่มีงานสูง ไม่มีงานต่ำ ไม่ต้องเลือกงานจนไม่มีงานทำ พวกที่ไม่มีงานทำเพราะเป็นคนที่ยังโง่

ตัวการงานหรือหน้าที่มีอยู่เป็น 2 ระดับ การปฏิบัติธรรมมีอยู่ 2 ระดับ ระดับที่ 1 เพื่อความรอดในทางกาย ระดับที่ 2 ความรอดในทางจิตใจ

เปรียบเทียบกันระหว่างสัตว์ คน มนุษย์ สัตว์มุ่งแต่ความรอดทางกาย คนมุ่งแต่ความรอดทางกาย แม้ท้องอิ่มแล้วก็ยังจะกินเพื่อความเอร็ดอร่อยทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย หิวยิ่งกว่าเปรต เรียกว่า สัตว์กับคนต่างกันอย่างนี้

คนทำงานไปพลาง ตกนรกไปพลาง เพราะคนที่ไม่รู้จักว่าธรรมะคือหน้าที่ หน้าที่คือธรรมะ