
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : ณัฏฐ์พิชญ์ วงษ์สง่า [email protected]
ต้องยอมรับว่า การประกาศเปิดประเทศของทางการจีนตั้งแต่ 8 มกราคมที่ผ่านมานั้นเป็น “ตัวแปร” ที่สร้าง “ความหวัง” ให้กับภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย
เพราะ “นักท่องเที่ยวจีน” เดินทางออกนอกประเทศมากถึงปีละ 140-150 ล้านคน
ในทางกลับกันก็มีส่วนที่ยังกังวลว่า “นักท่องเที่ยวจีน” จะออกไปสร้างปัญหาให้กับทั่วโลก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดภายในประเทศยังรุนแรง
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ประกอบการบางส่วนในประเทศไทยที่ออกมาตั้งการ์ดสูง และประกาศว่า ไม่อยากรับนักท่องเที่ยวจีน ด้วยเหตุผลที่ว่ารัฐบาลไม่มีมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีปัญหาการแพร่ระบาด
ที่สำคัญ กลัวว่าถ้าเปิดรับจีนแล้วนักท่องเที่ยวทางฝั่งยุโรปที่ตัวเลขกำลังเติบโตจะหนีหายไปหมด แล้วทำให้ธุรกิจของพวกเขาเสียหายอีกครั้ง
นอกจากนี้ บางส่วนก็ยังไม่พร้อมที่จะรองรับการไหลกลับมาของนักท่องเที่ยวแบบทะลักทลายเหมือนเมื่อก่อน เพราะหาแรงงานมารองรับไม่ได้
และอีกหลายต่อหลายปัญหาที่ต่างแสดงความเห็นกันอย่างเมามันในช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา
“เมสเซจ” ส่วนใหญ่ที่ออกมาดูเหมือนจะไปในแนว “ลบ” มากกว่า “บวก”
โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวหลักอย่าง “ภูเก็ต” ที่บอกว่า วันนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแค่นี้ ธุรกิจของตัวเองก็เริ่มอยู่ได้แล้ว จึงไม่อยากเปิดรับจีน เพราะเชื่อว่านักท่องเที่ยวจีนจะมาพร้อมปัญหาใหญ่
ผู้คร่ำหวอดในวงการท่องเที่ยวหลายคนให้ข้อมูลกับผู้เขียนว่า เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยจะไม่มีวัน “ฟื้น” กลับมาได้เลย หากเราปฏิเสธนักท่องเที่ยวจีน
เหตุผลคือ ที่ผ่านมาซัพพลายไซด์ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร รถนำเที่ยว ฯลฯ ลงทุนรองรับนักท่องเที่ยวไว้ทุกระดับ
แต่วันนี้ ซัพพลายที่พลิกฟื้นกลับมาได้บ้างนั้น ล้วนเป็นกลุ่มที่จับตลาดบน ซึ่งกลุ่มเริ่มมีกำไรอาจมีสักประมาณ 20% ส่วนที่พอประคับประคองตัวเองได้อีกประมาณ 20% ที่เหลืออีกราว 60% ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จับตลาดแมส หรือตลาดในระดับ 2-3 ดาวนั้น มั่นใจว่า 80-90% ยังไม่กลับมาเปิดธุรกิจ
จึงหวังว่าการเปิดประเทศของจีนจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับตลาดแมสได้ฟื้นกลับมาได้บ้าง
พร้อมทั้งวิเคราะห์ด้วยว่า การไหลกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนนั้นจะไม่ใช่มาแบบเขื่อนแตก น้ำทะลัก แต่จะมาแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า หรือน่าจะต้องรออีกราว 3-4 เดือน ถึงจะเห็นความชัดเจน
เรียกว่า ยังมีเวลาตั้งรับกันอีกหลายเดือน
จึงไม่อยากให้ผู้ประกอบการที่ “รอด” แล้ว ออกมาคอมเมนต์ หรือต้านการเปิดรับจีน ควรปล่อยให้ธุรกิจในพื้นที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นพัทยา เชียงใหม่ ฯลฯ ได้มีโอกาส “พลิกฟื้น” กับเขาด้วย
และยอมรับว่า โครงสร้างที่ดีของการท่องเที่ยวนั้นต้องมีนักท่องเที่ยวทุกระดับ หรือมีหลาย ๆ ขา ผสมผสานกันในสัดส่วนที่ลงตัว ธุรกิจจึงจะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรง
สรุปสั้นๆ คือ อย่าไป “มะโน” อะไรไปไกล เพราะตอนนี้ “จีน” ยังเป็นเพียงแค่ “ความหวัง” ส่วนนักท่องเที่ยว รายได้ หรือตังค์นั้นยังไม่มา…
- แอร์เอเชีย บุกตลาดจีน เปิดบินตรง 8 เมืองรวด เริ่มบิน 26 ม.ค.
- “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” จะกลับมาภูเก็ตไหม หลังจีนเปิดประเทศ
- ททท.คาดตรุษจีนนี้ ต่างชาติเข้าไทยเฉียด 6 แสนคน-จีนไม่ถึง 3 หมื่น