ผู้ประกันตน ม. 40 ส่งสมทบเกิน 3.6 ล้านราย ประกันสังคมทยอยโอนเงินคืนแล้ว

ชดเชย ประกันสังคม

ประกันสังคมแจ้งผู้ประกันตน ม. 40 ที่จ่ายเงินสมทบเต็มจำนวน หลังจากมีการประกาศลด เตรียมรับเงินคืนส่วนที่ชำระเกิน ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน

วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่พระราชกฤษฎีกาประกาศลดอัตราเงินสมทบให้กับผู้ประกันตนมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบ เป็นระยะเวลา 6 เดือน จำนวน 2 งวด คือ 1) ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 และ 2) วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 นั้น โดยกำหนดให้ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบเดิม คือ

  • ทางเลือกที่ 1 เดิมผู้ประกันตนจ่ายเดือนละ 70 บาท ลดเหลือเดือนละ 42 บาท
  • ทางเลือกที่ 2 เดิมผู้ประกันตนจ่ายเดือนละ 100 บาท ลดเหลือเดือนละ 60 บาท
  • ทางเลือกที่ 3 เดิมผู้ประกันตนจ่ายเดือนละ 300 บาท ลดเหลือเดือนละ 180 บาท

จากกรณีดังกล่าว สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้จัดทำข้อมูลผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่นำส่งเงินสมทบไว้เกิน หลังจากมีตามพระราชกฤษฎีกาประกาศลดอัตราเงินสมทบให้กับผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่แก้ไขเพิ่มเติมทั้ง 2 ฉบับ

โดยมีผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่นำส่งเงินสมทบไว้เกิน จำนวน 3,695,217 ราย ซึ่งจำนวนเงินที่ต้องคืนแต่ละรายโดยเฉลี่ยไม่สูงมาก ทำให้เกิดความไม่สะดวกที่ผู้ประกันตนต้องเดินทางมาติดต่อสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา หรือยื่นคำขอทางไปรษณีย์ มีจำนวนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่ชำระเงินสมทบไว้เกินและมาขอรับคืนแล้ว มีจำนวน 121,184 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.28 เท่านั้น

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมกล่าวต่อไปว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้ยกร่างระเบียบสำนักงานประกันสังคม ว่าด้วยการคืนเงินสมทบที่นำส่งไว้เกินจำนวนที่ต้องชำระคืนโดยวิธีการโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อให้การปฏิบัติงานในการคืนเงินสมทบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพอันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ยิ่งขึ้น โดยได้กำหนดการโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน รอบแรกสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคม 2565 และรอบที่ 2 ช่วงกลางเดือนกันยายน 2565 หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ