กำแพงภาษีทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้

กำแพงภาษี สงครามการค้า
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : รุ่งนภา พิมมะศรี

เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมาก ๆ เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าของจีน หรือ “อีวีจีน” เป็นเป้าหมายที่ชาติตะวันตกกำลังตั้งกำแพงภาษีเพื่อป้องกันไม่ให้อุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ/กลุ่มเศรษฐกิจของตนโดนอีวีจีนทำร้าย

สหรัฐประกาศขึ้นภาษีอีวีจีนแบบกระโดดเป็น 4 เท่า จาก 25% เป็น 100% พร้อมด้วยสินค้าอีกหลายรายการที่โดนขึ้นภาษีจากอัตราค่อนข้างต่ำขึ้นไปสู่อัตรา 25-50% และล่าสุด ประธานาธิบดีสหรัฐสั่งยกเลิกมาตรการยกเว้นภาษีสินค้าจีนราว 200 รายการ หมายความว่า จากที่ก่อนหน้านี้สินค้าจีนเหล่านั้นส่งเข้าไปขายในสหรัฐได้โดยไม่โดนเก็บภาษี หลังจากนี้จะต้องโดนภาษีแบบเต็มอัตรา

ด้านสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ระหว่างสอบสวนการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลจีน ซึ่งอียูมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อีวีจีนส่งเข้าไปขายในยุโรปได้ในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เป็นการบ่อนทำลายอุตสาหกรรมรถยนต์ในยุโรป และอียูกำลังพิจารณาว่าจะขึ้นภาษีอีวีจีนเป็นอัตราเท่าไรจึงจะป้องกันการไหลบ่าของอีวีจีนได้

ก่อนหน้านี้มีบริษัทวิจัยคาดว่า อียูน่าจะเรียกเก็บภาษีที่อัตราราว 30% ซึ่งนั่นก็ยังถือว่าต่ำ เป็นอัตราที่ไม่สามารถจะกีดกันอีวีจีนได้

แต่หลังจากที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีอีวีจีนถึง 100% นักวิเคราะห์หลายรายวิเคราะห์กันว่า สหภาพยุโรปน่าจะต้องขึ้นภาษีอีวีจีนมากกว่าที่คาดไว้ เพราะไม่งั้น อียูจะได้รับผลกระทบจากการที่อีวีจีนเข้าสหรัฐยากแล้วหันมาเข้าตลาดอียูแทน

นอกจากนั้นมีข่าวว่า สหราชอาณาจักร ก็กำลังพิจารณาที่จะขึ้นภาษีอีวีจีนเช่นกัน

ADVERTISMENT

กำแพงภาษีที่ชาติตะวันตกกำลังก่อขึ้นเพื่อกันรถยนต์ไฟฟ้าและสินค้าจีน ส่งผลกระทบมาถึงไทยและอาเซียนอย่างยากจะเลี่ยง

เมื่ออีวีจีนเข้าตลาดสหรัฐยาก เข้าตลาดยุโรปก็ยาก จีนก็ย่อมจะต้องหาตลาดอื่นทดแทน ซึ่ง “อาเซียน” คือภูมิภาคที่ถูกมองว่าจะเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของอีวีจีน และนั่นจะทำให้อีวีจีนทะลักเข้ามาในไทย-อาเซียนยิ่งกว่าเดิม

ADVERTISMENT

ในด้านหนึ่ง เป็นมุมบวกสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ในไทย-อาเซียนที่จะซื้อรถได้ในราคาที่ต่ำลง เพราะไทยและอาเซียนจะเป็นสมรภูมิที่ค่ายรถยนต์จะทำสงครามราคากันอีกรอบ

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างบรรดาตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ของรถยนต์สัญชาติอื่นคงจะเหนื่อยและบาดเจ็บจากสงครามราคาอีกครั้ง ขณะที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนป้อนบริษัทรถยนต์สัญชาติอื่น โดยเฉพาะรถยนต์ญี่ปุ่นก็จะได้รับผลกระทบจากยอดขายรถที่ลดลงเพราะโดนอีวีจีนแย่งตลาดไป

และไม่ใช่เพียงรถยนต์ไฟฟ้าที่จะทะลักมา สินค้าอื่น ๆ ที่โดนภาษีทำให้เข้าตลาดตะวันตกได้ยากจะถูกระบายมาขายในภูมิภาคใกล้บ้านโดยขายในราคาที่ทำร้ายผู้ประกอบการท้องถิ่นให้เจ็บปวด ดังที่เกิดผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วก่อนหน้านี้ที่จีนผลิตสินค้าจำนวนมากส่งออกขายในราคาถูก ๆ

ในภาพใหญ่ การขาดดุลการค้าจีนของไทยและประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนก็คงจะเพิ่มขึ้นอีกมาก

สามารถพูดได้เลยว่า “กำแพงภาษีที่ก่อขึ้นทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้”