
ตลาดเวลเนสโตพรวด กูรูฟันธงมูลค่าตลาดรวมโตเท่าตัวจาก 4 หมื่นสู่แสนล้านในปีหน้า จากปัจจัยหนุนด้านท่องเที่ยว ฟรีวีซ่าจีนและรัฐบาลใหม่ กลุ่มมาสเตอร์ฯมั่นใจไทยก้าวสู่ฮับความงามตีคู่เกาหลี ซีอีโอธัญชี้เทรนด์ผู้สูงวัย “รู้จักใช้ชีวิต-ใช้เงิน” BDMS คาดการณ์เวลเนสทั่วโลกพุ่งแตะ 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2025
ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย เปิดเผยถึงตลาดเวลเนสในประเทศไทยว่า หลังโควิด-19 มูลค่าตลาดเวลเนสโตเร็วมาก จากเดิมอยู่ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถโตถึง 1 แสนล้านบาท หรือโตกว่าเท่าตัวในปี 2567 เพราะไทยมีจุดเด่นเรื่องการบริการ
- หวั่น EV ไทย…ซ้ำรอยจีน
- “ทรู-ดีแทค” ถล่มโปร “คืนค่าเครื่อง” ย้ำรวมกันได้มากกว่า
- เปิด “ผังน้ำ” ประกบผังเมือง เขย่าราคาที่ดินทั่วประเทศ
ที่สำคัญ รัฐบาลใหม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกทาง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว โดยนายกรัฐมนตรีประกาศชัดจะดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ทำให้เกิดความมั่นใจ รวมถึงสถานที่ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การกินอาหารที่ดี นวด สปา ดีท็อกซ์ และเสริมความงาม ไทยขึ้นชื่อทุกด้าน
“ยิ่งมีนโยบายฟรีวีซ่าจีน-คาซัคสถาน จะช่วยกระตุ้นตลาดโดยตรง คนจีนชอบมากทั้งการนวดและสปาผ่อนคลาย”
นอกจากนี้ ตลาดอุปกรณ์การแพทย์ไทยก็เติบโตอีกเช่นกัน จากการผลักดันนโยบาย Medical Hub ของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และศูนย์กลางส่งออกอุปกรณ์การแพทย์ โดยมีมูลค่ารวม 70,000 ล้านบาทต่อปี
นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีประชากรอายุมากกว่า 65 ปีอยู่ที่ 12.5% จะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอดที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 28% ของประชากรทั้งหมดในปี 2576 ซึ่งทำให้มูลค่าของธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจะขยายตัวแตะ 1.92 หมื่นล้านบาทในปี 2576
“เทรนด์สุขภาพเริ่มมา 10 ปีแล้ว พร้อมก้าวสู่สังคมสูงวัย แต่เพิ่งมาจริงจังในช่วง 5 ปีหลังที่การเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ชะงักไปช่วงโควิด แต่ปัจจุบันกลับมาฟื้นตัวและขยายตัวมากขึ้น พร้อมมีการยกระดับมาตรฐานเวลเนส ควบคู่ไปกับการส่งเสริมนโยบายสู่เมดิคอลฮับ”
จำนวนสถานประกอบการดูเเลผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียน ปัจจุบันมีอยู่ 1,000 ราย เดิมมี 300-500 รายเมื่อ 10 ปีก่อน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถึงปัจจุบัน เมื่อกฎหมายประกาศใช้ บางส่วนก็ปิดไปเพราะไม่ได้มาตรฐานตามกฎหมาย ซึ่งมูลค่าตลาดทั้งธุรกิจสปา ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง นับเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ซึ่งมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวม
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพก็มาแรง เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพพ่วงไปกับการท่องเที่ยวในไทย
นายฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งแบรนด์ THANN เปิดเผยว่า ทั้งโลกพูดคำว่าเวลเนส ซึ่งไม่ใช่แค่บิวตี้ แต่เป็นทั้งบอดี้ จิตใจ สปิริต สิ่งแวดล้อม และสังคม สินค้าเกี่ยวกับการผ่อนคลายได้รับความสนใจมากขึ้น ส่วนการท่องเที่ยวก็ไม่ได้เที่ยวเพื่อโชว์ แต่ไปอยู่เงียบ ๆ พักผ่อนจริง ๆ
ไทยทำมาตลอด 10-20 ที่ผ่านมาก็คือเวลเนส สมัยก่อนยังไม่มีคำนี้ เวลเนสคือการไม่ป่วย คือสุขภาพดี มีจิตใจที่มีเป้าหมาย มีชีวิตสมดุล องค์รวมครอบคลุมถึงธุรกิจโรงพยาบาล คลินิกบิวตี้ โยคะ ฟิตเนส นวดริมถนน ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แค่เราไม่ได้เอาคำว่าเวลเนสมาใช้
ตอนนี้เป็นสปาอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องไปเวลเนส ประเทศไทยกำลังข้ามไปสู่จุดนี้ องค์ประกอบมี 6 ตัว คือ body, mind, spirit, environment, social, intellectual
ส่วนเทรนด์ผู้สูงวัยในยุคนี้ พฤติกรรมเปลี่ยนในทางที่ดีคือ เริ่มรู้จักใช้ชีวิต ใช้เงิน กล้าออกจากบ้านกับลูก ๆ จะมาสปา มานวดเท้า ไปกินของแพง ๆ กับลูก ไม่ต่อต้านแล้ว ไม่ใช่ผู้สูงวัยเฝ้าบ้าน
นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กล่าวว่า ย้อนไป 10-15 ปี เรื่องเวลเนสยังเป็นเรื่องใหม่ แต่ปัจจุบันทุกคนพูดถึงกันหมด คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดเวลเนสทั้งโลกจะพุ่งไปแตะ 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2025 โดยเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ซึ่งถือว่าสูงมาก
ในเวลเนสมีอยู่ 11 กลุ่ม แต่กลุ่มที่เติบโตมากสุดคือความสวยความงาม การชะลอความแก่ อันดับ 2-4 เป็นเรื่องการออกกำลังกายและกินอาหารเพื่อสุขภาพ
นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ ที่ทำศัลยกรรมความงามครบวงจรมีลูกค้าต่อคิวจำนวนมาก ทั้งคนไทยและต่างชาติ เพราะพฤติกรรมเริ่มเปลี่ยน การศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องมีมาตรฐานทางการแพทย์ มั่นใจว่าไม่ไกลเกินรอประเทศไทยจะก้าวสู่ความฮับด้านความงามตีคู่กับประเทศเกาหลี ภายใต้การร่วมมือและยกระดับวิชาชีพ