จระเข้ จัดทัพผู้บริหารเดินกลยุทธ์พัฒนาสินค้ารักษ์โลกบุกตลาด CLMV

“จระเข้”จัดทัพผู้บริหารเดินกลยุทธ์พัฒนาสินค้ารักษ์โลกบุกตลาด CLMV

จระเข้ คอร์ปอเรชั่น พร้อมก้าวสู่เป้าหมายในทศวรรษที่ 4 จัดทัพผู้บริหารดูแล 5 สายงาน เดินหน้ากลยุทธ์ บุกตลาด CLMV ผลักดันนวัตกรรมก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขยายกลุ่มสินค้าตอบโจทย์งานระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ 

วันที่ 27 มีนาคม 2566 นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า จระเข้ เป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายสินค้านวัตกรรม เพื่องานก่อสร้าง เราตั้งแผนการดำเนินธุรกิจสู่เป้าหมายในทศวรรษที่ 4 บริษัทพร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมเคมีก่อสร้างเพื่อคุณภาพชีวิตและสร้างความสุขที่ยั่งยืน บนพื้นฐานของการให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม

ขยายฐานจากสินค้าหลักที่เป็นผู้นำตลาดคือกลุ่มกาวซีเมนต์ และกาวยาแนวปูกระเบื้อง ไปสู่สีทาอาคารและเคมีก่อสร้างครบวงจร จากฐานรากถึงหลังคา สำหรับบ้าน อาคาร และงานระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ พร้อมตั้งเป้าเพิ่มยอดขายทั้งในและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูง

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร
นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร

เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตและเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ จระเข้ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารงาน โดยแต่งตั้งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เสริมกำลังในทุกด้านใน 5 สายงานสำคัญ ดังนี้

    1. นายพงษ์พันธุ์ ประทีปมโนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดูแลการค้าระหว่างประเทศ
    2. นายวิกิจ กันฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดูแลสายงานขายในประเทศ
    3. นายวรพจน์ ตั้งมนัสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดูแลสายงานการตลาด
    4. นายญาณินทร์ ลิมปิทีป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดูแลสายงานปฏิบัติการและโลจิสติกส์
    5. นายชัยสิทธิ์ ชื่นชูวิทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดูแลสายงานการเงินและบริหารองค์กร

ทั้งนี้ ผู้บริหารแต่ละสายงานได้กำหนดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจตามโครงสร้างใหม่ไว้ดังนี้

ด้านตลาดต่างประเทศ จระเข้จะเดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ด้วยสินค้านวัตกรรมใหม่ พร้อมขยายช่องทางจัดจำหน่ายในแต่ละประเทศให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมืองหลัก ผ่านตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรทางการค้า โดยในปีนี้มีแผนรุกตลาดเพิ่มขึ้น พร้อมตั้งสำนักงานสาขาในประเทศเวียดนาม

ด้านตลาดในประเทศ ต่อยอดความแข็งแกร่งช่องทางการขายในกลุ่มผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรร้านค้าโมเดิร์นเทรด โดยมีแผนเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าจระเข้ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทุกช่องทาง เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้อย่างสะดวก เข้าถึงทุกกลุ่มลูกค้าทั้งเจ้าของบ้านทั่วไป ช่าง ผู้รับเหมา หน่วยงานโครงการทั้งขนาดเล็ก และใหญ่ โดยเน้นการขยายตัวในโครงการ Infrastructure

ด้านการตลาด ทำการตลาดต่อยอดคอนเซ็ปต์ “ใช้จระเข้ร่วมกัน ปกป้องทั้งบ้าน” เพื่อขยายจากกลุ่มสินค้าที่จระเข้เป็นผู้นำตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนว ไปสู่นวัตกรรมเคมีก่อสร้างอื่น ๆ และขยายเป้าหมายเพิ่มเติมจากบ้านไปจนถึงงานสาธารณูปโภค พร้อมผลักดันสินค้านวัตกรรมก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านกลุ่มสินค้า Jorakay Green Products เพื่อสร้างบ้านที่มีสุขภาวะดี สร้างเมืองน่าอยู่ (Wellbeing) ให้กับทุกคน

มุ่งสร้าง Builder Club เป็น CRM program ที่รวบรวมความรู้ หลักสูตรการอบรม โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษให้กับช่างและผู้สนใจการก่อสร้าง ซ่อมแซม ตั้งเป้าหมายเพิ่มสมาชิกเป็น 3 เท่าในปีนี้ และเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการงานก่อสร้างที่ได้มาตรฐานเป็นพิเศษ ด้วยบริการจากทีมช่างจระเข้ ทั้งบริการทาสีสร้างลาย และติดตั้งกระเบื้องใหญ่พิเศษซึ่งต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญสูง

ด้านการผลิต ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและนำพลังงานทดแทนมาใช้ในการผลิตสินค้า ตลอดจนการนำของเสียต่าง ๆ กลับมาใช้ในกระบวนการผลิตใหม่ สอดรับกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ด้านการพัฒนาองค์กร ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและระบบให้สอดรับกัน โดยอัพเกรดระบบ Enterprise Resource Planning หรือ ERP ช่วยยกระดับระบบการจัดการต่าง ๆ ตั้งแต่การขาย การจัดซื้อ การผลิต การจัดส่ง และบัญชีการเงิน รองรับการขายในช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ส่วนภายในก็มุ่งถ่ายทอดหลักปรัชญา Jorakay DNA จะทำให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนและพนักงานมีความสุข

“จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวมาข้างต้น ทำให้ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายรวม 3,800 ล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 3,300 ล้านบาท ยอดขายต่างประเทศ 500 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าเคมีก่อสร้างคาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 30% จากปีก่อนหน้า”

นายวิกิจ กันฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายในประเทศ กล่าวว่า ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 จระเข้จะเดินหน้าขยายตัวทุกด้าน ทั้งในด้านของกำลังการผลิตด้วยระบบการจัดการที่ทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการจากความเชี่ยวชาญที่มีมายาวนานของจระเข้ การขยายช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

พร้อมขยายโอกาสให้คนในสังคม เพื่อมอบความสุขให้กับลูกค้า และสังคมอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

นายวิกิจ กันฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายในประเทศ
นายวิกิจ กันฉาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายในประเทศ

อย่างไรก็ดี สำหรับภาพรวมการเติบโตธุรกิจของจระเข้ ในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายรวมได้ 3,330 ล้านบาท นับเป็นเป้าหมายเติบโตเกือบ 20% สูงกว่าที่คาดไว้ ซึ่งการเติบโตดังกล่าวจากการที่จระเข้ได้ขยายพอร์ตสินค้าที่ครอบคลุมมากขึ้น และเดินเกมกลยุทธ์การตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ “ใช้จระเข้ร่วมกันปกป้องทั้งบ้าน” เน้นการใช้งานทั้งระบบ

ซึ่งในจำนวนยอดขายดังกล่าวกว่า 60% อยู่ในกลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Jorakay Green Products) ซึ่งจระเข้ยังคงพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ โดยเฉพาะการลด CO2 สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน