คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ ประชาชาติ
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชนะเลือกตั้ง 1.38 ล้านเสียง ได้เพียง 1 เดือน ก็มีบางเสียงเรียกร้องให้เป็นนายกรัฐมนตรี
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯเกือบ 8 ปี ก็ถูกถามว่าเมื่อไหร่จะลงจากอำนาจ
“ชัชชาติ” ที่เข้ามาทำงานเพียง 1 เดือน ใช้เวลาวิ่งทุกเช้า ตรวจการบ้านของหน่วยงานต่าง ๆ และเข้มงวดกับผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่ว่าก่อสร้างอุโมงค์ สะพาน รถไฟฟ้า ที่ทำให้คน กทม.ไม่ได้รับความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
“ชัชชาติ” สร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับที่ไม่เห็นในช่วงหลายปีที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
พลัง “ชัชชาติ” เปลี่ยนแปลง “พล.อ.ประยุทธ์” ในหลายด้าน
อย่างน้อย พล.อ.ประยุทธ์ ก็กลับมาเดินสายตรวจราชการตามพื้นที่ต่าง ๆ อีกครั้ง มีการไลฟ์สดไม่ต่างกับ “ชัชชาติ” พูดจาก้าวร้าว-ขวานผ่าซากน้อยลง
กับล่าสุด การที่ “ชัชชาติ” ประกาศสถานที่ใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ 7 แห่ง
1.ลานคนเมือง เขตพระนคร 2.ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง 3.ที่สาธารณะใต้สะพานรัชวิภา ใกล้ซอยวิภาวดีรังสิต 36 เขตจตุจักร 4.ลานจอดรถหน้าสำนักงานเขตพระโขนง 5.ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เขตมีนบุรี 6.ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ และ 7.สวนมณฑลภิรมย์ เขตตลิ่งชัน
“เนื่องจากเป็นประกาศครั้งแรกของ กทม. ผู้ชุมนุมจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด กทม.มีหน้าที่อำนวยความสะดวก จัดพื้นที่ให้ ก็คงมีเรื่องความปลอดภัย ห้องน้ำ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน มี CCTV เก็บข้อมูล แต่มาตรการความมั่นคงตำรวจจะเป็นคนมาดูแล ในส่วนของการทำผิดกฎหมายต่าง ๆ เรื่องความรุนแรง การใช้อาวุธ เนื้อหาในการชุมนุม ตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบ กทม.ไม่ได้มีหน้าที่ในส่วนนี้” นายชัชชาติกล่าว
ไม่นานนัก “กองทัพ-กระทรวงกลาโหม” ที่มี “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นรัฐมนตรี ก็ขยับตัวเลียนแบบ
“พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์” โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า
มีแนวคิดจะ “เปิดพื้นที่ของกระทรวงกลาโหม” ให้กลุ่มผู้เห็นต่างได้เข้ามาเพื่อพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน โดยจะเชิญมาที่กระทรวง เพราะมองว่าปัญหาทุกอย่าง หากมีโอกาสได้พูดคุยกันและมีความเข้าใจกันแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะไปได้ดี เพราะต่างก็เป็นคนไทยด้วยกัน และมีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อประชาชน
ถ้ากองทัพคิดได้แต่แรก คนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังหลักของประเทศในอนาคต ก็คงไม่ต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัว เพียงเพราะอยากเห็นประเทศดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งการเมือง
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเจอวิบากกรรมหนักหน่วงที่สุดในรอบร้อยปี ทั้งโควิด-19 สงครามเศรษฐกิจ สงครามระหว่างประเทศ
แต่เชื่อว่า ทุกเรื่องที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ทำนั้น เจตนาดี แต่ถ้าทำได้แบบ “ชัชชาติ” ทำในรอบ 1 เดือน ไม่ต้องให้พลังชัชชาติมาช่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ฉากจบคงสวยงามกว่านี้หลายเท่านัก